Singha Drinking Water & Scotch Kitz present Teamlab Islands

บีอีซี-เทโร ยก “ทีมแล็บ ไอส์แลนด์” สวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟสุดล้ำจากญี่ปุ่น
มาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ครั้งแรก
พร้อมเปิดให้ทุกคนได้สัมผัส 1 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป

น้ำดื่มสิงห์ และ สก๊อต คิตซ์ ร่วมกับ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นำเข้าสวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟสุดล้ำจากญี่ปุ่น “ทีมแล็บ ไอส์แลนด์” (teamLab Islands: Dance! Art Museum, Learn & Play! Interactive Theme Park) แหล่งความรู้คู่ความสนุกใจกลางกรุง ที่จะช่วยเสริมสร้างความคิด กระตุ้นจินตนาการ และความตื่นตาตื่นใจ ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่รังสรรค์งานศิลปะผสมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในหลากหลายรูปแบบและถ่ายทอดให้ทุกคนได้สัมผัส เรียนรู้ และปลดปล่อยพลังทางสมองและร่างกายไปกับกิจกรรมต่างๆ ในระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2559 ณ เดอะ สเปซ (THE SPACE) ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
 
ทีมแล็บ ไอส์แลนด์ (teamLab Islands) คือ การรวมตัวของกลุ่มอัลตร้าเทคโนโลยี หรือ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี จากหลากหลายสาขา ทั้ง นักโปรแกรมเมอร์, วิศวกร, สถาปนิก, กราฟฟิค ดีไซเนอร์ และศิลปิน เพื่อสร้างผลงานอันเป็นนวัตกรรมที่ผสมผสานศิลปะ, วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ซึ่งทั้งหมดได้ร่วมกันสร้างสรรค์งานที่ผสมผสานเป็นนิทรรศการแห่งการเรียนรู้ใหม่ในรูปแบบ “สวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟ” ครั้งแรกของโลกได้อย่างน่าทึ่ง
 
“สวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟ” เหนือจินตนาการแห่งนี้ จะมอบประสบการณ์ใหม่ สุดมหัศจรรย์ให้แก่ผู้ชมชาวไทย ตั้งแต่ เด็กเล็ก วัยรุ่น หนุ่มสาว คนทำงาน รวมไปถึงผู้ใหญ่สูงวัย เพราะที่นี่เปรียบเสมือนห้องทดลองขนาดใหญ่ให้ผู้ชม ได้เรียนรู้และเล่นสนุกในเวลาเดียวกัน เพราะทุกคนจะได้สร้างสรรค์งานตามจินตนาการของตนเองให้เป็นจริงได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ พร้อมดื่มด่ำความงดงามของศิลปะ ในรูปแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน ใน 2 รูปแบบหลัก คือ ศิลปะมีชีวิต (Dance! Art Museum) การสร้างสรรค์ ดิจิตัล อาร์ต (Digital Art) เพื่อเนรมิตงานศิลปะให้มีชีวิต ขยายแนวคิดด้วยการใช้โสตประสาทอื่นๆ ในการรับรู้ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส หรือการได้ยินเสียง โดยแบ่งปันประสบการณ์จากศิลปินสู่ผู้ชม 5 โซน กับ โซนมหัศจรรย์เมืองดอกไม้ (Flowers and People, Cannot be Controlled but Live Together – A Whole Year per Hour), โซนอารยธรรมยั่งยืน (Flowers and Corpse Glitch Set of 12), โซนอมตะ (Nirvana), โซนโฉบเฉี่ยว (Crows are Chased and the Chasing Crows are Destined to be Chased as Well, Division in Perspective - Light in Dark) และ โซน 100 ปี แห่งการเปลี่ยนแปลง (100 Years Sea Animation Diorama)

และอีกรูปแบบคือ สวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟ (Learn & Play Interactive Theme Park) โปรเจค ศิลปะ กระตุ้นจินตนาการพร้อมสร้างความสนุกให้เกิดการเรียนรู้แบบไม่รู้จบ ซึ่งมี 8 โซนด้วยกัน คือ โซนหรรษาใต้มหาสมุทร (Sketch Aquarium), โซนโลกของมนุษย์จิ๋ว (A Table Where Little People Live), โซนอักษรแปลงร่าง (Story of the Time When Gods were Everywhere), โซนบอลยักษ์มหัศจรรย์ (Light Ball Orchestra), โซนเส้นทางในฝัน (Connecting! Train Block), โซนเมืองของเรา (Sketch Town), โซนแปลงร่าง สร้างชีวิต (Sketch Town Papercraft), และ โซนก้าว...กระโดด (Create! Hopscotch for Geniuses)

สวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟ ทีมแล็บ ไอส์แลนด์ (teamLab Islands) จะเป็นสถานที่ ที่ตอบโจทย์ คนทุกวัยไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นักศึกษา ไปจนถึงผู้ใหญ่วัยทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กๆ และทุกคนในครอบครัว ที่จะได้ใช้เวลาทำกิจกรรม และสนุกสนานไปด้วยกันภายในสวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟแห่งนี้ นอกจากนี้ ยังจะเป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจ และความคิดสร้างสรรค์ให้กับทุกคนอีกด้วย

เตรียมสัมผัสความมหัศจรรย์ของโลกใบใหม่ ที่ผสมผสาน ศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การเล่น และการเรียนรู้ไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว กับสวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟ ทีมแล็บ ไอส์แลนด์ (teamLab Islands) ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่าง วันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคมนี้ ณ เดอะ สเปซ (THE SPACE) ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บัตรเข้าชมราคา 350 บาท สามารถซื้อได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์      ทุกสาขา สำหรับลูกค้า เซ็นทรัล เวิลด์ รับโปรโมชั่นสุดพิเศษต้อนรับเปิดเทอม “แบ็ค ทู สคูล” (Back To School) สำหรับซื้อบัตรระหว่างวันที่ 1-8 พฤษภาคมนี้ ติดตามรายละเอียด ส่วนลด และโปรโมชั่นต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com โทร. 02 262 3838 ข้อมูลเพิ่มเติม http://exhibition.team-lab.net/bangkok และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.bectero.com, www.facebook.com/bectero

ทีมแล็บ ไอส์แลนด์
“สวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟ” สุดล้ำจากญี่ปุ่น … ใจกลางกรุงเทพฯ
(teamLab Islands: Dance! Art Museum, Learn & Play Interactive Theme Park)
 

ผู้ชมจะได้สัมผัสพัฒนาการของดอกซากุระ และดอกเรพบลอสซั่มในทุกๆ ชั่วโมง ตั้งแต่การเติบโต   จนแห้งเหี่ยว และหายไปในที่สุด ผลงานศิลปะชิ้นนี้นับเป็นการสะท้อนพฤติกรรมของผู้ชม ที่ส่งผลต่อการเติบโตของดอกไม้ โดยที่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องทำลายหรือควบคุมธรรมชาติ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งสวยงามให้กับโลก เพียงแค่เข้าใจพฤติกรรมของธรรมชาติและนำไป ฒนาระบบนิเวศของโลกให้น่าอยู่
 

 

ผลงานชิ้นนี้เกิดจากการรวบรวมภาพยนตร์ 12 เรื่อง ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติ และอารยธรรมเข้าด้วยกัน ด้วยการถ่ายทอดในรูปแบบภาพสามมิติ ซึ่งมีลักษณะเส้นใยตาข่ายที่แสดงถึง ความแตกต่าง ความคล้ายคลึง และการหมุนเวียนของอารยธรรม เช่น ความรุ่งเรืองและความหายนะ, อาวุธและสมรภูมิ, เมืองและป่าไม้ เป็นต้น ซึ่งอารยธรรมนั้นจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงหรือเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่แก่นแท้ของอารยธรรมนั้นยังคงหลงเหลืออยู่


 

สัมผัสการผสมผสานชั้นสีในช่องสี่เหลี่ยมหลายหมื่นชิ้น ภายใต้รูปแบบสามมิติและเคลื่อนไหวไปมา ด้วยเทคนิค Visual Effect แบบใหม่ ที่ผสมผสาน ยุคดิจิตัลกับเอกลักษณ์ในสไตล์ อิโตะ จาคุชู ซึ่งเป็นจิตรกรชาวญี่ปุ่นในช่วงกลางสมัยเอโดะ (พ.ศ.2259-2343) ที่สร้างงานผ่านตารางสี่เหลี่ยมหรือ “กระเบื้อง” หลายหมื่นชื้น ลงสีแยกกันทีละแผ่น ซึ่งถือเป็นศิลปะสมัยใหม่ในยุคต้น
 

 

ผู้ชมจะถูกโอบล้อมด้วยจอ ผ่านเทคนิคเอนิเมชั่นที่เรียกว่า อิตาโน่ เซอร์คัส โดยจะสร้างความรู้สึกว่า นกยาตางาราสุได้โบยบินฉวัดเฉวียนอยู่รอบตัว ด้วยความลงตัวของเทคนิคต่างๆ ทำให้ผลงานชิ้นนี้สามารถสร้างความวิจิตรตระการตาได้เป็นอย่างมาก
 
ซึ่งความสวยงามของนกยาตางาราสุ หรือ อีกา 3 ขา ในตำนานเทพปกรณัมของญี่ปุ่นนั้นถูกสร้างสรรค์โดย อิชิโระ อิตาโน่ ศิลปินที่ตั้งใจวาดแบบบิดเบี้ยวและผิดสัดส่วนเพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่รุนแรงยิ่งขึ้น
 

ทีมแล็บได้สร้างภาพที่แสดงให้เห็นระดับการขึ้นลงของน้ำทะเลเชิงศิลปะ ที่เปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ งานชิ้นนี้มีทั้งความสุนทรีย์และความล่มสลายในเวลาเดียวกัน โดยเป็นภาพหมุนเวียนผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในช่วง 100 ปี ก่อนที่จะกลับมา ที่จุดเริ่มต้นใหม่ ทะเลในรอบศตวรรษนั้นได้ข้อมูลเบื้องต้นทางวิทยาศาสตร์มาจาก มูลนิธิสัตว์ป่าโลกสากล (World Wildlife Foundation หรือ WWF) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำนายระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นในช่วงหนึ่งศตวรรษ ช่วงเวลา 100 ปี ที่แสดงอยู่นี้อยู่ระหว่างปี 2009 และ 2109 และถูกย่นจนเหลือเพียง 10 นาทีในงานชิ้นนี้ เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ส่งผลต่อมหาสมุทรของเรา ถ้าหากไม่มีใคร   ลงมือป้องกันอย่างเร่งด่วน
 

ร่วมกันสร้างสรรค์ สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลให้สดใสด้วยการระบายสีลงแผ่นกระดาษจากทีมแล็บ ไอส์แลนด์ และผลงานนั้นจะถูกเนรมิตให้มีชีวิต เคลื่อนไหว แหวกว่ายในตู้ปลาขนาดใหญ่ที่ไม่เหมือนตู้ปลาทั่วไป เพราะนอกจากเป็นสัตว์น้ำที่เด็กๆ ให้สีสันด้วยตัวเองแล้ว ก็ยังสามารถเล่นและให้อาหารสัตว์น้ำที่พวกเขาสร้างขึ้นมาได้ด้วย

 

สนุกกับเมืองของมนุษย์จิ๋ว ที่เด็กๆ สามารถใช้มือหรือสิ่งของวางลงไปบนโต๊ะ ก็จะเกิดผลต่อมนุษย์จิ๋วที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมไปถึงสัตว์และสิ่งของต่างๆ ที่สัมพันธ์กันอย่างลงตัว นอกจากความสนุกสนานแล้ว ยังได้สอดแทรกกฎฟิสิกส์เข้าไปด้วย
 

 

เมื่อแตะที่ตัวอักษรโบราณของญี่ปุ่นที่อยู่บนผนัง ความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ตัวอักษรนั้นจะปรากฎขึ้นเป็นภาพ ถือเป็นการแสดงความเชื่อมโยงระหว่างตัวอักษรกับสิ่งที่เราเห็นในโลก โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เชื่อมโยงและสัมพันธ์กันอย่างลงตัว
 

เพียงแค่ลูกบอลถูกแตะ หรือ กระทบกันระหว่างลูกบอลด้วยกันเอง ก็สามารถเปลี่ยนสีของลูกบอล ที่อยู่รอบๆ ได้ ทั้งยังผสานเสียงเป็นเพลงออเคสตร้า ที่เด็กๆ สามารถสร้างสรรค์ร่วมกับผู้อื่น นับเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งหู ตา และมือ ที่สร้างจินตนาการให้พวกเขาได้เป็นอย่างดี

สร้างสรรค์เส้นทางตามจินตนาการของตัวเองร่วมกับผู้อื่น ด้วยบล็อกพิเศษ ที่เนรมิตถนนและรางรถไฟ รวมทั้งทิวทัศน์ต่างๆ อย่างน่าทึ่ง เด็กๆ จะได้เรียนรู้วิวัฒนาการของยานยนต์ และรู้จักการยอมรับความคิดสร้างสรรค์ของผู้อื่น รู้จักประนีประนอม ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้เป็นเมืองในฝัน ของทุกคน และเมื่อใดที่เฮลิคอปเตอร์ปรากฎขึ้นมา เด็กๆ ก็จะได้เห็นเมืองที่ตัวเองสร้างจากมุมสูงเป็นภาพสามมิติที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย
 

เด็กๆ สามารถสร้างเมืองได้จากจินตนาการของพวกเขาเอง พร้อมทั้งรอดูสิ่งต่างๆ เติบโตและพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น รถ ตึก ยานอวกาศ หรือแม้กระทั่ง ยานยูเอฟโอ โดยเด็กๆ สามารถเล่นสนุกกับเมืองของพวกเขาได้ เช่น เมื่อแตะที่ภาพรถ รถนั้นก็จะวิ่งเร็วขึ้น ซึ่งนับเป็นการเรียนรู้ในเรื่องเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี และเด็กๆ ยังจะได้ตื่นเต้นกับมุมมองจากบนฟ้าในรูปแบบ สามมิติอีกด้วย
 

เพียงแค่ระบายสีเทียนที่รถ หรือ ที่ตึก ลงบนกระดาษของทีมแล็บ ไอส์แลนด์ เด็กๆ ก็สามารถเปลี่ยนภาพวาดให้เป็นโมเดลกระดาษสามมิติจากผลงานการระบายสีของตัวเอง ซึ่งจะเป็นโมเดลกระดาษชิ้นเดียวในโลก ที่ไม่เหมือนใคร
 

 

สร้างสรรค์เส้นทางด้วยตัวเอง และกระโดดอย่างสนุกไปบนรูปทรงที่หลากหลายบนลำธารสายพิเศษ เมื่อเราเหยียบรูปทรงที่มีสีสันเหล่านั้น สีก็จะกระจายออกอย่างสวยงามพร้อมเสียงประกอบที่เร้าใจ พร้อมกับส่งผลต่อธรรมชาติที่อยู่บนจอด้านข้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสวยงาม ซึ่งเด็กๆ จะได้ใช้ร่างกายทุกส่วนในการเล่นและคอยสังเกตหาความเชื่อมโยง ระหว่างรูปร่างและสีสัน ซึ่งถือเป็นการเรียนรู้และเล่นไปในเวลาเดียวกัน