เปิดวิธีเลือกชุดแต่งงานอย่างไรในยุค New Normal
ในยุคของการเปลี่ยนแปลงแบบปกติใหม่ หรือ New Normal ที่ทุกคนต้องปรับตัวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จะเห็นได้ว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของหลายคนได้เปลี่ยนไปรวมไปถึงแนวความคิดเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานด้วยเช่นกัน
ซึ่งล่าสุด ฌอน-ชวนล ไคสิริ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ฝีมือเฉียบ จากแบรนด์ ‘โพเอม’ (POEM) ได้มาบอกเล่าถึงรูปแบบการเลือกชุดแต่งงานของเจ้าบ่าว และเจ้าสาว ในช่วงที่ผ่านมาที่เปลี่ยนแปลงไป โดยสะท้อนจากความนิยมของรูปแบบจัดงานแต่งงาน พร้อมเปิดตัว คอลเลกชั่นไทม์เลส (Timeless collection) เครื่องแต่งกายคุณภาพสูง ดีไซน์เรียบโก้อยู่เหนือกาลเวลา ที่คู่แต่งงานสามารถเลือกสวมใส่และดูดีได้ในแบบที่ตัวเองพึงพอใจ
ฌอน-ชวนล ไคสิริ
‘โพเอม’ (POEM) แบรนด์เสื้อผ้าสุภาพสตรี และสุภาพบุรุษคุณภาพสูง ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2006 กับการดีไซน์ที่ผสมผสานการตัดเย็บเสื้อผ้าแบบบูติคเข้ากับไลฟ์สไตล์ของหนุ่มสาวในปัจจุบัน โดยมีแนวคิดหลักจากการนำมุมมองในเรื่องโครงสร้าง รูปทรง และเส้นสายทางสถาปัตยกรรมมาผสมผสานเข้ากับสัดส่วนสรีระของหนุ่มสาว ผ่านไอเดียของ ฌอน–ชวนล ไคสิริ ผู้หลงใหลในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก ที่ใช้เทคนิคการตัดเย็บเสื้อผ้าแบบเดรสเมคกิ้งจากประเทศฝรั่งเศส อีกทั้งยังมีโพเอม กูตูร์ (POEM Couture) ชุดราตรีและชุดแต่งงานที่รังสรรค์ขึ้นจากคาแรคเตอร์ของผู้สวมใส่โดยเฉพาะ
ฌอน-ชวนล ไคสิริ กล่าวถึงความนิยมในการเลือกชุดแต่งงานในปัจจุบันว่า “ตั้งแต่คนไทยเริ่มเรียนรู้ และรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ เราจะเห็นว่าไลฟ์สไตล์ของคนนั้นเปลี่ยนไป คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีความสุขกับสิ่งรอบตัว รวมไปถึงการจัดงานแต่งงานด้วยเช่นกัน จริงอยู่ว่าอาจเป็นเพราะกฎระเบียบของการจัดงานที่ต้องจำกัดจำนวนคน แต่เรากลับมองว่าค่านิยมของคนนั้นเริ่มเปลี่ยนไปด้วย เห็นได้จากตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็จะมีว่าที่บ่าวสาวหลายๆ คู่ ที่เข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องชุดแต่งงาน โดยอยากได้เพียงชุดแต่งงานที่เรียบง่าย และเป็นสไตล์ของตัวเองมากที่สุด ราคาจับต้องได้ ไม่หวือหวาเหมือนแต่ก่อน เนื่องจากรูปแบบการจัดงานเป็นเพียงพิธีเลี้ยงพระ ยกน้ำชา และรับประทานอาหารกลางวันกับครอบครัวหรือคนสนิท การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมันเหมือนเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่คนเริ่มเปลี่ยนมุมมองหันมามีความสุขกับสิ่งเรียบง่ายกันมากขึ้น อย่างว่าที่เจ้าสาวหลายๆ คน ก็ไม่ค่อยนิยมสั่งตัดชุดแล้ว แต่จะเลือกใช้ชุดสำเร็จรูปที่สามารถใส่เป็นชุดเจ้าสาวได้ บางคนก็จะสั่งตัดแต่ก็จะเลือกดีไซน์ที่เรียบง่าย ไม่หวือหวา ส่วนคนที่ยังนิยมชุดราตรีกลางคืนก็ยังมีบ้าง”
ฌอน-ชวนล ไคสิริ กล่าวถึงความนิยมในการเลือกชุดแต่งงานในปัจจุบันว่า “ตั้งแต่คนไทยเริ่มเรียนรู้ และรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ เราจะเห็นว่าไลฟ์สไตล์ของคนนั้นเปลี่ยนไป คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีความสุขกับสิ่งรอบตัว รวมไปถึงการจัดงานแต่งงานด้วยเช่นกัน จริงอยู่ว่าอาจเป็นเพราะกฎระเบียบของการจัดงานที่ต้องจำกัดจำนวนคน แต่เรากลับมองว่าค่านิยมของคนนั้นเริ่มเปลี่ยนไปด้วย เห็นได้จากตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็จะมีว่าที่บ่าวสาวหลายๆ คู่ ที่เข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องชุดแต่งงาน โดยอยากได้เพียงชุดแต่งงานที่เรียบง่าย และเป็นสไตล์ของตัวเองมากที่สุด ราคาจับต้องได้ ไม่หวือหวาเหมือนแต่ก่อน เนื่องจากรูปแบบการจัดงานเป็นเพียงพิธีเลี้ยงพระ ยกน้ำชา และรับประทานอาหารกลางวันกับครอบครัวหรือคนสนิท การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมันเหมือนเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่คนเริ่มเปลี่ยนมุมมองหันมามีความสุขกับสิ่งเรียบง่ายกันมากขึ้น อย่างว่าที่เจ้าสาวหลายๆ คน ก็ไม่ค่อยนิยมสั่งตัดชุดแล้ว แต่จะเลือกใช้ชุดสำเร็จรูปที่สามารถใส่เป็นชุดเจ้าสาวได้ บางคนก็จะสั่งตัดแต่ก็จะเลือกดีไซน์ที่เรียบง่าย ไม่หวือหวา ส่วนคนที่ยังนิยมชุดราตรีกลางคืนก็ยังมีบ้าง”
ฌอน-ชวนล ไคสิริ แนะนำเคล็ดลับการเลือกชุดสำหรับว่าที่เจ้าบ่าว และเจ้าสาวว่า “อันดับแรกต้องเลือกชุดที่เป็นตัวเอง ใส่แล้วมั่นใจ ต้องลองใส่แล้วถ่ายรูปดูว่าเรามั่นใจไหมถ้าต้องใส่ชุดนี้ในวันสำคัญ สำหรับเจ้าสาวที่จะเลือกใส่ชุดแบบเรดี้ทูแวร์ (Ready-to-Wear) หากไม่ได้เป็นคนหวานมาก ในช่วงพิธีเช้าก็สามารถใส่เสื้อเชิ้ตกับกระโปรงบานทรงเอ (A-Line)
ส่วนช่วงรับประทานอาหารที่ต้องถ่ายรูปกับแขกอาจจะเปลี่ยนท่อนล่างเป็นกระโปรงยาวหางปลาก็ได้ เพื่อให้ยืนถ่ายรูปแล้วดูสง่าขึ้น หรือใส่เป็นเดรสสั้นก็ได้ เจ้าสาวบางคนอยากใส่สูทก็มี ถ้าใส่แล้วเขามั่นใจขึ้น เราก็จะแนะนำ หรือถ้าเจ้าสาวบางคนที่ชื่นชอบความโมเดิร์นก็จะเลือกใส่ชุดสีควันบุหรี่ สีนู้ด สีเบจ แต่ถ้าคุณเลือกชุดที่ซิลลูเอทมีความแตกต่างจากชุดเจ้าสาวแบบเดิมๆ เราก็อยากแนะนำให้ใส่สีขาว เพราะสีขาวจะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าคุณคือเจ้าสาวของงานนี้
ส่วนช่วงรับประทานอาหารที่ต้องถ่ายรูปกับแขกอาจจะเปลี่ยนท่อนล่างเป็นกระโปรงยาวหางปลาก็ได้ เพื่อให้ยืนถ่ายรูปแล้วดูสง่าขึ้น หรือใส่เป็นเดรสสั้นก็ได้ เจ้าสาวบางคนอยากใส่สูทก็มี ถ้าใส่แล้วเขามั่นใจขึ้น เราก็จะแนะนำ หรือถ้าเจ้าสาวบางคนที่ชื่นชอบความโมเดิร์นก็จะเลือกใส่ชุดสีควันบุหรี่ สีนู้ด สีเบจ แต่ถ้าคุณเลือกชุดที่ซิลลูเอทมีความแตกต่างจากชุดเจ้าสาวแบบเดิมๆ เราก็อยากแนะนำให้ใส่สีขาว เพราะสีขาวจะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าคุณคือเจ้าสาวของงานนี้
สำหรับชุดเจ้าบ่าวควรจะไปในทิศทางเดียวกันกับเจ้าสาว อาจเป็นชุดที่สีแมทช์กัน หรือซิลลูเอทไปในทิศทางเดียวกัน อย่างถ้าเป็นงานกลางวันที่เจ้าสาวไม่ได้ใส่ชุดยาว เจ้าบ่าวก็อาจจะใส่เป็นสูทสีเทาอ่อน สีกากี ที่ทำให้ลุคดูลำลองขึ้น ดูสบายขึ้น แต่ก็ต้องระวังเรื่องการเลือกสี โดยเทียบกับสีของชุดเพื่อนเจ้าบ่าวด้วย ถ้าเพื่อนเจ้าบ่าวใส่สีกรมหรือสีน้ำตาล เจ้าบ่าวก็อาจจะใส่สีเบจ บ่าวสาวที่เข้ามาปรึกษาเรื่องชุดกับเรา ถ้าได้ไอเดียกันทั้งคู่แล้ว เราจะให้เขาถ่ายรูปคู่กันว่ามันออกเป็นยังไง เราจะช่วยเขาคุมโทนให้ทุกอย่างไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ทางแบรนด์ยังสามารถให้คำปรึกษาเรื่องชุดให้กับทางครอบครัว รวมไปถึงเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาวได้อีกด้วย เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด”
สำหรับเจ้าสาว นอกจากการเลือกชุดให้เหมาะกับคาแรคเตอร์แล้ว การแต่งหน้าทำผมก็ควรที่เป็นสไตล์ที่เหมาะกับตัวเองเช่นกัน เจ้าสาวทุกคนอาจจะต้องทำการบ้านว่าการแต่งหน้าทำผมแบบไหนที่ทำออกมาแล้วมั่นใจ และเป็นสไตล์ของตัวเองที่สุด และอีกหนึ่งเคล็ดลับในการสวมใส่ชุดของ ‘โพเอม’ (POEM) ให้ออกมาดูดีนั้นทางครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ได้เสริมว่า
“ชุดของเราผู้หญิงรูปร่างไหนก็ใส่ได้ ไม่จำเป็นต้องผอมหรือหุ่นดีเสมอไป เพียงแค่คุณต้องมั่นใจ ผู้หญิงที่ใส่โพเอมทุกคนต้องรู้จักตัวเองในระดับหนึ่ง รู้ว่าชอบอะไร มีจุดเด่นตรงไหน ถ้าคุณรู้จักตัวเองแล้ว ชุดของโพเอมจะช่วยดึงความมั่นใจของคุณออกมา เพราะเราจะมีการพูดคุยอ่านคาแรคเตอร์ และวัดตัวของลูกค้าทุกคนด้วยตัวเอง เพื่อนำมาดีไซน์ชุดที่ตรงกับบุคลิกและรูปร่างของเขาที่สุด”
และด้วยวิถีของเดรสเมคเกอร์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดนี้ ทำให้แบรนด์ ‘โพเอม’ (POEM) ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และได้เป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรกที่ได้เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ที่เมืองเซียงไฮ้ ในห้างสรรพสินค้า Plaza 66 ประเทศจีน