TTM Variety

เปิดการแสดงสุดยิ่งใหญ่ กับโชว์มหัศจรรย์ขวัญใจทุกคนในครอบครัว Disney On Ice presents Find Your Hero

28 มี.ค. 2568, 13:00 น.

เป็นอีกปีที่เปิดการแสดงอย่างยิ่งใหญ่ กับโชว์มหัศจรรย์ขวัญใจทุกคนในครอบครัว “Disney On Ice presents Find Your Hero” (ดิสนีย์ ออน ไอ

โดยในปีนี้ดิสนีย์ ออน ไอซ์กลับมาพร้อมกับโชว์เจ้าหญิงดิสนีย์สุดคลาสสิก เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เพียง 9 รอบการแสดงเท่านั้น

ในการแสดงรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่27 มีนาคมที่ผ่านมา นำทัพความสนุกโดยเหล่าครอบครัวดารา ไอซ์ อภิษฎา, นุ้ย สุจิรา, อภินันท์, อั๋น ภูวนาถ, ฮาน่า ทรรศนาวลัย, เบนซ์ พรชิตา – มิค บรมวุฒิ, โบว์ สาวิตรี, โด่ง ศิระ - ออม ภัสสร, เชฟตูน – ทิชา, พล พูลภัทร, ตาล กัญญา, กีต้าร์ ศิริพิชญ์, น้องฮิมาวาริ ทาจิริ, ฟลุค จิระ ศิลปินคนรักดิสนีย์หลากหลายวัย ทั้งอูน ชนิสรา, พิ้งค์พลอย ปภาวดี, ปิ่น ชรินพร, อ๋อม ปัณชญา, ตู่ Soundtiss พร้อมการแสดงสุดพิเศษจากน้องขวัญใจ Universal Music Thailand ที่มาร่วมร้องเพลง Part of Your World และ Let It Go ต้อนรับการมาเยือนของ 3 เจ้าหญิงขวัญใจเด็ก ๆ อย่างแอเรียล, เอลซ่า และอันนา

“Disney On Ice presents Find Your Hero” (ดิสนีย์ ออน ไอซ์ พรีเซ้นทส์ ไฟนด์ ยัวร์ ฮีโร่) เป็นการแสดงสุดคลาสสิกบนลานน้ำแข็งที่จะพาแฟนดิสนีย์ร่วมออกผจญภัยไปกับเหล่าเจ้าหญิงในดวงใจ ก้าวเข้าสู่โลกแห่งเสียงเพลงและพลังวิเศษของเอนคานโต้ไปกับครอบครัวของมิราเบล สัมผัสสายลมแสงแดดของเกาะโมทูนุย และร่วมกอบกู้หัวใจของเตฟิติไปพร้อมกับโมอาน่า เป็นกำลังใจให้อันนา และเอลซ่า กับภารกิจสุดยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องอาณาจักรอันเป็นที่รักของพวกเธอ ดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลของแอเรียล พร้อมต้องมนต์กับปราสาทของเจ้าชายอสูรกับเบลล์ แล้วโหนเถาวัลย์พันเกี่ยวเลี้ยวรอบโลกเพื่อล่าฝันไปกับราพันเซล นำทัพโดยสองคาแรกเตอร์ขวัญใจมหาชน มิกกี้และมินนี่ ที่จะพาเราไปชมการแสดงจากนักสเก็ตระดับโลก แต่งแต้มจินตนาการและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทุกเพศ ทุกวัย

นอกจากนี้ ในปีนี้ Live Nation Tero ได้ร่วมกับ ช่อง 7HD โดยมีคุณไบรอัน แอล มาร์การ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ และคุณพัฒนพงค์ หนูพันธ์ กรรมการผู้จัดการช่อง 7HD ร่วมสร้างรอยยิ้มให้น้อง ๆ กว่า 700 คน จากมูลนิธิ Mercy Center มูลนิธิบ้านตะวันใหม่ และ น้อง ๆ จากศูนย์นันทนาการและศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) สังกัดสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จำนวน 35 แห่ง เข้าชมการแสดงในรอบปฐมทัศน์นี้อีกด้วย

หนีร้อนไปฉลองปิดเทอมใหม่ในบรรยากาศสุดเย็นฉ่ำพร้อมกันทั้งครอบครัว กับ “Disney On Ice presents Find Your Hero” เปิดการแสดงรอบภาษาไทยและภาษาอังกฤษรวมอีก 8 รอบการแสดงเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568 บัตรราคาเริ่มต้น 800 บาท เปิดจำหน่ายที่ thaiticketmajor.com หรือบริเวณหน้างาน

มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ! ประมวลภาพ “เอิร์ท-มิกซ์-ชาคริต” ฟูลฟิลทัชใจแฟนๆ ในงาน “Ossan’s Love Final EP. FAN MEETING”

26 มี.ค. 2568, 18:00 น.

เปิดศึกรักกันมาหลายยก สำหรับคู่ฮอตสุดปัง “เอิร์ท พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ” และ “มิกซ์ สหภาพ วงศ์ราษฎร์” ที่ประชันฝีมือกับนักแสดงรุ่น

“Ossan’s Love Thailand รักนี้ให้ “นาย”” ฉบับเวอร์ชั่นไทย จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย ก็เดินทางมาถึงบทสรุปความรักสุดวุ่นวายของหนุ่มโสดนายหน้า จัดหาบ้านที่ไม่เคยมีดวงเรื่องความรัก กลับต้องมากลายเป็นหนุ่มเนื้อหอม สร้างความสนุกสนานประทับใจ จนพุ่งติดเทรนด์ X “อันดับ 1” ทุกตอน ล่าสุดทีมนักแสดง นำโดย “เอิร์ท พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ, มิกซ์ สหภาพ วงศ์ราษฎร์, ชาคริต แย้มนาม” พร้อมด้วย “กระปุก พลอยนิรา หิรัญทวีศิลป์, ริว พุติพัฒน์ พุทโธนะโมชัย, ป่าน ณัชชา เชื้อแดง, โต๋ ทินพันธ์ ตันตุ้ย, แชมป์ ณัฐรัชต์ ก้อนแก้ว” และผู้กำกับมากฝีมือ “อู๋ กรพรหม นิยมศิลป์” แท็คทีมกันมาชวนแฟนๆ ร่วมชมตอนจบ พร้อมซึมซับบรรยากาศเลี้ยงปิดกล้อง ในงาน “Ossan’s Love Final EP. FAN MEETING” เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568 ณ ชั้น 6 สยามพารากอน โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย Paragon Cineplex

เปิดเวทีด้วย 3 เพลงเพราะๆ จาก “เอิร์ท-มิกซ์” เรียกเสียงกรี๊ดลั่นโรงตั้งแต่เริ่มงาน กับเพลง “แต้มบุญ” (Lucky Fan), “ฝันในฝัน” (False Awakening), “สะมะกึ๊กสะมะกั๊ก” (Stuckling) จากนั้นพิธีกรอารมณ์ดี “เลโอ โซสเซย์” พาแฟนๆ เข้าสู่บรรยากาศงาน “Ossan’s Love Final EP. FAN MEETING” อย่างเป็นทางการ เมื่อนักแสดงรวมตัวพร้อมหน้าพร้อมตา “เลโอ” เลยถือโอกาสเลี้ยงปิดกล้อง ด้วยการให้ “แชมป์” ที่รับบทเจ้าของร้านอาหารอีสานชัยมาเสะ เสิร์ฟเครื่องดื่มให้ทุกคนบนเวที โดยมีเซอร์ไพร์ส แอบใส่คำถามของแต่ละคนลงไปในแก้ว และแต่ละคนต้องตอบคำถามตามความจริง เริ่มจาก “เอิร์ท, มิกซ์, ชาคริต” กับคำถาม “ตำนานลำปางมีแต่เรื่อง” ทั้งเรื่อง “มิกซ์” เจอม้าพยศ, แม่ “มิกซ์” ทำข้าวมาเลี้ยงทั้งกอง, “มิกซ์” ถูกล็อตเตอรี่คนเดียวทั้งกอง, “เอิร์ท” แช่บ่อน้ำร้อนนวด “พี่จาตุรงค์” ต่อด้วย “โต๋” ผู้กำกับลุ้น “โต๋” เข้าซีน มักหลุดสำเนียงเเหนือ ส่วน “ป่าน” อินเนอร์พ่อลูกมาจริง ปล่อยโฮตอนเข้าซีนกับ “พี่ชาคริต” ทางด้าน “กระปุก” ผู้กำกับชม เก่ง สวย ดราม่าก็ดี คอมเมดี้ก็ผ่านฉลุย มาถึงน้องคนเล็ก “ริว” กินเก่งมาก ถึงขั้นกองถ่ายเป็นห่วงว่าจะมีอาหารเลี้ยงเด็กคนนี้พอไหม ส่วน “แชมป์” ตัวฮาประจำกองเสิร์ฟมุกไม่เว้น ให้ทำอะไรก็สามารถทำได้ ก่อนจะเชิญผู้กำกับฯ “อู๋” ที่มาร่วมเติมเต็มความสนุกครบรส กับเบื้องลึกเบื้องหลัง ฉากตลกที่สุด เรียกน้ำตาที่สุด และโรแมนติกที่สุด

จากนั้นทุกคนร่วมกันถ่ายภาพเก็บความประทับใจ ก่อนเข้าสู่ช่วงที่ทุกคนรอคอย ร่วมชมตอนสุดท้ายไปพร้อมๆ กัน ที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งตอน และปิดท้ายความสนุกด้วยเพลง “คนที่ตามหา” จาก “เอิร์ท-มิกซ์” ส่งแฟนๆ กลับบ้านด้วยความอบอุ่นฟูลฟิลทัชใจกับทุกโมเมนต์

หนึ่งในศิลปินชายที่มาแรงที่สุด! คอนเสิร์ต JEFF SATUR ประกาศเพิ่มรอบ 2 แล้ว

26 มี.ค. 2568, 15:30 น.

ณ นาทีนี้ “เจฟ ซาเตอร์” คือหนึ่งในศิลปินชายที่มาแรงที่สุด ทั้งในบทบาทของนักร้อง นักแสดง และโปรดิวเซอร์มากความสามารถที่สร้างสรรค์ผล

โดยในรอบปีที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดตัวอัลบั้มแรก JEFF SATUR : Space Shuttle No.8 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ต่อด้วย คอนเสิร์ตเอเชียทัวร์ JEFF SATUR: Space Shuttle NO.8 Asia Tour ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามระดับ Sold Out หลังจากนั้น ชื่อของ “เจฟ ซาเตอร์” ก็ได้กลายเป็นกระแสที่ติดลมบน ด้วยบทเพลงฮิตยอดวิวหลักร้อยล้านที่ทุกคนได้ฟังและฮัมตามกันได้ รวมถึงฝีไม้ลายมือในการแต่งเพลง และโปรดิวซ์เพลง ด้วยตัวเองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร

นอกจากนั้นยังมีผลงานการแสดงนำ ในภาพยนตร์เรื่อง “วิมานหนาม” ที่พลิกบทบาทได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และได้รับเสียงชื่นชมอย่างเกินความคาดหมาย ซึ่งในปีที่ผ่านมา “เจฟ ซาเตอร์” ได้กลายเป็นศิลปินชายอันดับหนึ่ง พร้อมกวาด “รางวัลศิลปินชายยอดเยี่ยมแห่งปี 2567” จากหลายสื่อหลายสำนัก เวทีหลัก ๆ เช่น The Guitar Mag Awards 2024, รางวัลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 14, คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 20 รวมถึงได้รับผลโหวตอันดับหนึ่งที่สุดแห่งปี 2567 ในหมวด “นักร้องเพลงไทยสากลชายที่สุดแห่งปี 2567” จาก สวนดุสิตโพล และอื่น ๆ อีกมากมาย

แม้จะมีรางวัลมากมายที่การันตีความสำเร็จ แต่ความสามารถของเจฟยังไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ ศิลปินชายคนนี้ยังพร้อมที่จะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าอย่างเปล่งประกาย เปรียบเสมือนดาวฤกษ์ที่เติบโตเต็มที่ในระยะสุดท้าย ก่อนที่จะวิวัฒนาการและระเบิดออกเพื่อกำเนิดเป็นดาวดวงใหม่ หรือที่เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “Red Giant” และความมหัศจรรย์นี้ คือปรากฏการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับ เจฟ ซาเตอร์ ในปีนี้ กับ est Cola presents JEFF SATUR: RED GIANT CONCERT ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2568 ซึ่งได้เปิดขายบัตรรอบแรกหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเปิดขายบัตรรอบ 2 ที่จะจัดขึ้นใน วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2568 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

ใครที่กดไม่ทันรอบแรก เตรียมตัวให้พร้อม อย่าลังเล เดี๋ยวกดบัตรไม่ทันอีกนะทุกคน **กดบัตรพร้อมกันวันศุกร์ที่ 28 มีนาคมนี้ เวลา 10.00 โมงเช้าเป็นต้นไป** ซื้อบัตรได้ที่ ALL TICKET และ เคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ บัตรราคา 2,000 / 2,500 / 3,000 / 3,500 / 4,000 / 4,500 / 5,000 / 5,500 / 6,000

พฤหัสนี้เจอเลย! Disney On Ice presents Find Your Hero 27 – 30 มีนาคม 2568 อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

25 มี.ค. 2568, 18:00 น.

กลับมาอีกครั้ง “Disney On Ice presents Find Your Hero” (ดิสนีย์ ออน ไอซ์ พรีเซ้นทส์ ไฟนด์ ยัวร์ ฮีโร่) โชว์มหัศจรรย์ที่พร้อมมอบควา

เตรียมตัวเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวคลาสสิคและเรื่องราวใหม่ ๆ ที่จะสร้างรอยยิ้มให้กับทุกช่วงวัย พบกัน 27 – 30 มีนาคม 2568 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

ไลฟ์ เนชั่น เทโร ชวนน้อง ๆ หนู ๆ และทุกคนในครอบครัวมาร่วมออกผจญภัยครั้งใหม่ไปกับตัวละครดิสนีย์ที่ทุกคนชื่นชอบ ก้าวเข้าสู่โลกแห่งเสียงเพลงและพลังวิเศษของเอนคานโต้ไปกับครอบครัวของมิราเบล สัมผัสสายลมแสงแดดของเกาะโมทูนุย และร่วมกอบกู้หัวใจของเตฟิติไปพร้อมกับโมอาน่า เป็นกำลังใจให้อันนา และเอลซ่า กับภารกิจสุดยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องอาณาจักรอันเป็นที่รักของพวกเธอ พร้อมพบกับเรื่องราวสุดมุ่งมั่น กล้าหาญ และเปี่ยมไปด้วยน้ำใจ จากเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคน

ดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลของแอเรียล พร้อมต้องมนต์กับปราสาทของเจ้าชายอสูรกับเบลล์ แล้วโหนเถาวัลย์พันเกี่ยวเลี้ยวรอบโลกเพื่อล่าฝันไปกับราพันเซล นำทัพโดยสองคาแรกเตอร์ขวัญใจมหาชน มิกกี้และมินนี่ ที่จะพาเราไปชมการแสดงจากนักสเก็ตระดับโลก ฟังเพลงดิสนีย์ที่ตราตรึงใจ และเครื่องแต่งกายสุดอลังการ ดื่มด่ำความสุข เติมเต็มจินตนาการของทุกคนในครอบครัวในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนี้

การแสดง “Disney On Ice presents Find Your Hero” จะเปิดแสดงรอบแรกในวันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม ถึงอาทิตย์ที่ 30 มีนาคมนี้ เพียง 4 วัน 9 รอบการแสดงเท่านั้น ห้ามพลาด พร้อมโชว์ใหม่จากเอนคานโต้เป็นครั้งแรก! และพิเศษร่วมชมโชว์พรีโชว์เซสชั่นจากน้อง ๆ ที่ชนะเลิศจากแคมเปญ Pre-show Audition วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม (18.30 น.) ร่วมเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ได้ซื้อบัตรด่วนที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ หรือที่หน้างาน

TEN ปล่อยมินิอัลบั้มชุดที่ 2 STUNNER ดึงดูดทุกสายตาราวกับแม่เหล็ก

25 มี.ค. 2568, 17:00 น.

เปิดตัวมาสร้างความตะลึงดึงดูดทุกสายตาราวกับแม่เหล็ก ! สำหรับมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘STUNNER’ ของ TEN ที่ประกอบด้วยทั้งหมด 7 เพลงที่มี

ซึ่งจะพาผู้ฟังไปสัมผัสกับโลกดนตรีที่มีความไดนามิกมากขึ้นของ TEN (เตนล์) โดยเพลงทั้งหมดได้ถูกปล่อยออกมาเรียบร้อย ในวันที่ 24 มีนาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย 16:00 น. ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงต่าง ๆ ทั่วโลก

โดยเฉพาะเพลงไตเติลชื่อเดียวกับอัลบั้มว่า ‘STUNNER’ (สตันเนอร์) เป็นเพลงแนว R&B Pop ผสมผสานเครื่องดนตรีที่มีจังหวะดึงดูดใจกับเสียงสังเคราะห์ โดยทุกคนจะได้สัมผัสตั้งแต่เสียงร้องที่มีจังหวะและไพเราะ ไปจนถึงการแรปและเสียงกระซิบในโทนสุดชิค เนื้อเพลงสื่อถึงความรู้สึกที่เพิ่มขึ้นต่อคนที่มีเสน่ห์เกินคาด ยิ่งไปกว่านั้น ‘STUNNER (English Version)’ จะไม่เหมือนกับเวอร์ชันภาษาเกาหลีที่เกี่ยวกับความรู้สึกถูกดึงดูดโดย 'ฝ่ายตรงข้าม' แต่ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษจะมีข้อความว่า 'ตัวฉัน' เป็นคนที่เปล่งประกาย ซึ่งเนื้อหาที่แตกต่างกันในแต่ละเวอร์ชันนี้ยิ่งช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการรับฟังมากขึ้น ด้านมิวสิกวิดีโอของเพลงไตเติล ‘STUNNER’ (สตันเนอร์) ถ่ายทอด TEN (เตนล์) ในฐานะบุคคลที่มีพลังแม่เหล็กดึงดูดทุกอย่างทั้งผู้คนและสิ่งของ โดยการแสดงของเพลงนี้จะเริ่มต้นขึ้นด้วยภาพลักษณ์ที่ดูมีความผ่อนคลายของ TEN (เตนล์) แล้วจึงระเบิดพลังออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ตามเพลงที่ดำเนินไป โดยเขาจะทำให้ทุกคนต้องหลงเสน่ห์อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยท่าเต้นสำคัญที่มีการใช้มือตามเนื้อเพลงอย่าง ‘Stunner’, ‘Fire’ ที่ร้องซ้ำ ๆ ในท่อนคอรัส พิสูจน์อีกครั้งถึงคำขนานนามว่า ‘Artistic Performer’

ในมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘STUNNER’ (สตันเนอร์) ยังมีเพลงภาษาอังกฤษ ‘BAMBOLA’ (แบมโบลา) ที่มิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ถูกปล่อยออกมาให้รับชมกันล่วงหน้า เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา เพลงแนว Dance pop พูดถึงคาแรกแตอร์เด็กซน ๆ ที่พยายามควบคุมอีกฝ่ายตามใจชอบเหมือนตุ๊กตา, เพลงภาษาอังกฤษให้อารมณ์สุดเท่ ‘Enough For Me’ (อินัฟ ฟอร์ มี) แนว R&B pop เกี่ยวกับการมีช่วงเวลาดี ๆ ในใจกลางงานปาร์ตี้ที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย, ‘Sweet As Sin’ (สวีต แอส ซิน) เพลงภาษาอังกฤษที่มีอารมณ์มืดมนผสมผสานองค์ประกอบของ Pop และ Hip-hop เข้าด้วยกัน, เพลงภาษาอังกฤษ ‘Waves’ (เวฟส์) แนว R&B pop โดดเด่นด้วยเสียงร้องที่นุ่มนวลของ TEN (เตนล์) เนื้อเพลงแสดงถึงความปรารถนาที่จะปล่อยร่างกายอย่างอิสระไปกับคลื่น โดยเปรียบเทียบอีกฝ่ายเป็นคลื่น และเพลงภาษาเกาหลี ‘Butterfly’ (บัตเตอร์ฟลาย) ที่เพิ่มความลึกซึ้งด้วยเสียงอันไพเราะของ TEN (เตนล์) กับเนื้อเพลงที่สื่อถึงความรักยามรู้สึกถึงความทรงจำที่คิดถึง

นอกจากนี้ TEN (เตนล์) ยังได้แนะนำเกี่ยวกับจุดที่ ‘STUNNER’ มากที่สุด (จุดที่ดึงดูดใจ) ของเพลงไตเติล ‘STUNNER’ ดังนี้ ❝ ‘STUNNER’ มีทั้งเวอร์ชันภาษาเกาหลีและอังกฤษ ดังนั้น ในแต่ละภาษาทุกคนก็จะได้ฟังโทนเสียงที่หลากหลายของผมครับ ที่น่าสนใจคือ เนื้อเพลงของทั้งสองเพลงก็แตกต่างกันด้วยครับ ❞ รวมถึงอยากให้อัลบั้มนี้มีความหมายแบบไหนสำหรับแฟน ๆ ดังนี้ ❝ สิ่งที่ผมคิดว่าสำคัญในช่วงนี้คือ การใช้เวลาในแต่ละวันอย่างมีความสุขและอารมณ์ดี ผมหวังว่าแฟน ๆ จะรู้สึกดีขึ้นและรู้สึกถึงอารมณ์ใหม่ ๆ เมื่อได้ฟังอัลบั้มนี้ครับ และผมอยากจะสร้างความทรงจำที่ดีและช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกันผ่านกิจกรรมคัมแบ็กครับ โอ้ ยินดีต้อนรับแฟนคลับใหม่ ๆ ด้วยนะครับ ! ถ้าคุณมาชอบผมด้วยอัลบั้มนี้ ผมจะดูแลคุณอย่างดีเลยครับ (หัวเราะ) ❞

ทั้งนี้ หลังจากปล่อยอัลบั้มใหม่ TEN (เตนล์) เตรียมเดินหน้าจัดทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก เริ่มต้นที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 12-13 เมษายนนี้ ตามด้วยบ้านเกิดที่ประเทศไทยเป็นที่แรก, เซี่ยงไฮ้, โอซาก้า, ฟุกุโอกะ, โตเกียว และนาโกย่า สำหรับคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย ‘2025 TEN CONCERT 1001 MOVEMENT 'STUNNER' IN BANGKOK’ จะจัดขึ้นในวันที่ 19-20 เมษายนนี้ ณ อิมแพ็ค อารีน่า โดยตอนนี้บัตรยังมีจำหน่ายทาง 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ และเว็บไซต์ www.allticket.com/event/2025TENCONCERT_IN_BANGKOK พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับผู้ซื้อบัตร ติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมของคอนเสิร์ตได้ทางบัญชีโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ SM True : เฟซบุ๊ก facebook.com/smtruethailand, อินสตาแกรม instagram.com/smtruethailand, เอ็กซ์ x.com/SMTrueThailand และติ๊กต๊อก tiktok.com/@smtruethailand สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อบัตรได้ทาง Counter Service : อีเมล support@allticket.com และไลน์ออฟฟิเชียล @counterservice

รับฟังมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘STUNNER’ ของ TEN >> https://TEN.lnk.to/STUNNER

รับชมมิวสิกวิดีโอเพลงไตเติล ‘STUNNER’ ของ TEN >> https://youtu.be/LfoIQZf9Hqs

SUMMER SONIC 2025 จัดเต็ม “BLACK EYED PEAS” แท็กทีม “CAMILA CABELLO” พร้อมเสิร์ฟความสนุกที่เมืองไทย 23-24 สิงหาคม 2568 นี้

25 มี.ค. 2568, 12:00 น.

เตรียมพบกับปรากฏการณ์เทศกาลดนตรีระดับโลก “SUMMER SONIC BANGKOK 2025” ที่จะกลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่และประสบการณ์ความสนุกที่ยกระดับขึ

ปีนี้ CI Showbiz ผู้สร้างสรรค์งานคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรีชั้นนำของประเทศไทย ขึ้นแท่นเป็น Official Local Partner ร่วมมือกับ Bangkok Connect ผู้ถือสิทธิ์ลิขสิทธิ์เพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย พร้อมกับ Paradise E&A และ Creativeman Productions ผู้ก่อตั้งเทศกาล SUMMER SONIC ภายใต้การนำของคุณ นาโอกิ ชิมิสึ ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปี ในการพัฒนาและปรับโฉมงานนี้ให้กลายเป็นเทศกาลที่แฟน ๆ มั่นใจได้ในมาตรฐานการจัดงานและคุณภาพความบันเทิงระดับสากล เพื่อมอบประสบการณ์เทศกาลดนตรีที่ดีที่สุดให้กับแฟน ๆ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ

แค่เปิดรายชื่อแรกมาก็ทำให้ทุกคนต้องร้องว้าวกับวงฮิปฮอประดับตำนานชื่อดังจากอเมริกา “BLACK EYED PEAS” เจ้าของเพลงฮิตติดชาร์ตตลอดกาล “Where is the Love?” ที่จะกลับมาเขย่าเวทีเมืองไทยอีกครั้งในรอบ 12 ปี พร้อมโชว์จัดเต็มตลอด 1 ชั่วโมง ด้วยเพลงฮิตติดหูมากมายจากทุกอัลบั้มเช่น “My Humps”, “Shut Up”, “Hey Mama”, “Let’s Get Retarded” เป็นต้น ถ้าพูดถึงความดังความปังของวงนี้ต้องบอกเลยว่าฝีมือลีลาการเอนเตอร์เทนของแต่ละคนระดับแถวหน้าของโลก ไม่ว่าจะเป็น “will.i.am”, “apl.de.ap” และ “Taboo” ที่จะมาไฮป์แฟน ๆ ให้สนุกไปพร้อมกันอย่างแน่นอน

อีกหนึ่งสาวที่พร้อมจะมาสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนได้สนุกไปพร้อมกัน คือ นักร้องสาวชาวคิวบา-อเมริกัน “CAMILA CABELLO” เจ้าของเพลงดังยอดวิวทะลุ 1 พันล้าน อย่าง “Havana” , “Senorita" และ “Never Be The Same” ที่จะมาเมืองไทยครั้งแรกเพื่อจัดโชว์เต็มในงาน SUMMER SONIC BANGKOK 2025 ปีนี้ ด้วยลีลาเย้ายวน สุดเซ็กซี่ของ “CAMILA CABELLO” พร้อมกับทำนองเพลงอันสุดเร้าใจ ที่จะสร้างสรรค์โชว์ครั้งนี้ให้เมืองไทยลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน ความปังของเธอการันตีด้วยรางวัลระดับ Diamond จาก สมาคมอุตสาหกรรมแผ่นเสียงแห่งอเมริกา หรือ Recording Industry Association of America ซึ่งจะมอบให้กับเพลงที่มียอดขายและสตรีมมิ่งอย่างน้อย 10 ล้านก๊อปปี้ / ครั้ง เธอพร้อมแล้วที่จะมาโชว์โบกสะบัดสะโพกอันสุดเร่าร้อน ไปพร้อม ๆ กับแฟนเพลงที่เมืองไทย

จัดเซอร์ไพรส์ให้ร้องกรี๊ดกันเพิ่มต่อกับ “CREEPY NUTS” คู่ดูโอ้ฮิปฮอป จากประเทศญี่ปุ่น เจ้าของเพลงฮิตติดหูทั่วเอเชีย “Bling-Bang-Bang-Born” จากซีรีส์อนิเมะชื่อดัง “Mashle : Magic and Muscles” ที่จะมาบุกสร้างความมันส์แบบหลุดโลกครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่งาน SUMMER SONIC BANGKOK 2025 เป็นครั้งแรก ซึ่งเพลง “Bling-Bang-Bang-Born” ถือเป็นเพลงที่สร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จให้กับคู่หูดูโอ้ฮิปฮอปมากที่สุด และเป็นวงที่โชว์ได้ที่สนุกและดีที่สุดในปี 2014 การันตีความสำเร็จจากการคว้ารางวัล Excellent Awards จากงานประกาศรางวัล Japan Record Awards ครั้งที่ 66 ปี และงานประกาศรางวัล NHK Kohaku Uta Gassen ครั้งที่ 75 ในปี 2014 “CREEPY NUTS” กลายเป็นเจ้าพ่อเพลงอะนิเมะเต็มตัวอีกครั้ง เมื่อเพลง “Otonoke” เพลงประกอบซีรีส์อะนิเมะเรื่อง “Dandadan” ปล่อยออกมา ก็สามารถติดชาร์ต Billboard Japan Hot 100 ในอันดับที่ 1 ได้ทันที ถือเป็นศิลปินวงที่ 2 ของญี่ปุ่นที่สามารถบุกขึ้นชาร์ตนี้ได้ “CREEPY NUTS” ประกอบด้วยแรปเปอร์ “R-SHITEI” แชมป์ 3 ปีซ้อน จากการแข่งขัน Ultimate MC Battle Grand Championship และ “DJ MATSUNAGA” เจ้าของรางวัล DMC World DJ Championships ปี 2019 ด้วยสุดยอดความเอนเตอร์เทนของ 2 หนุ่ม กับเพลงที่เร้าใจ พร้อมกับวิชวลกราฟิกที่ทันสมัย ตื่นตา จึงไม่แปลกใจที่แฟนเพลงของเขาจะเต้นกันอย่างบ้าคลั่งเกือบทุกงาน สาวกแฟนเพลงของ 2 หนุ่มเตรียมวอร์มร่างไปเต้น Bling-bang-bang, bling-bang-bang-born กันได้แล้ว

ปีนี้ BABYMETAL ฉลองครบรอบ 15 ปี และเตรียมกลับมาระเบิดความมันส์ที่ประเทศไทยอีกครั้งในงาน SUMMER SONIC BANGKOK 2025 และเมื่อปีที่แล้ว พวกเธอได้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ด้วยการคอลแลปส์สุดพิเศษกับ 2 ศิลปินชั้นนำของไทยอย่าง BODYSLAM และ F.HERO ซึ่งทำเวทีร้อนเป็นไฟ นอกจากนี้เพลง “LEAVE IT ALL BEHIND” ยังคว้ารางวัลเพลงคอลแลปส์ยอดเยี่ยม จาก THE GUITAR MAG AWARDS 2025 ตอกย้ำความนิยมของ BABYMETAL ในวงการเพลงไทยอีกด้วย ปีนี้พวกเธอจะกลับมาพร้อมกับเพลงฮิตระดับโลก อย่าง “Gimme Chocolate!!” , “KARATE” , “PA PA YA!!” และ “RATATATA” พร้อมพลังการแสดงสุดอลังการ ที่จะสะกดทุกสายตาและสร้างความเดือดในมอชพิทร่วมกับแฟน ๆ อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังมี 7 หนุ่ม บอยแบนด์สัญชาติญี่ปุ่น วง BE:FIRST ที่กลับมาชวน BESTY ไทยไปออกสเต็ป แดนซ์กระจายกับโชว์เพอร์ฟอร์แมนซ์ที่พิเศษสุด ๆ ไม่เหมือนที่ไหนอีกครั้งกับเพลงฮิตอย่าง “Shining One”, “Scream”, “Boom Boom Back” และ “Blissful” เป็นต้น เตรียมพร้อมความสนุกไปกับความน่ารัก สดใส ของ 7 หนุ่ม “SOTA”, “SHUNTO”, “MANATO”, “RYUHEI”, “JUNON”, “RYOKI” และ “LEO” ที่จะมาสร้างความประทับใจให้ตราตึงอีกครั้ง ในงาน SUMMER SONIC BANGKOK 2025 อย่างแน่นอน ส่วนทางฟากเกาหลีก็ไม่น้อยหน้าส่ง 4 หนุ่ม วง “THE ROSE” วงดนตรีอินดี้ร็อก กลับมากระชากใจสาว ๆ ด้วยความเท่และเสน่ห์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่งผลให้มีแฟนคลับทั่วโลก ล่าสุดทั้ง 4 หนุ่ม ส่งเพลง “Back To Me” เพลงอกหักสไตล์ชาวร็อก เข้าถึงง่าย มาให้แฟนเพลงร้องตามกันทั่วบ้านทั่วเมือง กลายเป็นเพลงที่เป็นไวรัลไปทั่วโลก

ทางฝั่งไทยก็ไม่น้อยหน้า ได้บอยแบนด์สัญชาติไทยที่มาแรงที่สุดแห่งวงการ T-POP อย่าง BUS because of you i shine ศิลปินขวัญใจของชาว GEN Z ทั้ง 12 คน มาร่วมตะโกนร้องเรียกชื่อ อลัน, มาร์คคริส, ขุนพล, ฮาร์ท, จินวุค, ไทย, เน็กซ์, ภูธัชชัย, คอปเปอร์, เอเอ, จั๋งธีร์ และ ภีมวสุ ที่เวที SUMMER SONIC BANGKOK 2025 พร้อมกับโชว์สุดอลังการ ให้สมศักดิ์ศรีตัวแทนประเทศไทย กับเพลงฮิตมากมาย อาทิ "Because of You, I Shine", "Watch Your Step, "LIAR" และ "Transformer" รับรองว่าถูกใจชาว BEUS ไทยและต่างประเทศอย่างแน่นอน

แค่เปิดไลน์อัปแรกออกมา ก็จัดเต็มศิลปินคุณภาพมาบุกเมืองไทย กับงาน SUMMER SONIC BANGKOK 2025 จะจัดขึ้นในวันที่ 23-24 สิงหาคม 2568 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ที่รับประกันประสบการณ์ทางด้านดนตรีเต็มอิ่ม ทั้งสนุก สุดมันส์ และดุเดือด กับความหลากหลายของศิลปินและแนวเพลง ใครที่เป็นสาวกงาน SUMMER SONIC BANGKOK สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของงานได้ที่ facebook.com/Summersonicbangkok

น้องเอ้กฮีพร้อมมาหาพี่สาว Villians ไทยแล้ว! Xdinary Heroes ประกาศเวิลด์ทัวร์ใหม่ 17 พ.ค.นี้ ที่สามย่าน มิตรทาวน์ ฮอลล์

25 มี.ค. 2568, 11:01 น.

ร็อกแบนด์ตัวจี๊ดจากเกาหลีใต้ Xdinary Heroes ประกาศเวิลด์ทัวร์ใหม่ กับ ‘Xdinary Heroes World Tour in BANGKOK’ Vill

หลังจากประสบความสำเร็จจากคอนเสิร์ตครั้งแรกในไทย Xdinary Heroes ศิลปินจากสังกัด JYP ก็ได้ประกาศคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งที่สองในกรุงเทพฯ รับมินิอัลบั้มชุดใหม่ ‘Beautiful Mind’ อัดแน่นด้วยผลงานคุณภาพอันเป็นเอกลักษณ์กว่า 7 เพลง พร้อมด้วยซิงเกิ้ลเปิดตัว “Beautiful life”, “Fight me”, “More than I like”, “Supernatural” และ “BBB (Bitter But Better)”

ด้วยความสามารถที่แตกต่างจากสมาชิกทั้ง 6 คน ทำให้ผลงานเพลงแต่ละชุดของ Xdinary Heroes นั้นมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และยังทำเพลงหลากหลายตั้งแต่แนวซอฟต์ร็อกไปจนถึงเฮฟวีเมทัล การันตีด้วยเพลงฮิตจากอัลบั้มก่อนหน้าอย่าง “Test Me”, “Hair Cut”, “Freakin’ Bad” ที่เหล่า Villians ต้องรู้จักเป็นอย่างดีแน่นอน

Villians ไทยห้ามพลาดกับคอนเสิร์ตครั้งใหม่ ที่หนุ่ม ๆ Xdinary Heroes การันตีความเล่นใหญ่ใส่สุด ทุ่มสุดตัวทุกเพอร์ฟอร์มานซ์ใน Xdinary Heroes World Tour in BANGKOK’ พิเศษ สำหรับลูกค้าที่ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดในไทย รับสิทธิ์ซื้อบัตรคอนเสิร์ตรอบพรีเซลส์ของ Xdinary Heroes ก่อนใคร เปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันอังคารที่ 8 เมษายน เวลา 10.00 น. ถึง วันพุธที่ 9 เมษายน เวลา 10.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติมที่ priceless.com/music

สมาชิก Live Nation Tero รับสิทธิ์ซื้อบัตรรอบพรีเซลส์ได้ในวันพุธที่ 9 เมษายน 12.00 – 22.00 น. ทาง Livenationtero.co.th และจำหน่ายบัตรรอบทั่วไปวันพฤหัสบดี 10 เมษายน 10.00 น.เป็นต้นไป ทาง Thaiticketmajor.com ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางโซเชียลมีเดียของ Live Nation Tero

Mariah Carey ดีว่าตัวแม่มาแน่! เพลงฮิตมาเพียบ 11 ต.ค. นี้ ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์

24 มี.ค. 2568, 17:05 น.

ยิ่งใหญ่แบบตัวแม่! “ธนบุรี พานิชย์” presents Mariah Carey “The Celebration of Mimi”Concert

ยิ่งใหญ่สมการรอคอย กับการกลับมาของ Diva ตัวแม่ Mariah Carey ในรอบหลายปี กับคอนเสิร์ตที่รวบรวมเพลงฮิตจากทุก ๆ อัลบั้มที่ผ่านมาที่เคยทำยอดขายถล่มทลายมาแล้ว กับคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า 'Mariah Carey The Celebration of Mimi' ในวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2568 ณ Impact Challenger เมืองทองธานี

มารายห์ แครี่ (Mariah Carey) คือ นักแต่งเพลง นักธุรกิจ นักการกุศล โปรดิวเซอร์ และศิลปินผู้ได้รับรางวัลมากมาย เธอเป็นศิลปินหญิงที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาลมากกว่า 200 ล้านอัลบั้ม และมี 19 ซิงเกิลที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 (ซึ่ง 18 เพลงในนั้นเป็นผลงานแต่งเพลงของเธอเอง) มากกว่าศิลปินเดี่ยวคนใดในประวัติศาสตร์ ด้วยขอบเขตเสียงที่กว้างถึงห้าช่วงเสียง ความสามารถในการแต่งเพลงที่อุดมสมบูรณ์ และความสามารถในการผลิตเพลงที่โดดเด่น มารายห์จึงถือเป็นต้นแบบของการแสดงป็อปสมัยใหม่ นอกจากนี้ มารายห์ยังเป็นสมาชิกใน Songwriters Hall of Fame และได้รับการยกย่องด้วยรางวัล Grammy Awards มากมาย, American Music Awards, 3 รางวัล Guinness World Records, รางวัล "ศิลปินแห่งทศวรรษ" และ "ไอคอน" จาก Billboard, รางวัล World Music Award สำหรับ "ศิลปินหญิงขายดีที่สุดของมิลเลนเนียม", รางวัล Ivor Novello Award สำหรับ "PRS for Music Special International Award" และรางวัล BMI "Icon Award" จากความสำเร็จอันยอดเยี่ยมในด้านการแต่งเพลง เป็นต้น

อิทธิพลทางวัฒนธรรมของมารายห์ แครี่ ได้ข้ามขอบเขตวงการเพลงไปสร้างรอยตราตรึงในโลกกว้าง ในปี 2009 มารายห์ได้รับรางวัล Breakthrough Performance Award ที่งาน Palm Springs International Film Festival จากการแสดงบทบาทที่ได้รับคำชมอย่างมากในภาพยนตร์เรื่อง Precious ของลี แดเนียลส์ นอกจากนี้ เธอยังได้รับรางวัล Congressional Award และได้ทุ่มเทเวลาและพลังงานในการสนับสนุนโครงการการกุศลหลากหลายที่เธอใส่ใจ เช่น Save the Music, Make-A-Wish Foundation, World Hunger Relief และ Elton John AIDS Foundation เป็นต้น เป็นผู้สนับสนุนใหญ่ในการช่วยเหลือการกุศลเพื่อเด็กทั้งในประเทศและต่างประเทศ มารายห์ยังได้ก่อตั้ง Camp Mariah ร่วมกับ Fresh Air Fund ซึ่งเป็นแคมป์เพื่อเด็กจากเมืองที่มีโอกาสสำรวจและพัฒนาทักษะในอาชีพต่าง ๆ ในปี 2020 มารายห์ได้เผยแพร่บันทึกความทรงจำที่ทรงพลังของเธอในหนังสือ The Meaning of Mariah Carey ซึ่งได้รับการยอมรับให้เป็นหนังสือขายดีอันดับ 1 ของ New York Times เมื่อเปิดตัว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.mariahcarey.com

ร้อง เล่น เต้น ฮากระจาย! คริส-สิงโต, ออฟ-กัน, เต-นิว ขนความม่วนเสิร์ฟแฟนๆ ในงาน PEBACA WHAT A CONCERT

24 มี.ค. 2568, 17:00 น.

สนุกสนานครื้นเครงไปกับงานคอนเสิร์ตสุดม่วนครั้งยิ่งใหญ่ จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย ที่รวมตัว 3 คู่จิ้นคู่ฮอตยอ

“คริส-พีรวัส แสงโพธิรัตน์, สิงโต-ปราชญา เรืองโรจน์, ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร, กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์, เต-ตะวัน วิหครัตน์, นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ” เปิดสมรภูมิความสนุกสุดมันส์ กับการเนรมิตโชว์สุดอลังการตระการตา ร้อง เล่น เต้นสะบัด พร้อมขนทัพ Special Guests อาทิ คณะลิเกขวัญใจมหาชน “ศรราม น้ำเพชร” (ศรราม, ปอย, เบลล์, เต๋า), ลิเกน้องใหม่อย่าง “อาร์ม-วีรยุทธ จันทร์สุข, แซมมี่-ซาแมนท่า เมลานี่ และแก๊งนางงาม นางสงกรานต์ GMMTV “ป่าน-ปทิตตา พรจำเริญรัตน์, จิงจิง-ปริยพิชญ์ ยู, อ้าย-สรัลชนา อภิสมัยมงคล, กระปุก-พลอยนิรา หิรัญทวีศิลป์, ไซซี-รัตท์ริชา ประภากิติ” รวมทั้ง “นีโอ-ตรัย นิ่มทวัฒน์” ที่มาสร้างความม่วนแบบจอยๆ ให้แฟนๆ ที่อยู่ในฮอลล์ ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี และแฟนๆ ทั่วโลกที่รับชมผ่าน Live Streaming ทาง “TTM LIVE” ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ครอบคลุมทั่วโลก ในงาน “PEBACA WHAT A CONCERT” ได้ร่วมอัปมู้ดความสนุก ความประทับใจสนั่นโซเชียล เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา

บรรยากาศแห่งความสนุกสุดทัชใจ เริ่มด้วยการเปิดเทศกาลงานวัดความสนุกสนาน กับการแห่กลองยาว โชว์เครื่องเป่า ที่ 6 หนุ่มฮอต “คริส-สิงโต, ออฟ-กัน, เต-นิว” ขนความม่วนเสิร์ฟแฟนๆ ในเพลง “Hey Hey” และเพลง “สัญญาเดือนหก” พร้อมโชว์สกิลการเล่นเครื่องดนตรีที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน โดย “คริส” ตีกลองยาว, “สิงโต” ตีฉาบ, “ออฟ” ดีดพิณ, “กัน” ตีฆ้องวงเล็ก, “เต” ตีระนาด, “นิว” เป่าแคน ซึ่งแม้ว่าร่างกายหนุ่ม “นิว” จะไม่ค่อยเต็มร้อย แต่ใจเกินร้อยสุดๆ โชว์ออกมาได้ดีเยี่ยม ทำเอาแฟนๆ ปรบมือให้รัวๆ ต่อด้วยการพาทุกคนไปสนุกกับการตะลุยเครื่องเล่นงานวัด ด้วยเมดเล่ย์เพลงโจ๊ะเปิดตัวงานวัดที่แต่ละคนคว้าไมค์โชว์เพลงเดี่ยวกันอย่างม่วนจอย เริ่มจากหนุ่ม “เต” ที่มาโชว์เพลง “ฉ่ำ (CHARM) ในบรรยากาศเกมสาวน้อยตกน้ำ ด้านหนุ่ม “นิว” ก็รับไม้ต่อชวนแฟนๆ เล่นม้าหมุนด้วยเพลง “เทคะแนน (CANDIDATE)” ส่วนหนุ่ม “ออฟ” พาทุกคนไปสนุกกับการ เล่นชิงช้าสวรรค์ในเพลง “KNOCK KNOCK” และส่งต่อให้หนุ่ม “กัน” พาแฟนๆ นั่งชิงช้าแสนสุขต่อในเพลง “ลบยัง (Re-Move On)” จากนั้นถึงคิวหนุ่ม “สิงโต” ที่ชวนตื่นเต้นสุดๆ ในบ้านผีสิง ด้วยเพลง “ง้อ (ALRIGHT)” และส่งให้หนุ่ม “คริส” มอบสุขให้แฟนๆ ต่อเนื่องกับเพลง “เหนื่อยหน่อยนะ”

จากนั้นแต่ละคู่ก็จับไมค์ร้องเพลงคู่กันสุดมันส์ ไม่ว่าจะเป็น “เต-นิว” ที่มาในเพลง “ผีหลอก” ส่วน “คริส-สิงโต” แท็คทีมโชว์เพลง “เสียงจากสายตา (EYE CONTACT)” และ “ออฟ-กัน” คว้าไมค์ร้องเพลง “ไม่รักไม่ลง (TOO CUTE TO HANDLE)” ก่อนจะเข้าช่วงพิเศษสุดๆ กับการแสดงลิเกตอน PEBACA concert : ทายาทคุณย่า ซึ่งทายาททั้ง 7 คน “คริส-สิงโต-ออฟ-กัน-เต-นิว-ศรราม” จะต้องร่วมเปิดพินัยกรรมร่วมกับ “ปอย-เบลล์-เต๋า-แซมมี่” เพื่อสืบหาทายาทตัวจริง และโชว์ปิดท้ายแบบฟินๆ จากเสียงร้องของหนุ่ม “ศรราม” กับเพลง “ศรพระราม” ต่อด้วยโมเมนต์น่ารักๆ จาก “คริส-สิงโต” ที่ควงคู่โชว์เพลง “สิ่งที่คิด (BETTER THAN)” ด้าน “เต-นิว” ก็จับมือร้องเพลง “ชอบแบบนี้ (NO MORE)” ส่วน “ออฟ-กัน” โชว์เพลงคู่สุดคิ้วท์ “ข้างๆ ยังว่าง (AVAILABLE)” ก่อนจะเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ กับการประกวด นางสงกรานต์ ที่เนรมิตเวทีประกวดสวยตระการตา โดยมีพิธีกรอารมณ์ดี “ก๊อตจิ-ทัชชกร บุญลัภยานันท์” พูดเปิดตัวกรรมการและรายละเอียดงานก่อนส่งเข้าโชว์เมดเล่ย์นางงาม เริ่มด้วยโชว์จาก “ป่าน-นิว” กับเพลง “จีบได้ไหม (Would You Mind?)”, “จิงจิง-กัน” โชว์เพลง “นิทานพันดาว”, “อ้าย-คริส” มาในเพลง “ชักช้า (เอิงเอย) : Loading Love”, “กระปุก-เต” ร้องเพลง “เหงาเป็น (Lovely Mode)”, “ไซซี-สิงโต” มากับเพลง “เปลี่ยนคะแนนเป็นแฟนได้ไหม (LOVE SCORE)”, “นีโอ-ออฟ” โชว์เพลง “โฮ่ง! (SUGOI)”

จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงประกวดหาสาวงามที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะสนั่นฮอลล์ ต่อด้วยเทศกาลหนังกลางแปลง : เล่นโรล์เพลย์ จากทั้ง 6 หนุ่ม ที่กุมมือโชว์คู่ในเพลงความหมายดีๆ เปิดด้วยคู่ของ “ออฟ-กัน” โชว์เพลง “คู่กรรม, ถ้าคิดถึงเธอมากกว่านี้” และ “เต-นิว” ร้องเพลง “คนเสิร์ตคนจน+แฟนฉัน, ฉันจึงวนกลับมา” ส่วน “คริส-สิงโต” มากับเพลง “ซ่อนกลิ่น, แค่ในวันนั้น (Truth in the Eyes)” ซึ่งเรียกเสียงกดชัตเตอร์รัวๆ เลยทีเดียว จากนั้นพาทุกคนเข้าสู่ช่วงโชว์สุดพิเศษ ที่ทำเอาเวทีไฟลุก จนแฟนๆ กรี๊ดลั่น กับเพลง “โอ้เธอช่าง” จาก 2 หนุ่ม “ออฟ-นิว” ต่อด้วยเพลง “ดิ่งดาวน์ (DOWN)” โชว์จาก “สิงโต-กัน” และต้องร้องว้าวไปกับโชว์ของ 3 หนุ่ม “คริส-กัน-นิว” ในเพลง “ลอยทะเล (The Floating)” และเพลง “รักเธอหัวทิ่มบ่อ” จาก 3 หนุ่ม “สิงโต-ออฟ-เต” พร้อมส่งไมค์ต่อให้ “คริส-เต” โชว์เพลง “เพราะว่ารัก” ก่อนที่ 6 หนุ่ม “คริส-สิงโต-ออฟ-กัน-เต-นิว” จะรวมตัวจับไมค์ร้องเพลง “สะมะกึ๊กสะมะกั๊ก (Stuckling)” จากนั้นทั้ง 6 หนุ่ม ก็แท็คทีมโชว์เพลง “Proud” พร้อมกล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่รักและคอยซัพพอร์ตกันมาโดยตลอด และมาให้กำลังใจกันแน่นฮอลล์ และผ่าน Live Streaming กันเยอะมากๆ ก่อนส่งท้ายคอนเสิร์ตซึ้งๆ ด้วยเพลง “เล็กๆ บ่อยๆ” ปิดท้ายคอนเสิร์ตกับการมอบความสุข ความฟิน ให้แฟนๆ นำกลับบ้านไปหอบใหญ่ ที่ทำเอาทุกคนถึงกับน้ำตารื้น และมีความสุขสุดๆ

สำหรับการรับชม Live Streaming แฟนๆ สามารถม่วนจอยย้อนหลังงาน “PEBACA WHAT A CONCERT” ได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2568 เวลา 10:00 น. (GMT+7) - 11 เมษายน 2568 เวลา 23:59 น. (GMT+7) สามารถรับชมการแสดงย้อนหลังได้ 300 นาที ต่อ 1 รหัสการรับชม และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com หรือ Facebook / Instagram / X / TikTok / YouTube / Weibo: GMMTV

STAYC ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตครั้งใหม่ แฟนชาวไทยเจอกัน 9 ก.ค. นี้ ที่ทรู ไอคอน ฮอลล์

24 มี.ค. 2568, 11:05 น.

‘STAYC’ (สเตย์ ซี) เกิร์ลกรุ๊ปสังกัด High Up Entertainment ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตที่ SWITH ทั่วโลกรอคอย ‘2025 STAYC TOUR [STAY TUNED

คิกออฟที่เกาหลีใต้บ้านเกิดในวันเสาร์ที่ 12 เมษายนนี้ที่โอลิมปิก ฮอลล์ และเตรียมออกเดินทางไปยังอีก 11 เมืองอย่าง โอซาก้า โตเกียว จาการ์ตา ซิดนีย์ เมลเบิร์น บริสเบน โอ๊คแลนด์ กรุงเทพฯ ฮ่องกง สิงคโปร์ และไทเป โดยที่ 2025 STAYC TOUR [STAY TUNED] in BANGKOK มีกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม ที่ทรู ไอคอน ฮอลล์ ไอคอนสยาม จัดโดย ไลฟ์ เนชั่น เทโร เปิดจำหน่ายบัตรในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายนนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมที่ livenationtero.co.th

นับตั้งแต่เดบิวต์ในปี 2563 STAYC เป็นหนึ่งในศิลปินเคป็อปที่เป็นที่รู้จักทั้งในอุตสาหกรรมเพลงเกาหลีใต้ และวงการเพลงระดับโลก ไม่ว่าจะจาก ‘Teddy Bear’ ซิงเกิ้ลฮิตที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2566 ทะยานขึ้นสู่อันดับ 5 ของชาร์ต Billboard Korea และชาร์ตเพลงทั่วโลก อัลบั้มเต็ม ‘Metamorphic’ (ปี 2567) ที่เผยให้เห็นความสามารถสุดหลากหลายของพวกเธอทั้ง 6 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ติดชาร์ต ‘Top Albums Debut’ ของ Spotify ในสหรัฐฯ และทั่วโลก ในขณะที่มินิอัลบั้มล่าสุดในปี 2568 อย่าง ‘S’ ก็เสิร์ฟซิงเกิ้ลมาแรง ‘Babe’ ชวนแฟนๆ ออกสเต็บ สะบัดผมรับทัวร์คอนเสิร์ตครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในปีนี้

2025 STAYC TOUR [STAY TUNED] in BANGKOK จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2568 ที่ทรู ไอคอน ฮอลล์ บัตรราคาเริ่มต้น 2,800 บาท เปิดจำหน่ายรอบบุคคลทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน เวลา 10.00 น. เป็นต้นไปทาง thaiticketmajor.com และเปิดจำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ในวันจันทร์ที่ 28 เมษายน เวลา 10.00 เป็นต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติมที่ livenationtero.com

รวมตัวแม่ตัวมัมคนรัก Lady Gaga ประมวลภาพงานปาร์ตี้สุดมันส์ LADY GAGA - MAYHEM PARTY IN BANGKOK

21 มี.ค. 2568, 17:30 น.

คะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์จริงๆ สำหรับ LADY GAGA - MAYHEM PARTY IN BANGKOK ที่ทาง Universal Music Thailand จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เมื่อคื

ที่แฟนๆ สื่อมวลชน และเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังทั้ง ฟลุ๊คกะล่อน (flukkaron), Alie Blackcobra, ตู่ Soundtiss, โทมัส ทอม (thomustom), GeniePak และอื่นๆ อีกมากมาย ที่มาร่วมงานกันแน่นขนัดในค่ำคืนนั้นต่างพาชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่างานสนุกมาก สนุกจนลืมเวลา สนุกจนไม่อยากกลับ

ไม่ว่าจะเป็นช่วง Listening Session ที่พิธีกรคนเก่ง Mimosa Jazz แนะนำแต่ละเพลงใน MAYHEM อัลบั้มใหม่ล่าสุดของ Lady Gaga ให้แฟนๆ ได้ฟังกัน ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้อย่าง “Disease”, “Abracadabra”, “Die With A Smile (Feat. Bruno Mars)” หรือ “Garden Of Eden” พร้อมทั้งมอบรางวัลให้กับ Little Monsters ชาวไทยที่ตอบคำถามช่วง Q&A ได้ถูกต้อง หรือว่าจะเป็นช่วงประกวด Best Costume ที่แฟนๆ แต่งตัวจัดเต็มประชันลุคสุดปังสไตล์ MAYHEM กันแบบไม่มีใครยอมใคร และไฮไลต์ของงานอย่างโชว์สุดพิเศษจากเหล่า Drag Queen ชื่อดังของไทย ไม่ว่าจะเป็น Mogass, Too Calderone, Spicy Sunshine, Morrigan Xaster และ Peppae ที่เสิร์ฟโชว์จากเพลงดังของ Lady Gaga ได้อย่างเต็มที่จนแฟนๆ ต่างปรบมือให้ไม่หยุด

ยิ่งช่วงที่ DJ Frank และ DJ Tony Hm จัดเพลย์ลิสต์มันๆ รวมฮิตทุกเพลงแซ่บของ Lady Gaga ให้พวกเราแดนซ์กันต่อแบบ non-stop ตลอดทั้งคืน ยิ่งคึกคักปล่อยจอยกันทุกคน ทั้งร้องเพลงทั้งเต้นตามกันแบบไม่มีใครห้ามใคร สนุกกันจนนาทีสุดท้ายของงานกันจริงๆ ต่างพากันขอบคุณ Universal Music Thailand ที่จัดงานสนุกๆ แบบนี้ให้เหล่า Little Monster ชาวไทยได้มาจอยกัน มาร่วมเต้นและร้องเพลงของ Lady Gaga ที่พวกเรารักไปด้วยกัน เชื่อว่าหาก Lady Gaga ได้เห็นบรรยากาศของงานในคืนนั้น จะต้องปลื้มใจมากและตามมากดไลก์ให้อย่างแน่นอน

นอกจากงานปาร์ตี้ที่มันสุดเหวี่ยงแล้ว Universal Music Thailand ยังจัดหนักจัดเต็ม ส่ง LED Truck โปรโมตอัลบั้ม MAYHEM ของ Lady Gaga ไปทั่วกรุงเทพฯ ในวันที่ 19-20 มีนาคมอีกด้วย เรียกได้ว่า Lady Gaga ครองพื้นที่ไปทั่วกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง แล้วอย่างนี้จะยอมตกเทรนด์ได้ไง สามารถฟังอัลบั้ม MAYHEM ของ Lady Gaga ได้แล้ววันนี้ในทุกแพลตฟอร์ม

Guns N' Roses เคยขายตั๋วคอนเสิร์ตได้ 1 ล้านใบ ภายในวันเดียว! ในการทัวร์ยุโรป

19 มี.ค. 2568, 14:30 น.

Not In This Lifetime Tour ทัวร์คอนสิร์ตรอบที่แล้วของ Guns N' Roses เคยสร้างสถิติขายบัตรได้ 1 ล้านใบ ในวันเดียวมาแล้ว ตอนที่พวก

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 Axl Rose (นักร้องนำ), Duff McKagan (มือเบส) และ Slash (มือเบส) กลับมารวมตัวกันอย่างเป็นทางการในฐานะวง Guns N' Roses และประกาศว่าจะทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกันเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี ในชื่อ Guns N' Roses . Not In This Lifetime Tour

และเวิลด์ทัวร์ครั้งนั้นของ Guns N' Roses ก็ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ ทั่วโลกแบบถล่มทลาย!

โดยพวกเขาขึ้นโชว์ไปทั้งหมด 158 รอบ (ตั้งแต่ 1 เม.ย 2016 - 2 พ.ย. 2019) ทำรายได้ไปกว่า 584.2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และขายตั๋วคอนเสิร์ตได้รวมทั้งหมดถึง 5,371,891 ใบ

นั่นส่งให้ Guns N' Roses . Not In This Lifetime Tour ขึ้นแท่นกลายเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับที่สามในประวัติศาสตร์ (จากการรายงานของ Billboard)

ซึ่งโชว์ของพวกเขาที่กรุงเทพฯ เมื่อวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2017 ที่บัตรถูกขายหมดเกลี้ยง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน...

โชว์สุดอลังสมมงศิลปินสาว 3,000 ปี แม่ไคลี่ชีเสิร์ฟ ร้องแน่น เต้นแรง ไม่มีอ่อม กับคอนเสิร์ตในรอบ 14 ปี

19 มี.ค. 2568, 14:00 น.

ผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์ แต่ความสวยปังบวกโชว์สุดอลังของศิลปินสาว 3,000 ปี Kylie Minogue ในคอนเสิร์ต ‘Kylie Minogue: Tension Tour 2025

ยังคงตราตรึงใจแฟนๆ ชาวไทย โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ณ ฮอลล์ใจกลางเมืองอย่างพารากอน ฮอลล์ แม่ไคลี่ได้มาฉลองวันจันทร์แห่งชาติกับคอนเสิร์ตแบบจัดเต็มทั้งเพลงฮิตมากมาย และเพลงใหม่จากยุค Tension Era รวมกว่า 30 เพลง

เปิดตัวด้วย ‘Lights Camera Action’, ‘In Your Eyes’, ‘Get Outta My Way’, ‘What Do I Have to Do?’, ‘Come Into My World’, ‘Good As Gone’ และ ‘Spinning Around’ ที่ผ่านไปไม่กี่นาทีก็ชวนแฟนๆ ในฮอลล์ลุกขึ้นเต้นกับแบบไม่พัก ร้องตามกันแบบคำต่อคำ ต่อด้วย ‘On a Night Like This’, ‘last night i dreamt i fell in love’, ‘Better the Devil You Know’, ‘Shocked’, ‘Things We Do for Love’, ‘The Loco-Motion’ ขยับมาใกล้ชิดแฟนๆ มากขึ้นกับโชว์บนสเตจรองในเพลง ‘Hold On to Now’, ‘Where the Wild Roses Grow’, ‘Please Stay’, ‘I Should Be So Lucky’, ‘Say Something’ (เวอร์ชันอะคูสติก), ‘Supernova’, ‘Real Groove’, ‘Magic’, ‘Where Does the DJ Go?’

งานนี้นอกจากจะได้ฟังเพลงใหม่จาก Tension Era ไม่ว่าจะ ‘Tension’, ‘Padam Padam’ แฟนๆ ชาวไทยยังได้แดนซ์กระจายไปกับเพลงฮิตตลอดกาลอย่าง ‘Confide in Me’, ‘Slow’, ‘Timebomb’, ‘Can't Get You Out of My Head’, ‘All the Lovers’ และปิดท้ายด้วย ‘Love At First Sight’ เป็น 2 ชั่วโมงที่พาแฟนๆ ลุกขึ้นยืนทั้งร้องทั้งเต้นกันยาวๆ แบบไม่มีใครยอมใครจนเรียกได้ว่าคุ้มค่าการรอคอยถึง 14 ปี

Ado เอาใจแฟนไทย! อุ่นเครื่องก่อนไปคอนเสิร์ต ชม Ado SPECIAL LIVE ‘Shinzou’ in Cinema วันที่ 4 เม.ย. นี้ ฉายก่อนญี่ปุ่น

19 มี.ค. 2568, 11:30 น.

อุ่นเครื่องก่อนชมคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบในไทยกันอีกครั้ง กับ Ado ศิลปินสาวชาวญี่ปุ่นวัย 22 ปีที่มาพร้อมน้ำเสียงทรงพลังสะกดใจแฟนๆ ตั้งแ

ที่นอกจากจะประกาศคอนเสิร์ตในไทยกับ Ado WORLD TOUR 2025 ''Hibana'' Powered by Crunchyroll in BANGKOK วันที่ 4 พฤษภาคม 2025 ที่ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5-6 เมืองทองธานีแล้ว Ado ยังเอาใจแฟนๆ ชาวไทยหัวใจ J-Rock เต็มที่ ด้วยการส่ง Ado SPECIAL LIVE ‘Shinzou’ in Cinema บันทึกการแสดงสดคอนเสิร์ตที่ Japan National Stadium ในปี 2024 มาให้แฟนๆ ชาวไทยได้ชมกันในโรงภาพยนตร์อีกด้วย เรียกได้ว่าเต็มอิ่มกับภาพและเสียงแบบจัดเต็มกับระบบเสียง 5.1 และ Dolby Atmos ราวกับได้อยู่ในคอนเสิร์ตจริงๆ เลยทีเดียว

พิเศษไปกว่านั้น! แฟนๆ ชาวไทยยังจะได้รับชม Ado SPECIAL LIVE ‘Shinzou’ in Cinema ในวันที่ 4 เมษายนนี้ ก่อนที่ภาพยนตร์จะพรีเมียร์ที่ญี่ปุ่นในวันที่ 9 พฤษภาคมอีกด้วย

Ado SPECIAL LIVE ‘Shinzou’ in Cinema เป็นคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นในช่วงวันที่ 27-28 เมษายน 2024 ที่ Japan National Stadium ซึ่งเป็นสเตเดี้ยมที่ Ado เป็นศิลปินหญิงเดี่ยวคนแรกที่ได้แสดงที่นี่ มีแฟนๆ กว่า 140,000 คนที่เข้าร่วมชม เซ็ตลิสต์มีทั้งหมด 26 เพลง โดยมีเพลงเด่นๆ ที่แฟนๆ ไม่ควรพลาดอย่าง “Sakura Biyori and Time Machine” ที่แสดงร่วมกับไอดอลสาว Hatsune Miku ให้แฟนๆ ได้ชมเป็นครั้งแรก, เพลง “DIGNITY” ที่แสดงร่วมกับมือกีตารชื่อดัง Tak Matsumoto จาก B’z, เพลง “Show” ที่ทำร่วมกับ Universal Studios Japan และอีกมากมาย จากตัวอย่างภาพยนตร์ก็เห็นแล้วคอนเสิร์ตอลังการงานสร้างขนาดไหน แฟนตัวจริงของ Ado ไม่ควรพลาด! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เร็วๆ นี้

ชมคลิปตัวอย่างภาพยนตร์ Ado SPECIAL LIVE “Shinzou” in Cinema ที่นี่ : https://youtu.be/6TTyCW-PT3o

TEN กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทย 2025 TEN CONCERT 1001 MOVEMENT 'STUNNER' IN BANGKOK

18 มี.ค. 2568, 18:00 น.

SM True และ TEN ร่วมกำหนดนิยามของการแสดงสู่มิติใหม่ที่ทุกคนจะต้องตกตะลึง กับคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรก ณ บ้านเกิด ประเทศไทย

TEN (เตนล์) หรือ ชิตพล ลี้ชัยพรกุล เป็นศิลปินเค-ป็อปสัญชาติไทยที่อยู่ภายใต้สังกัด SM ENTERTAINMENT (เอสเอ็ม เอนเทอร์เทนเมนต์) บริษัทบันเทิงชั้นนำของเกาหลีใต้ การเป็น ศิลปินไทยเพียงคนเดียวในค่าย ทำให้ได้รับความสนใจและน่าจับตามองตั้งแต่วันแรกที่เดบิวต์ ตลอดจนการเติบโตและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำกิจกรรมร่วมกับวง NCT (เอ็นซีที) และ WayV (เวย์วี) จนเป็นที่รู้จักระดับโลก ด้วยความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ด้านการแสดงบนเวทีและมุมมองทางศิลปะอันโดดเด่นที่ทำให้ TEN (เตนล์) เป็น "ความสมบูรณ์แบบเต็มสิบ" ในวงการบันเทิงอย่างแท้จริง

เส้นทางศิลปินเดี่ยวของเขาเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดตัวมินิอัลบั้มชุดแรก ‘TEN’ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 กับการทดลองปรับเปลี่ยนและตีความคาแรกเตอร์ผ่านบทเพลงต่าง ๆ ได้อย่างน่าทึ่ง อีกทั้งผลงานเดี่ยวก่อนหน้านี้ เช่น ‘夢中夢 (몽중몽; Dream In A Dream)’, ‘New Heroes’, ‘Paint Me Naked’ และ ‘Birthday’ ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของเขาในการสร้างสรรค์งานเพลงที่ผสมผสานความเป็นเลิศทางเทคนิคและแนวเพลงที่มีเอกลักษณ์เข้ากับอารมณ์อันลึกซึ้ง ส่งผลให้เขาได้รับการขนานนามว่า ‘Artistic Performer’ หรือศิลปินที่สามารถถ่ายทอดศิลปะผ่านเสียงเพลงและการเคลื่อนไหวได้อย่างงดงาม ล่าสุด ‘TEN’ (เตนล์) ได้สร้างความฮือฮาอีกครั้งกับ ภาพลักษณ์ใหม่ในมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘STUNNER’ (สตันเนอร์) ซึ่งเตรียมเปิดตัวในวันที่ 24 มีนาคม 2025 อัลบั้มนี้จะพาผู้ฟังเข้าสู่โลกดนตรีที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง ‘BAMBOLA’ (แบมโบลา) ออกมาล่วงหน้าเพื่อยกระดับความตื่นเต้นให้มากขึ้นก่อนการคัมแบ็ก

ความสำเร็จของ TEN (เตนล์) ในฐานะศิลปินเดี่ยวไม่ได้หยุดอยู่แค่ในผลงานเพลงเท่านั้น แต่ยังได้รับการพิสูจน์ผ่านแฟนคอนทัวร์ ‘2024 TEN FIRST FAN-CON [1001]’ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2024 ใน 6 เมืองสำคัญทั่วเอเชีย โดยบัตรขายหมดเกลี้ยงทุกโชว์ ไม่เพียงเท่านี้ TEN (เตนล์) ยังสร้างประวัติศาสตร์กับการขึ้นแท่นเป็น ‘ศิลปินชายเดี่ยวคนแรกของ SM ENTERTAINMENT ที่จัดแฟนคอนเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่าได้สำเร็จ 2 รอบ และบัตรหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง’ สะท้อนให้เห็นถึงกระแสตอบรับอันร้อนแรง

ก้าวไปสู่จุดที่สูงขึ้นในฐานะศิลปินเดี่ยวกับ 2025 TEN CONCERT 1001 MOVEMENT 'STUNNER' IN BANGKOK ซึ่งจะตอกย้ำสถานะความนิยมและทำให้ TEN (เตนล์) กลายเป็น ‘ศิลปินชายเดี่ยวคนแรกของค่าย SM ENTERTAINMENT’ ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่า’ เตรียมสัมผัสช่วงเวลาแห่งการผลิบานและเปล่งประกายอย่างเจิดจรัสที่สุดของ TEN (เตนล์) บนเวทีคุณภาพสูงเต็มสิบ กับการแสดงอันพลิ้วไหวในทุกจังหวะ สง่างามราวกับผลงานศิลปะทุกท่วงท่า อัดแน่นไปด้วยพลังทุกการขยับตัว และเต็มเปี่ยมทุกความรู้สึกอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีเพียงแค่ TEN (เตนล์) เท่านั้นที่ทำได้ ร่วมด้วยโปรดักชันสุดอลังการที่จะสร้างนิยามใหม่ของการแสดงที่ทุกคนจะต้องตกตะลึงพร้อมสะกดทุกสายตาไว้ที่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

ติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางบัญชีโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ SM True : Facebook (เฟซบุ๊ก) facebook.com/smtruethailand, Instagram (อินสตาแกรม) instagram.com/smtruethailand, X (เอ็กซ์) x.com/SMTrueThailand และ TikTok (ติ๊กต๊อก) tiktok.com/@smtruethailand

เอมี่-บอนนี่ ชวนแฟนๆ ลุ้นบทสรุปซีรีส์ Us รักของเรา ในงานแฟนมีต เปิดขายบัตร 22 มี.ค.นี้

18 มี.ค. 2568, 13:00 น.

ทำเอาแฟนๆ ทั้งอินและฟินชุดใหญ่ไปกับทุกโมเมนต์ชวนเคลิ้มในเรื่องราวความรักของพี่สาวคนสวย “แพม” รับบทโดย “เอมี่-ทสร กลิ่นเนียม” กับม๋

ที่ทั้งคู่เสิร์ฟเคมีใหม่ถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่ต้องเลือกระหว่างความรักและความถูกต้อง ได้อย่างลงตัวสุดๆ ตั้งแต่ EP. แรกที่ออกอากาศจนถึงตอนล่าสุด ในซีรีส์แนวโรแมนติก-ดราม่า รสชาติใหม่ เรื่อง “Us รักของเรา” เมื่อความรัก...เกิดกับคนที่ไม่ควรรัก จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย และก่อนที่ซีรีส์จะลาจอไป “เอมี่-บอนนี่” จึงแท็คทีมแก๊งเพื่อนสุดปัง “วิว-เบญญาภา จีนประสม, มิ้ม-รัตนวดี วงศ์ทอง, ซิง-หฤษฎ์ ชีวการุณ, สุดยอด-พัฐสิฏ เพิ่มพูนสวัสดิ์, แซมมี่-ซาแมนท่า เมลานี่ โค้ทส์, เลโอ โซสเซย์” ชวนแฟนๆ ร่วมรับชมตอนสุดท้ายของซีรีส์ ลุ้นบทสรุปความสัมพันธ์ของทุกตัวแสดง พร้อมนักแสดงและผู้กำกับฯ คุณภาพ “ฝน-ขนิษฐา ขวัญอยู่” ในงาน “US Final EP. FAN MEETING” วันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2568 เวลา 19.30 น. ณ ชั้น 6 สยามพารากอน - โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย Paragon Cineplex พร้อมร่วมพูดคุยและชม SPECIAL SHOW สุด EXCLUSIVE จากเหล่านักแสดง งานนี้รับรองว่าแฟนๆ ได้รับความสุขแบบเต็มอิ่มกลับบ้านไปแน่นอน

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจับจองบัตรเข้าร่วมงาน “US Final EP. FAN MEETING” โดยจะเปิดจำหน่ายบัตร ในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคมนี้ เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป บัตรราคา 2,500 / 2,000 / 1,500 บาท ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา, www.thaiticketmajor.com และ Call Center โทร 0-2262-3456 พร้อมสิทธิ์รับ US Photocard (size 5x7") with with digital autographs ทุกที่นั่ง สามารถรับได้ที่จุดลงทะเบียนหน้างาน และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ : www.thaiticketmajor.com, Facebook / Instagram / X / TikTok / YouTube / Weibo: GMMTV

เก่งขึ้นทุกครั้งที่เจอ! ประมวลภาพ "ยูคยอม" ในอังกอร์คอนเสิร์ตที่มีแค่ประเทศไทย 2025 YUGYEOM TOUR [TRUSTY] ENCORE IN BANGKOK

17 มี.ค. 2568, 15:00 น.

กลับมาไทยรอบนี้ใครๆ ก็ชมว่าพูดเก่งขึ้น แถมขี้เล่นแล้วยังขี้อ้อนด้วย สำหรับศิลปินหนุ่มเกาหลีที่ชื่อ คิมยูคยอม (KIM YUGYEOM) หรือ ยู

ซึ่งความสามารถล้นตัว ทั้งสกิลแดนซ์ที่ไม่จมไม่หาย และไม่อายใครเรื่องร้อง นับเป็นความภาคภูมิใจของกลุ่มแม่ๆ และเหล่านูน่าไอก็อตเซเว่น (IGOT7 ชื่อแฟนคลับของวง GOT7 หรือที่แฟนๆ นิยมเรียกว่าอากาเซ่) อย่างไม่ต้องสงสัย งานนี้ยัง “สนุกมาก” “โฮ่งมาก” กับคอนเสิร์ต “2025 ยูคยอม ทัวร์ [ทรัสตี้] อังกอร์ อิน แบงคอก” (2025 YUGYEOM TOUR [TRUSTY] ENCORE IN BANGKOK) #2025TRUSTY_ENCORE_IN_BANGKOK เมื่อวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ ไบเทค ไลฟ์ (BITEC Live) จัดโดย โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Four One One Entertainment หรือ 411ent) ของ กึ้ง–เฉลิมชัย มหากิจศิริ จับมือต้นสังกัด เอโอเอ็มจี (AOMG) และ วันเดอร์ (WONDER) ประเทศเกาหลีใต้

ยูคยอม ที่เห็นแฟนๆ ตบเท้าเดินทางมาร่วมซัพพอร์ตกันอย่างเนืองแน่น ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ขนการแสดงจัดเต็มที่เรียกได้ว่าเต็มอิ่มครบรส แถมขนเพลงจากอัลบั้ม “TRUST ME” มาฝากแฟนๆ ยกอัลบั้ม รวมถึงเพลงฮิตจากวง GOT7 และ 2 เพลงใหม่ซึ่งยังไม่ได้ปล่อยอย่างเป็นทางการให้อากาเซ่ได้ฟัง และที่สุดของความพิเศษ ครั้งนี้เขาเลือกหยิบเพลงจากซีรีส์ไทยที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้อย่างเรื่อง “GELBOYS สถานะกั๊กใจ” มาร้องให้อากาเซ่ฟังแบบสดๆ ยิ่งกว่าปลาในตลาดอีกด้วย

การแสดงคอนเสิร์ต #2025TRUSTY_ENCORE_IN_BANGKOK ครั้งนี้ ยูคยอมได้เริ่มต้นโชว์ด้วยเพลงแรก ‘When U Fall’ ต่อด้วย ‘I Want U Around’ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงทอล์กแรกที่ยูคยอมได้เปิดด้วยคำพูดอ้อนแฟนๆ สุดฤทธิ์ “สวัสดีคร้าบ ผมเป็นหนุ่มยูคยอมคร้าบ นี่ผมไม่ได้ฝันอยู่ใช่ไหมครับทุกคน ทุกคนทำให้ผมมีความสุขเสมอเลยครับ สุดยอด โฮ่งมาก” พร้อมพูดเต็มปากเลยว่าอังกอร์สำหรับคอนเสิร์ต [TRUSTY] มีที่ประเทศไทยที่เดียวเท่านั้น!

ไต่ระดับจังหวะกันด้วยเพลง ‘LOLO’ และ ‘Fine’ นับว่าเป็นช่วงเปิดคอนเสิร์ตที่เรียงลำดับการแสดงค่อยๆ เรียกเอเนอร์จีจากแฟนๆ ได้อย่างดี มาโยกกันต่อกับเพลง ‘WOOYAYAYA’ (우야야야), ‘Take You Down’, ‘All Your Fault’ (네 잘못이야), ‘Take It Slow’ (허리를 감싸고) และ ‘Say Nothing’ ส่วน ‘SHE’ (나의 그녀는) คือเพลงถัดมาที่หนุ่มหล่อเรืองแสงพูดเองเลยว่า เป็นเพลงเท่ๆ ของเขาที่อยากโชว์ให้แฟนๆ ได้ชม ต่อด้วยเพลงเต้นสนุกๆ อย่าง ‘Dance’, ‘Steppin’ และ ‘SHINE’ (빛이나) ก่อนจะส่งต่อเวทีและผู้ชมให้สนุกกันต่อกับโชว์ของ ดีเจ เวกอน (DJ WEGUN) ที่ขนเพลงฮิตจำนวนมากมามิกซ์ให้แฟนๆ ได้เอนจอยไปด้วยกัน

กลับมาจอยกับ ยูคยอม ต่อในเพลง ‘Be Alright’, ‘All About U’ และ ‘Sweet like’ นอกจากนี้ยังโชว์เพลงใหม่ที่ยังไม่ได้ปล่อยอย่างเพลง ‘딱풀’ และเพลง “SET ME FREE” ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรกนอกจากเกาหลีใต้ที่ได้ชมเพลงใหม่ก่อนใคร! ไปกันต่อกับเพลง ‘Falling In Love’ และ ‘Ponytail’ ก่อนจะอวดอากาเซ่ด้วยเพลงไทยที่จริงใจ ซ้อมกันสดๆ บนเวทีไปเลยกับ ‘เลิกกั๊กแล้วรักก่อน’ (RED FLAG) เพลงประกอบซีรีส์เรื่อง “GELBOYS สถานะกั๊กใจ” ทำเอาแฟนๆ หลงรักในความขี้เล่นของหนุ่ม GREEN FLAG ผู้นี้ไปตามๆ กัน

มาถึงคิวของเพลง ‘Summer Blues’ ซึ่งในระหว่างโชว์ ผู้ชมจากชั้นสองชวนกันร่อนจรวดกระดาษสีเหลืองส่งต่อความรักมาถึงบนเวที เป็นโปรเจกต์จากบ้านแฟนคลับที่น่ารักมาก โดย ยูคยอม ก็น่ารักกลับไม่โกงด้วยการเดินเก็บจรวดติดตัวกลับไปเป็นที่ระลึกด้วย จากนั้นฮีเสิร์ฟชุดใหญ่ไล่ไปตั้งแต่ ‘LA SOL MI’, ‘Love The Way’, ‘1 MINUTE’ (1분만) และ ‘Lights’ (불빛) พักหายใจกันเล็กน้อยแล้วเข้าช่วงอังกอร์ของคอนเสิร์ตอังกอร์ในครั้งนี้ ยูคยอม หยิบเพลง ‘WUH’ และเพลงจากวง GOT7 อย่าง ‘1+1’ ก่อนจะขอถ่ายภาพกับแฟนๆ โดยเหล่าอากาเซ่ไทยขอส่งท้ายด้วยเซอร์ไพรส์เป็นแฟนอาร์ตบนผืนผ้า ร่วมด้วยป้ายสโลแกนที่เขียนข้อความว่า "우리는 항상 유겸을 기다리고 있어요" (พวกเรารอคอยยูคยอมเสมอ) รวมถึงคลิปวิดีโอสัมภาษณ์น่ารักๆ จากอากาเซ่ทั้ง 383 คน ตามด้วยเซอร์ไพรส์คลิปวิดีโอจากทีมงานเกาหลีซึ่งได้แอบถ่ายทำกันในระหว่างเตรียมงานคอนเสิร์ตครั้งนี้นั่นเอง

ยูคยอม หยิบเพลง ‘Hard Carry’ มาปิดท้ายคอนเสิร์ต #2025TRUSTY_ENCORE_IN_BANGKOK โดยมีเหล่าทีมงานเกาหลีรวมถึงซีอีโอกึ้งขึ้นเวทีมาหยอกๆ ศิลปินอันเป็นที่รักด้วยการรุมสาดน้ำฉ่ำเย็นสนุกสนานกันไป ยังไม่จบง่ายๆ เขาแถมเพลง ‘OOOWEE’ ที่เคยได้ร่วมงานกับศิลปินไทยอย่าง F.HERO และ TWOPEE และเพลงล่าสุดของวง GOT7 อย่าง ‘PYTHON’ เป็นความสนุกเต็มอิ่มตลอดสองชั่วโมงเต็ม ปิดท้ายด้วยบิ๊กเซอร์ไพรส์จาก YUGYEOM "ทุกคนครับ เดี๋ยวจะกลับมาในฐานะคอนเสิร์ตของ GOT7 นะครับ" สปอยล์ตูมใหญ่ กรี๊ดสนั่นไปทั้งฮอลล์ ** เตรียมพบกับคอนเสิร์ต GOT7 ณ ราชมังคลากีฬาสถาน เร็วๆ นี้ ** ส่วนจะจัดขึ้นเมื่อไร สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางออฟฟิเชียลโซเชียลมีเดียของผู้จัดงาน @411ent ทุกแพลตฟอร์ม

"รอยยิ้มของคนไทยมันช่างอบอุ่น" เรื่องที่สุดของ JO1 ไอดอลผู้กลายเป็นหนึ่งเดียว และมุ่งสู่จุดสูงสุดของโลก

14 มี.ค. 2568, 11:00 น.

TTM VARIETY มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษพูดคุยกับ 11 หนุ่มนิฮงบอย JO1 กลุ่มบอยแบนด์ระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ครั้งมาเยือนประเทศไทยในคอนเ

ทั้ง 11 หนุ่มมาพร้อมความหล่อ ออร่า น่ารัก อารมณ์ดี ที่ทำเอาเราใจเต้นระรัวเลยทีเดียว โดยสมาชิกทั้ง 11 คน Yonashiro Sho (โยนาชิโระ โช), Kawashiri Ren(คาวาชิริ เร็น), Shiroiwa Ruki (ชิโรอิวะ รุกิ), Kono Junki (โคโนะ จุนกิ), Sato Keigo (ซาโต้ เคย์โกะ), Kawanishi Takumi (คาวานิชิ ทาคุมิ), Kimata Syoya (คิมาตะ โชยะ), Ohira Shosei (โอฮิระ โชเซย์), Kinjo Sukai (คินโจ สุไก), Tsurubo Shion (สึรุโบะ ชิอง) และ Mamehara Issei (มาเมฮาระ อิซเซย์) ที่เกิดจาก 11 คนที่ได้รับเลือกจาก 101 คนโดยผู้ชม "โปรดิวเซอร์แห่งชาติ" ในรายการออดิชั่นที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น "PRODUCE 101 JAPAN" ซึ่งทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางสังคมในปี 2019

โดย "JO1" มีความหมายว่าเด็กฝึกที่ไล่ตามความฝันร่วมกันใน "PRODUCE 101 JAPAN" รวมเป็นหนึ่ง และมุ่งสู่จุดสูงสุดของโลก TTM VARIETY จึงได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่สุดกับ JO1

TTM : JO1 ชอบอะไรเกี่ยวกับประเทศไทยที่สุด

JO1 : ชอบรอยยิ้มคนไทยที่สุดครับ รอยยิ้มของคนไทยมันช่างอบอุ่น เป็นรอยยิ้มที่จริงใจ ไม่มีความหม่นหมองในรอยยิ้มเลย ขอให้ทุกคนยิ้มกันเยอะ ๆ นะครับ

TTM : JO1 ประทับใจอะไรในแฟนๆ ชาวไทยที่สุด

JO1 : รู้สึกว่าคนไทยใจดี มักจะต้อนรับ JO1 ด้วยร้อยยิ้มเสมอครับ ที่เคย์โกะประทับใจที่สุดคือ ตอนวันเกิดมีรถตุ๊ก ๆ ติดป้าย Happy Birthday และมีภาพของเคย์โกะด้วย รถตุ๊ก ๆ วิ่งอยู่ทั่งกรุงเทพหลายคัน ผมเห็นแล้วประทับใจที่สุดเลยครับ

TTM : เหตุการณ์อะไรทำใจฟูที่สุดเมื่อได้ไปโชว์ประเทศต่างๆ

JO1 : ใจฟูที่สุดตอนที่แฟน ๆ ประเทศต่าง ๆ ช่วยสอนพูดภาษาต่าง ๆ ให้กับพวกเราครับ มันน่ารักมากเลย

TTM : อยากแนะนำให้ชาว JAM ไทยไปเที่ยวที่ไหนในญี่ปุ่นที่สุด

JO1 : โชเซย์อยากแนะนำให้ JAM ไทยไปเที่ยวเกียวโตที่สุด ญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ เยอะมาก แต่เกียวโตเป็นบ้านเกิดของผม ผมเป็นเหมือนฑูตการท่องเที่ยวเกียวโตครับ(หัวเราะ) อยากให้ไปกันครับ ถ้าไปเที่ยวเกียวโตก็จะได้สัมผัสวัฒนธรรมอะไรหลาย ๆ อย่าง และที่สำคัญมีอาหารที่อร่อยมากครับ

TTM : JO1 คนนี้แหละน่ารักกับเมมเบอร์ที่สุด

JO1 : เมมเบอร์ชี้ "โชว์เซย์" พร้อมพูดภาษาไทย "โชเซย์น่ารักกกกกก"

TTM : JO1 ใครกันที่แสบซนกับเมมเบอร์ที่สุด

JO1 : เมมเบอร์นับหนึ่ง สอง ซั่ม(ภาษาไทย) พร้อมบอกว่า "เคย์โกะ" โดยเคย์โกะบอกว่าผมชอบแกล้งเพื่อนบ่อย ๆ เพราะอยากเห็นเพื่อนสนุก ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี(หัวเราะ)

TTM : เมมเบอร์ JO1 เป็นหนึ่งเดียวกันเรื่องอะไรที่สุด

JO1 : เรื่องการแข่งขันครับ หมายถึงเวลาต้องไปแข่งกับคนอื่นนะครับ JO1 พร้อมสู้เป็นหนึ่งเดียวกันสุดๆ พวกเราเลือดนักสู้ ไม่ยอมแพ้ใครครับ

TTM : ตั้งแต่เดบิวต์จนถึงตอนนี้ ช่วงไหนผ่านมาได้ยากที่สุด

JO1 : ช่วงก่อนที่จะได้เล่นคอนเสิร์ตครั้งแรกครับ เพราะเดบิวต์มาแล้วเป็นช่วงโควิดระบาด ช่วงนั้นวงโดนแคนเซิลแผนงานต่างๆ หมดเลย ต้องอยู่ในบ้านอย่างเดียวไปไหนก็ไม่ได้เลย ช่วงนั้นรู้สึกว่าผ่านมาได้ยากที่สุดแล้วครับ

TTM : ผลงาน JO1 ที่อยากแนะนำตอนนี้ที่สุด

JO1 : พวกผมอยากแนะนำรายการ Hi! JO1 ซึ่งเป็นคอนเทนต์ใน youtube ครับ เป็นคอนเทนต์สนุก ๆ ที่แฟน ๆ จะได้เห็นอีกแง่มุมของ J01 ครับ

TTM : เพลงของ JO1 ที่อยากแนะนำตอนนี้ที่สุด

JO1 : เป็นผลงานล่าสุดของพวกเราที่กำลังจะออกมาครับในเพลง “BE CLASSIC“ ตอนที่ทำเพลงนี้เรารู้สึกว่ามันดีมาก เป็นเพลงสไตล์ที่ JO1 ไม่ได้ทำบ่อยๆ ครับ ในเพลงจะมีความเป็นออร์เครสต้า และมีเสียงร้องที่สูง และท่าเต้นที่หนักหน่วง เมมเบอร์ทุกคนทุ่มเทสุดๆ เลยครับ ซึ่งอัลบั้มจะถูกปล่อยออกมาในวันที่ 2 เมษายน 2025 นี้

และนี่คือคาราโอเกะที่ใหญ่ที่สุด! ประมวลภาพคอนเสิร์ต NCT 127 บัตร SOLD OUT รวมผู้ชมกว่า 36,000 คน

13 มี.ค. 2568, 13:00 น.

NCT 127 ทะยานด้วยแรงขับเคลื่อนไร้ขีดจำกัดสู่ประเทศไทย ระเบิดปรากฏการณ์ความสนุกในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สี่ NCT 127 4TH TOUR ‘

ในวันเสาร์ที่ 22 และอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม บัตรหมดเกลี้ยงรวมผู้ชมกว่า 36,000 คน พร้อมจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการผสมผสานระหว่างดนตรีสุดล้ำเข้ากับการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ และโปรดักชันสุดอลังการ ขึ้นแท่นศิลปินวงแรกของค่าย SM ENTERTAINMENT ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมในประเทศไทยได้ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 ตอกย้ำสถานะหนึ่งในศิลปินผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการเค-ป็อป

เปิดฉากคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ด้วยวีซีอาร์ปลุกความระทึกใจ ถ่ายทอดภารกิจของ NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ในการก้าวข้ามความยากลำบากและกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยนำเสนอในอัตราส่วนแบบภาพยนตร์เพื่อเพิ่มความสมจริงและดึงอารมณ์ร่วมของผู้ชมให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการสำคัญครั้งนี้ พร้อมจุดความตื่นเต้นให้ลุกโชนในเพลงช่วงแรก ‘Gas’, ‘Faster’, ‘Bring The Noize’ เร่งระดับความร้อนแรงเต็มอัตรากับเพลงฮิตอื่น ๆ อย่าง ‘질주 (2 Baddies)’, ‘Regular’, ‘Sticker’ และเพลงล่าสุด ‘삐그덕 (Walk)’ ที่แฟนคลับได้เตรียมผ้าเช็ดหน้ามาโบกตามกิมมิกของเพลงนี้

อีกทั้งยังเสริมลูกเล่นของการกำกับเวทีในเพลงต่าง ๆ ให้มีความโดดเด่น เช่น การใช้ลิฟต์ต่อเรียงกันยาว 13 เมตรในเพลง ‘Skyscraper (摩天樓; 마천루)’, การใช้เลเซอร์สร้างรูปห่วงโซ่ลงบนพื้นเวทีตามชื่อเพลง ‘Chain’, การใช้ร่มและฉากน้ำฝนจากแสงสะท้อนกลับในเพลง ‘Rain Drop’ เสมือนฉากในละครเวที บวกกับโปรดักชันสุดตระการตา เช่น จอ LED ขนาดใหญ่เรียงต่อกันกว้าง 49 ม. และสูง 12 ม., ทางเดินที่ยาวออกมาถึง 36.6 ม., ลิฟต์ 17 ตัว, สายพานเคลื่อนที่ไฟฟ้า, กระดาษโปรย, บอลลูนยักษ์, เครื่องพ่นไฟ และเลเซอร์แรงสูงกว่า 18 ตัว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแสดงช่วงเพลง ‘Far’ ที่ NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ปรากฏตัวพร้อมฉากรูปปั้นขนาดมหึมา ยึดครองเวทีด้วยกองทัพนักเต้นจำนวนมากมาร่วมในการแสดงธงสุดฮึกเหิม ความเร้าใจยังคงดำเนินต่อไปแบบไม่มีพักในเพลง ‘영웅 (英雄; Kick It)’ และ ‘Fact Check (불가사의; 不可思議)’ สะกดทุกสายตาผ่านการแสดงอันน่าทึ่งและท่าเต้นเหนือชั้น กลายเป็นช่วงไคลแมกซ์ที่ผู้ชมต่างร้องตามและส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นจนทะลุออกมานอกสเตเดียม นับเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ทำไม NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) จึงได้รับการขนานนามว่า ‘God of Performance’ (เทพเจ้าแห่งการแสดง)

ไม่เพียงเท่านี้ พวกเขายังมอบบรรยากาศอันตราตรึงจนไม่อาจละสายตาในการแสดงเพลง ‘영화처럼 (Can't Help Myself)’, ‘윤슬 (Gold Dust)’ และ ‘나의 모든 순간 (No Longer)’ โอบล้อมด้วยทะเลเรืองแสงจากแท่งไฟของ NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ทั้งสี Pearl Neo Champagne (สีสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของ NCT) และสีอื่น ๆ ตามระบบการควบคุมแท่งไฟ ตลอดจนแฟนโปรเจกต์อันมีความหมายมากมาย เช่น “127 ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นความสุข ความทรงจำ และบ้านของพวกเรา”, “ไม่ว่าใครจะพูดยังไง 127 คือ ความภาคภูมิใจของพวกเราเสมอ” และการใช้กล่องไฟแปรอักษร “NO 127 NO LIFE”, “GOD 127 คาราโอเกะที่ใหญ่ที่สุด” ซึ่งช่วยเชื่อมโยงและเติมเต็มความรู้สึกระหว่างกันให้มากขึ้น

ส่งท้ายค่ำคืนแห่งความประทับใจด้วยรถเลื่อนที่แล่นไปเพิ่มความใกล้ชิดให้ผู้ชมโดยรอบ ก่อนยกระดับความน่าตื่นตาตื่นใจด้วยไฮไลต์พิเศษตามคาดหวัง คือ การใช้ไพโรเทคนิคต่อเนื่องเกือบ 1 นาที ในเพลง ‘다시 만나는 날 (Promise You)’ เปล่งประกายสว่างสไวบนฟากฟ้าเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำอันยิ่งใหญ่ โดย NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ได้แสดงให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนและความมุ่งมั่นอันไม่มีที่สิ้นสุดของพวกเขาอย่างเต็มที่ ตามชื่อทัวร์ ‘THE MOMENTUM’ (เดอะ โมเมนตัม) ปิดจบภารกิจที่ดำเนินมาตลอด 3 ชั่วโมง กับ 26 บทเพลง ได้อย่างยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบ ท่ามกลางตัวแปรสำคัญของความสำเร็จที่คอยอยู่เคียงข้างพวกเขาเสมอมาอย่าง NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น)

ฟอส-บุ๊ค, เพิร์ธ-แซนต้า, จูเนียร์-มาร์ค” พร้อมเสิร์ฟความฟิน จัดปาร์ตี้สุดพิเศษ 2 งาน เปิดขายบัตร 15 มี.ค.นี้

12 มี.ค. 2568, 16:00 น.

เป็นซีรีส์สุดเพอร์เฟคที่กระแสแรงต่อเนื่องแบบไม่มีแผ่ว และยังฮอตติดเทรนด์ X “อันดับ 1” ทุก EP ทั้งในประเทศไทย รวมทั้งอีกหลายพื้นที่

ที่เปิดรั้วมหาวิทยาลัยให้แฟนๆ ได้สัมผัสงานดีทุกชั้นปี สายรหัสนี้…เต็มสิบไม่หัก ซีรีส์ที่แฟนๆ ทั้งอินและฟินหนักมาก จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย ซึ่งเดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว กับความรักวุ่นๆ ในรั้ววิศวะที่สนุกสนานกลมกล่อมครบรส ล่าสุดเหล่าสายรหัสเทวดาสุดฮอต “ฟอส จิรัชพงศ์ ศรีแสง, บุ๊ค กษิดิ์เดช ปลูกผล, เพิร์ธ ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร, แซนต้า พงศภัค อุดมโภชน์, จูเนียร์ ปณชัย ศรีอาริยะรุ่งเรือง, มาร์ค จิรันธนิน ตรัยรัตนยนต์” จัดปาร์ตี้สุดพิเศษ พร้อมเสิร์ฟความสนุกสุดฟิน เต็มอิ่มกับโชว์สุดเพอร์เฟค และรับชม “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” ตอนสุดท้ายร่วมกัน ในงาน “Perfect 10 Liners BYE NIOR FAN PARTY” และไปพบกับ AFTER PARTY งานในงาน Perfect 10 Liners BYE NIOR AFTER PARTY นอกจากโชว์สุดปังจากเหล่านักแสดง ยังได้พูดคุยเบื้องหลังสนุกๆ กับผู้กำกับฯ คนเก่ง “นิว ศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล” ท่ามกลางบรรยากาศสุดตระการตา แสงสีเสียงจัดเต็ม ที่รับรองว่าแฟนๆ จะประทับใจไม่รู้ลืม สำหรับแฟนๆ ทั่วโลกสามารถร่วมสนุกได้แบบเรียลไทม์ ไปกับการรับชมแบบ Live Streaming ผ่านทาง “TTM LIVE” ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ครอบคลุมทั่วโลก ในวันอาทิตย์ที่ 6 - 7 เมษายน 2568 เวลา 19.00 น. MCC HALL ชั้น 4 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองบัตรเข้าร่วมงาน “Perfect 10 Liners BYE NIOR FAN PARTY” เปิดจำหน่ายบัตร วันเสาร์ที่ 15 มีนาคมนี้ เริ่มเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป เปิดจำหน่ายบัตรทุกที่นั่ง ทางออนไลน์ที่ www.thaiticketmajor.com เท่านั้น และเปิดจำหน่ายบัตร ทุกช่องทางตามปกติ ในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2568 เริ่มเวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ทาง ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา, www.thaiticketmajor.com โทร 0-2262-3456 บัตรราคา 4,500 / 3,500 / 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,500 บาท และดูสดผ่าน TTM LIVE บัตรราคา 1,200 / 990 บาท (ลิ้งค์และโค้ดรับชม) (กรณีต้องการรับบัตรพลาสติกที่ระลึก ชำระเพิ่ม 30บาท/ใบ) หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com และ Facebook / Instagram / X / TikTok / YouTube / Weibo: GMMTV

ไปกันหรือยัง? POP-UP สุดพิเศษ “ALTER EGO WORLDWIDE POP-UP” ฉลองเปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก LISA จัดถึง 16 มีนาคมนี้

11 มี.ค. 2568, 18:00 น.

‘ลิซ่า’ แร็ปเปอร์ นักร้อง นักเต้น และ Style Icon ชื่อดังระดับโลก ซึ่งโด่งดังจากการเป็นสมาชิกวง BLACKPINK ไอดอล K-POP ที่ทำลายสถิ

เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัว ‘Alter Ego’ อัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเธอที่ทุกคนต่างรอคอย โดยงาน POP-UP สุดพิเศษในประเทศไทยนี้ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6-16 มีนาคม 2568 หลังจากที่ปล่อยอัลบั้ม Alter Ego ออกมาให้แฟน ๆ ได้รับชมกัน โดยทาง Stardore Entertainment ได้จัดงาน POP-UP สุดพิเศษในประเทศไทยร่วมกับ Paradise E&A และ Mondaymorning Creativelab

POP-UP ในครั้งนี้เป็นงานฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้างาน เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 6-16 มีนาคม เวลา 10.00 - 22.00 น. ซึ่งจะเป็นการมอบโอกาสพิเศษให้แฟน ๆ ได้สัมผัสกับประสบการณ์แห่งยุค SOLO ของลิซ่า ในพื้นที่ที่เต็มอิ่มและไม่เหมือนใคร

กรุงเทพฯได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัว POP-UP ระดับโลก รวมถึงนิวยอร์กซิตี้ ลอสแองเจลลิส โตเกียว และโซล โดยในกรุงเทพฯ ได้จัดขึ้นที่ วัน แบงค็อก บริเวณลาน The Storeys Square ชั้น G โซน The Storeys ซึ่งเป็นที่เดียวที่เป็นจุดหมายปลายทางที่แฟน ๆ ของลิซ่าต้องมาเยือน งาน Event ในครั้งนี้จะทำให้ Alter Ego มีชีวิตขึ้นมาผ่านประสบการณ์หลากหลายมิติ ซึ่งประกอบด้วย:

ภาพเสมือนจริง (Immersive Visuals): เมื่อเข้าไปใน POP-UP แฟน ๆ จะได้รับการต้อนรับด้วยจอภาพสีสันสดใสที่แสดงถึงตัวตนของลิซ่า เพื่อสร้างบรรยากาศให้กับการเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะสะท้อนถึงวิวัฒนาการทางศิลปะที่กล้าหาญของเธอ
สินค้าสุดพิเศษ (Exclusive Merchandise): สินค้า limited สุดพิเศษเฉพาะในกรุงเทพฯ จะวางจำหน่ายให้แฟนๆ สามารถนำ Alter Ego กลับบ้านได้ ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะที่นี่เท่านั้น
ของที่ระลึก (Free Giveaways): แฟน ๆ ที่เข้าร่วมงานจะมีโอกาสสะสมของ Giveaways ฟรีซึ่งมีเฉพาะ POP-UP ในกรุงเทพฯ เท่านั้น
บรรยากาศที่น่าประทับใจ (Striking Ambience): การจัดแสดงดวงดาวขนาดยักษ์ที่จะเป็นจุดศูนย์กลางของงาน ซึ่งเป็นการยกย่องสไตล์เฉพาะตัวของลิซ่า ทำให้แนวคิดที่ว่า "ดวงดาวคือตัวตนทั้งหมด" นั้นได้กลายเป็นความจริง
การพบปะและทักทาย (Meet & Greet): แฟน ๆ ผู้โชคดีจำนวน 50 คนที่เข้าร่วมงาน POP-UP จะได้รับการคัดเลือกแบบสุ่มเพื่อพบปะและทักทายกับลิซ่า

POP-UP นี้ไม่ได้มีเพียงแค่การจำหน่ายสินค้าสุดพิเศษเท่านั้น แต่เป็นยังการเฉลิมฉลองความเป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีระหว่างลิซ่ากับแฟน ๆ อีกด้วย ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนตัวยงของเธอหรือเพิ่งรู้จักเพลงของเธอ การมาสัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษอย่างงาน POP-UP ในกรุงเทพฯ ที่จัดขึ้นที่ วัน แบงค็อก บริเวณลาน The Storeys Square ชั้น G โซน The Storeys นี้ถือเป็นงานที่ทุกคนไม่ควรพลาด

ลิซ่าประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลจากผลงานเดี่ยวของเธอ ซิงเกิลเปิดตัวของเธออย่าง ‘Lalisa’ สร้างสถิติ Guinness World Record สำหรับมิวสิควิดีโอที่มียอดวิวสูงสุดในฐานะศิลปินเดี่ยวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดตัวในปี 2021 และในปี 2024 เธอสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้ารางวัล Best K-Pop จากงาน MTV Video Music Awards สำหรับ Single ‘Rockstar’ ของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นศิลปินเดี่ยว K-POP คนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ถึง 2 ครั้ง นอกจากนี้ การที่เธอร่วมงานกับ Rosalia ในเพลง ‘New Woman’ ยังได้รับรางวัล Best Collaboration จากงาน MTV Europe Music Awards ประจำปี 2024 อีกด้วย อีกทั้ง Single ล่าสุดของเธอ ‘Born Again’ ร่วมกับ Doja Cat และ RAYE ที่ได้เปิดตัวเมื่อต้นเดือนมีนาคมและได้ติดใน Billboard Hot 100 ทันทีเมื่อเปิดตัว และในวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ลิซ่าได้เข้าร่วมงานเปิดตัวรางวัล OSCARS เป็นครั้งแรก ซึ่งโชว์สุดพิเศษของเธอได้เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองภาพยนตร์พิเศษในงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 9 ร่วมกับ Doja Cat และ Raye อีกด้วย นอกจากนี้เธอยังเพิ่งเปิดตัวการแสดงใน The White Lotus ซีซันที่ 3 ซึ่งกำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้

สถานที่ในการจัด POP-UP: วัน แบงค็อก บริเวณลาน The Storeys Square ชั้น G โซน The Storeys ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330, ประเทศไทย

สนุกแฟ่ด หวานซึ้ง! ประมวลภาพ “น้ำตาล-ฟิล์ม” ในงานแฟนมีตติ้งแรกในไทย! “NAMTAN FILM PRINCESS’S TALE FAN MEETING” 2 วันจัดเต็ม

11 มี.ค. 2568, 12:00 น.

มัดรวมมาเสิร์ฟทุกโมเมนต์ ทั้งฮ๊อบ ทั้งฮา ตลอด 2 วัน สำหรับงาน “NAMTAN FILM PRINCESS’S TALE FAN MEETING” แฟนมีตติ้งครั้งแรกที

“น้ำตาล ทิพนารี วีรวัฒโนดม” และ “ฟิล์ม รชานันท์ มหาวรรณ์” จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย ที่ประสบความสำเร็จจากซีรีส์ “Pluto นิทาน ดวงดาว ความรัก” จนได้รับความรักจากแฟนๆ ทั่วโลก โดยงานนี้ “น้ำตาล-ฟิล์ม” มาในธีม สวย หวาน ตามแบบฉบับของเจ้าหญิงและเจ้าหญิง ที่เต็มไปด้วยมวลพลังแห่งความสุข จัดเต็มการแสดงทั้งร้อง เล่น เต้น โชว์ ตั้งใจมามอบให้เหล่า LUNAR (ลูน่า) ทั้งในฮอลล์ และแฟนๆ ทั่วโลก ที่รับชม LIVE Streaming ผ่านทาง “TTM LIVE” ท่ามกลางแสง สี เสียง และบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักจากเหล่า LUNAR (ลูน่า) ทั่วโลก จนส่งผลให้ #NamtanFilm1stFMD1 ทะยานขึ้นเทรนด์ X “อันดับ 1” ประเทศไทย, เวียดนาม, ฮ่องกง และอีกหลายประเทศทั่วโลก เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม และวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568 ณ MCC HALL เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ

โดยการแสดงในพาร์ทแรกของ 2 เจ้าหญิง “น้ำตาล-ฟิล์ม” เปิดโชว์มาพร้อมกับเสียงหวานๆ และความสวยสะกดตา กับเพลง “เรื่องเล่าของเจ้าหญิง” ตามด้วย “ดวงจันทร์กลางวัน ( AFTERMOON)” ที่พาเหล่า LUNAR (ลูน่า) ล่องลอยเข้าไปอยู่ในนิทาน ก่อนจะเรียกเสียงกรี๊ดลั่นฮอลล์ เพราะน้ำตาลฟิล์มเสิร์ฟตั้งแต่เริ่ม ทำแฟนๆ ฮ๊อบจนต้องเรียกหาคลินิกจัดฟันใกล้ชั้น จากนั้นเข้าสู่ช่วงทอล์คเปิดตัว 2 พิธีกรอารมณ์ดี “ก๊อตจิ ทัชชกร บุญลัภยานันท์” และ “เลโอ โซสเซย์” ขึ้นมาพูดคุยถึงจุดเริ่มต้นตั้งแต่ Day 1 จากคนรู้จักจนกลายมาเป็นพี่น้องที่รู้ใจ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเกมเสิร์ฟโมเมนต์ให้แฟนๆ ได้เก็บภาพกันแบบฉ่ำๆ โดยให้ “น้ำตาล-ฟิล์ม” ทำท่าตามซีนจากซีรีส์ “Pluto นิทาน ดวงดาว ความรัก” งานนี้แต่ละซีนที่คัดมาก็ทำเอาสองสาวถึงกับเขินเสียอาการเลยทีเดียว

จากนั้นกลับเข้าสู่โชว์อีกครั้ง เริ่มกันด้วยความน่ารักสดใสของที่ทำมัมหมีใจฟูของสาวฟิล์มกับเพลง “รอนะ” และต่อด้วยน้ำตาลที่ทั้งร้อง และเล่นกีต้าร์ โชว์เพลง “Somewhere only we know” ในลุคสาวสวยสุดเท่ และปิดท้ายด้วยเพลง “พลูโต(Pluto)” จากน้ำตาลและฟิล์ม ก่อนจะเข้าสู่ช่วงทอล์คที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความประทับใจ กับการเดินทางของน้ำตาลฟิล์มจนกลายมาเป็นน้ำตาลฟิล์มในเวอร์ชั่นที่ได้รับความรักจากแฟนๆ ทั่วโลก จากนั้นเข้าสู่ช่วงกิจกรรมสุดพิเศษ โดยให้น้ำตาลฟิล์มทำของขวัญแฮนด์เมดสุดพิเศษมอบให้กับลัคกี้แฟน ก่อนจะทำเซอร์ไพรส์ที่เรียกเสียงกรี๊ดจาก LUNAR (ลูน่า) จนฮอลล์แทบสั่น ทั้ง 2 วัน ด้วยลีลาการเต้นสุดเซ็กซี่แบบจัดเต็มกับเพลง “จีนี่จ๋า” และลุคอาหมวยโดนใจมัมหมี ในเพลง “หมวยนี่ค่ะ” ก่อนจะปิดท้ายด้วยโมเมนต์สุดประทับใจกับโปรเจกต์เซอร์ไพร์สจากชาว LUNAR (ลูน่า) ที่ทำน้ำตาลและฟิล์มถึงกับปล่อยโฮ พร้อมขอบคุณ LUNAR(ลูน่า) ที่เข้ามาสร้างความทรงจำและเป็นโลกของกันและกัน และปิดท้ายด้วยเพลง “ไม่ใช่บังเอิญ” และ “นิยายเรื่องเธอ” กับบรรยากาศสุดอบอุ่น เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคราบน้ำตาแห่งความสุขจนเอ่อล้นฮอลล์

VALLEY กลับมาพร้อมความสดใส แฟนชาวไทยเตรียมชุ่มฉ่ำหัวใจพร้อมกัน!

10 มี.ค. 2568, 14:34 น.

หลังจากได้สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ บ้านเราในเทศกาล Road To Sonic Bang ไปเมื่อเกือบสองปีก่อน

VALLEY วงอินดี้ป็อปจากแดนาดา เตรียมกลับมาแจกความชุ่มฉ่ำหัวใจด้วยผลงานชุดใหม่ล่าสุด Water the Flowers, Pray for a Garden กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกที่เมืองไทย

ย้อนกลับไปช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา VALLEY ได้ตระเวนทัวร์คอนเสิร์ตกันไปแล้วที่ยุโรป และได้รับการต้อนรับจากแฟนๆ อย่างอบอุ่นกับโชว์ในหลายๆ เมืองที่บัตรโซลเอ้าท์ ขายหมดเกลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นโคโลญจ์, อัมสเตอร์ดัม, แมนเชสเตอร์ และลอนดอน

เพราะฉะนั้น เตรียมตัวกันไว้ให้ดี แล้วไปดื่มด่ำกับท่วงทำนองอันสดใสของพวกเขากัน

บอกเลยว่างานนี้ แฟนๆ VALLEY จะได้ฟังทั้งเพลงใหม่ๆ และเพลงฮิตๆ กันแบบเต็มอิ่มแน่นอน!

ประมวลภาพความฟิน “วิลเลี่ยม-เอส” แท็คทีม “เลโก้-นัท-ฮง-ตุ้ย” เต้นโชว์จัดเต็ม! ในงาน " THAMEPO OUR LAST BEAT FAN PARTY”

10 มี.ค. 2568, 13:00 น.

ส่งท้ายความฟินด้วยปาร์ตี้สุดหรรษา สำหรับซีรีส์กระแสฮอต “เธมโป้ (ThamePo) HEART THAT SKIPS A BEAT” จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั

ซึ่งทำเอาแฟนๆ ทุกคนมีความสุขและประทับใจสุดๆ กับเรื่องราวบทสรุปของซีรีส์และโชว์สุดพิเศษจากเหล่านักแสดง ที่นำโดยคู่จิ้นเคมีเคใจ “วิลเลี่ยม จักรภัทร แก้วพันธุ์พงษ์” กับ “เอส ศุภ สง่าวรวงศ์” และแก๊งเพื่อน “เลโก้ รพีพงศ์ ศุภธินีกิตติ์เดชา, นัท ธนัท ด่านเจษฎา, ฮง พิเชฐพงศ์ จิรเดชสกุลวงศ์ และ ตุ้ย ชยธร ไตรรัตนประดิษฐ์” พร้อมด้วยผู้กำกับฝีมือดี “มุ้ย อาทิชา ตันธนวิกรัย” ต่างร่วมกันแชร์ซีนโดนใจ ก่อนจะจัดเต็มโชว์สุดเจ๋งทั้งร้องทั้งเต้นให้กับแฟนๆ สนุกสนานแบบใกล้ชิด รวมทั้งการดูตอนสุดท้ายซีรีส์ “เธมโป้ (THAMEPO) HEART THAT SKIPS A BEAT” ด้วยกันอย่างอบอุ่น ทั้งแฟนๆ ในฮอลล์และรับชม Live Streaming ผ่านทาง “TTM LIVE” ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ครอบคลุมทั่วโลก ซึ่งกระแสแรงเกินต้านสนั่นโซเชียล จนทำให้ #ThamePoSeriesFinalEP” พุ่งขึ้น X Trends “อันดับ 1” ของโลก, ประเทศไทย และอีกหลายพื้นที่ทั่วโลก เมื่อ วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2568 ณ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ

เริ่มต้นปาร์ตี้สุดมันส์กับสเต็ปเทพเท้าไฟของ 5 หนุ่ม “วิลเลี่ยม-เลโก้-นัท-ฮง-ตุ้ย” กับเพลง “ALL I NEED” เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ดังลั่นสนั่นฮอลล์ พร้อมเติมความสุขกันต่อกับเพลง “ไม่ใช่บังเอิญ (Destined)” ที่ได้เสียงนุ่มๆ ของหนุ่ม “เอส” มาร่วมแจมทำให้บรรยากาศละมุนชวนเขินไปตามๆ กัน ก่อนที่บรรยากาศจะโรแมนติกขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ “วิลเลี่ยม-เอส” ก็ได้เสิร์ฟความน่ารักผ่านเพลงซึ้งๆ ความหมายดีๆ ไม่ว่าจะเป็น “5CM” จาก “วิลเลี่ยม” และเพลง “ไม่อยากเป็นรักแรก (Your Last)” จาก “เอส” ก่อนจะเข้าสู่โมเมนต์คู่ของ “วิลเลี่ยม-เอส” กับเพลง “ยังคู่กัน (Still Together)” ที่ทำเอาแฟนๆ กรี๊ดสลบ เพราะทั้งคู่ปล่อยช็อตชวนเขินจนตัวบิดเลยทีเดียว

หลังจากนั้นก็เข้าสู่ความสนุกสุดมันส์แดนซ์แบบ NON STOP ไปกับ 5 หนุ่ม “วิลเลี่ยม-เลโก้-นัท-ฮง-ตุ้ย” ไม่ว่าจะเป็นเพลง “I Know You Want Me” , “หูดับ (Why on says)” , “จีบได้ไหม (Would You Mind?)” และ เพลงใหม่สุดซึ้ง “Fly High” งานนี้เล่นเอาแฟนๆ นั่งไม่ติดเปิดแฟลชมือถือส่องไฟโยกตามจังหวะอย่างคึกคัก แล้วพักเบรกกับเรื่องราวความสนุกหลังกองถ่ายที่ได้พิธีกรอารมณ์ดี “เลโอ โซสเซย์” ซึ่งร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ด้วยมาขยี้เติมเต็มโมเมนต์ดีๆ ด้วยการเชิญเหล่านักแสดง “วิลเลี่ยม-เอส-เลโก้-นัท-ฮง-ตุ้ย” และผู้กำกับฯ “มุ้ย อาทิชา” ขึ้นเวทีมาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะนำทุกคนไปชมซีรีส์ตอนสุดท้ายพร้อมๆ กัน และต่อด้วยโชว์ของ “วิลเลี่ยม-เอส” ที่ถ่ายทอดอารมณ์บอกผ่านความรู้สึกของทั้งคู่เพื่อมอบให้แฟนๆ กับเพลง “ระหว่างทาง (Good Time)” รวมไปถึงเพลง “แค่เรียกหา (Call My Name)” ที่ 6 หนุ่ม “วิลเลี่ยม-เอส-“เลโก้-นัท-ฮง-ตุ้ย” ก็ตั้งใจมอบให้แฟนๆ คนดูซีรีส์ทุกคนได้ประทับใจและจดจำพวกเขาตลอดไป หลังจากนั้นทั้ง 6 หนุ่ม ก็ได้กล่าว ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่เป็นแรงสนับสนุนและส่งกำลังใจให้พวกเขามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแฟนๆ ทุกคนก็ Support เต็มที่ และวันนี้พวกเขาก็ดีใจมากๆ ปลาบปลื้มใจสุดๆ ที่ได้เห็นแฟนๆ มีความสุขและรักตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้ รวมไปถึงรักพวกเขาทั้ง 6 คนอย่างเหนียวแน่น จังหวะนี้แหละเล่นเอาทั้งนักแสดงและแฟนๆ ซาบซึ้งจนน้ำตาไหลไปตามๆ กัน เรียกว่าฟินเต็มอิ่มทุกโมเมนต์ยิ้มแก้มปริกลับบ้านทั้งศิลปินและแฟนๆ กันถ้วนหน้า

ติดตามชมซีรีส์ “เธมโป้ (THAMEPO) HEART THAT SKIPS A BEAT” แบบครบทุกตอน ทาง NETFLIX และอัพเดททุกความเคลื่อนไหวได้ที่ FB & IG & YouTube & X & TikTok : GMMTV

เอิร์ท-มิกซ์-ชาคริต ชวนแฟนๆ ร่วมลุ้นตอนจบ Ossan’s Love Thailand รักนี้ให้ “นาย” กดบัตร 8 มี.ค.นี้

7 มี.ค. 2568, 15:00 น.

เปิดศึกรักครั้งใหญ่เสิร์ฟความฟินเรียกความฮ็อบ ทำเอาแฟนๆ ตกหลุมรักแล้วตกหลุมรักอีก สำหรับคู่ฮอตสุดปัง “เอิร์ท พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ

ที่ประชันฝีมือกับนักแสดงรุ่นพี่มากประสบการณ์ “ชาคริต แย้มนาม” ในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ “Ossan’s Love Thailand รักนี้ให้ “นาย”” ฉบับเวอร์ชั่นไทย จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย กับเรื่องราวความรักสุดวุ่นวายของหนุ่มโสดนายหน้าจัดหาบ้านที่ไม่เคยมีดวงเรื่องความรัก กลับต้องมากลายเป็นหนุ่มเนื้อหอม เมื่อเจ้านายและเพื่อนร่วมงานพ่วงตำแหน่งเพื่อนร่วมบ้าน ดันมาตกหลุมรักเขาพร้อมกัน แถมเพื่อนสนิทที่แอบรักมาตลอดก็ดันมาสารภาพอีก สร้างความสนุกสนานประทับใจจนพุ่งติดเทรนด์ X “อันดับ 1” ทุกตอน

ล่าสุดทีมนักแสดง นำโดย “เอิร์ท พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ, มิกซ์ สหภาพ วงศ์ราษฎร์, ชาคริต แย้มนาม” พร้อมด้วย “กระปุก พลอยนิรา หิรัญทวีศิลป์, ริว พุติพัฒน์ พุทโธนะโมชัย, ป่าน ณัชชา เชื้อแดง, โต๋ ทินพันธ์ ตันตุ้ย, แชมป์ ณัฐรัชต์ ก้อนแก้ว” แท็คทีมกันมาชวนแฟนๆ ร่วมชมและลุ้นตอนจบ ในงาน “Ossan’s Love Final EP. FAN MEETING” พร้อมด้วยผู้กำกับฯ มากฝีมือ “อู๋ กรพรหม นิยมศิลป์” ที่จะมาพูดคุยถึงเบื้องลึกเบื้องหลังสนุกๆ และพิเศษสุดๆ กับโชว์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเหล่านักแสดงที่เตรียมมามอบให้แฟนๆ ได้ฟูลฟิลขั้นสุดกับทุกโมเมนต์ ในวันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568 เวลา 19.30 น. ณ ชั้น 6 สยามพารากอน โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย Paragon Cineplex

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองบัตรเข้าร่วมงาน “Ossan’s Love Final EP. FAN MEETING” เปิดจำหน่ายบัตร วันเสาร์ที่ 8 มีนาคมนี้ เริ่มเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป บัตรราคา 2,500 / 2,000 / 1,500 บาท ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา, www.thaiticketmajor.com และ Call center โทร 0-2262-3456 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com และ Facebook / Instagram / X / TikTok / YouTube / Weibo: GMMTV

Fujii Kaze ปล่อยเพลงใหม่ “masshiro (pure white)” ส่งสัญญาณถึงแฟนๆ พร้อมแผนทัวร์คอนเสิร์ตเร็วๆ นี้

6 มี.ค. 2568, 18:00 น.

เพลงใหม่ในปี 2025 ของสุดยอดอัครศิลปิน Fujii Kaze มาแล้ว! หลังจากที่ตกแฟนๆ ชาวไทยด้วยเพลงเพราะๆ อย่าง “Michi Teyu Ku (Overflowing)”

ที่ทำเอาแฟนๆ ชาวไทยพร้อมใจกันเต้นอย่างพร้อมเพรียงในคอนเสิร์ตที่ไทยเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา ในปี 2025 นี้เขากลับมาพร้อมเพลงจังหวะสนุก ฟังแล้วผ่อนคลายสบายใจอีกครั้งกับ “masshiro (pure white)” ที่เป็นเพลงประกอบโฆษณาน้ำดื่ม Irohasu ของ Coca-Cola อีกด้วย ชาวคาเสะทาเรียนต้องชอบและกดเพลงเข้าเพลย์ลิสต์กันอีกแน่นอน

ในปี 2024 ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าตื่นเต้นของ Fujii Kaze มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 2 ในเมืองไทย Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR in Bangkok จัดที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ที่ขนเอาเพลงฮิตมาทำการแสดงให้ชาวไทยได้ดูกันอย่างจุใจถึง 2 คืนติด กับการตอบรับจากแฟนคลับชาวไทยเป็นอย่างดีที่ทำให้บัตรรอบ 9-10 พ.ย. 67 หมดเกลี้ยงภายในไม่กี่นาที เกิดเป็นกระแส Fujii Kaze Fever ในบ้านเราทันที รวมถึงฟีดแบ็กจากแฟนเพลงและสื่อมวลชนก็ล้นหลาม ต่างชื่นชมและยกย่องให้ Fujii Kaze เป็นอัครศิลปินที่มีความสามารถรอบด้าน ทั้งเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง นักดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีได้หลากหลาย ทั้งเปียโน อิเล็กโทน และแซ็กโซโฟน เป็นต้น บวกกับเนื้อเพลงที่มีเนื้อหาเชิงบวก คอยย้ำเตือนให้คนฟังรักตัวเองอยู่เสมอ แฟนๆ ทั้งในญี่ปุ่น ไทย และทั่วโลกจึงจึงยกย่องเขาให้เป็นหนึ่งในศิลปินที่ทำเพลงฮีลใจได้ดีที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว

ปี 2025 นี้ แฟนๆ ชาวคาเสะทาเรียนเตรียมตัวให้พร้อม เพราะ Fujii Kaze ยังมีงานแอคทีฟตลอดทั้งปี ล่าสุดกับการเป็นหนึ่งในไลน์อัปศิลปินในเทศกาลดนตรีชื่อดัง The Roskilde Festival ที่ประเทศเดนมาร์ก ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของเขาที่จะได้แสดงคอนเสิร์ตในเดนมาร์ก นอกจากนี้เขายังเตรียมผลงานเพลงใหม่ๆ พร้อมแผนทัวร์คอนเสิร์ตที่เชื่อว่าเขาไม่ลืมที่จะมาหาแฟนๆ ชาวไทยอีกแน่นอน เก็บเงินเก็บแรงและซ้อมร้องเพลงของเขาให้แม่นๆ เอาไว้ได้เลย

ฟังเพลง “masshiro (pure white)” ของ Fujii Kaze ที่นี่ https://FujiiKazeTH.lnk.to/masshiroPR

ประทับใจไม่รู้ลืม! ประมวลภาพคอนเสิร์ตเดี่ยว NIKI: Buzz Around The World Tour

6 มี.ค. 2568, 16:00 น.

ผ่านไปเกือบสองสัปดาห์แต่เชื่อว่าหลาย ๆ คนยังหาทางออกจาก Centralworld Live ไม่ได้ เพราะยังประทับใจกับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งใหม่ของ NI

กับเวิลด์ทัวร์ครั้งล่าสุด Buzz Around The World Tour ที่ขนเพลงฮิตจากเพลย์ลิสต์ของทุกคน ผสมด้วยเพลงจากอัลบั้มใหม่ที่เนื้อหาถาโถมใจเหมือนชื่ออย่าง Tsunami, Colossal Loss, Did you like her in the morning?, Strong Girld และเพลงฮิตที่ทุกคนร้องตามได้ทั้งฮอลล์ทั้ง La La Lost You, lowkey, The Apartment We Won’t Share ส่งท้ายคืนวันเสาร์สุดท้ายของเดือนกุมภา ให้ยังตราตรึงถึงมีนาคมกันเลยทีเดียวเชียวล่ะ

Courtesy of

Natt Lim @nattografi

Courtney Kiara @courtneykiara

Justin Tan @_jvxtn

“บอย-ป๊อด” คัมแบ็กในรอบ 16 ปี พร้อมคอนเสิร์ตใหญ่ 2 รอบ อิมแพ็ค 28-29 มิ.ย.นี้

6 มี.ค. 2568, 13:00 น.

“บอย โกสิยพงษ์” และ “ป๊อด ธนชัย อุชชิน” ได้ฤกษ์คัมแบ็กกลับมามีผลงานเต็มๆ ร่วมกันอีกครั้ง ประเดิมด้วยผลงานอัลบั้ม “BOYdPOD//OST” (O

“บอย โกสิยพงษ์” และ “ป๊อด ธนชัย อุชชิน” ได้ฤกษ์คัมแบ็กกลับมามีผลงานเต็มๆ ร่วมกันอีกครั้ง ประเดิมด้วยผลงานอัลบั้ม “BOYdPOD//OST” (Original Sound Tracks) ในรอบ 16 ปีเต็ม ทำให้แฟนเพลงเรียกร้องและคิดถึงการกลับมาครั้งนี้ของทั้งคู่ ไม่ต้องรอคอยอีกต่อไป ในงาน “เมืองไทยประกันชีวิต Presents BOYdPOD Our Songs Together Concert” ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดง แต่คือการเดินทางกลับไปยังความทรงจำของทุกคนที่โตมาพร้อมกับบทเพลงของ บอย โกสิยพงษ์ และ ป๊อด ธนชัย สร้างสรรค์โดย CI Showbiz วันที่ 28-29 มิถุนายน 2568 ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี เพียง 2 รอบการแสดงเท่านั้น

หากเพลงเหล่านี้เคยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณ เพลงรักแรกที่พาใจคุณเต้นแรง เพลงปลอบใจในวันที่คุณอกหัก เพลงที่บอกแทนความรู้สึกในวันที่คุณแอบรักใครสักคน หรือเพลงที่เคยให้กำลังใจในวันที่โลกไม่เป็นใจคอนเสิร์ตนี้จะพาคุณย้อนกลับไปสู่ทุกช่วงเวลานั้น กว่า 40 เพลงฮิตที่ตราตรึงใจทุกคน จาก “ช่วงที่ดีที่สุด” ไปจนถึง “รักคุณเข้าแล้ว” ที่เคยเป็นเหมือนลมหายใจของคุณจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เจ้าหญิง, คำไม่กี่คำ,ห่างไกลเหลือเกิน, จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ และอีกหลายบทเพลงที่คุณยังร้องตามได้เสมอ

ค่ำคืนนี้คุณจะได้อยู่กับ บอย และ ป๊อด พร้อมแขกรับเชิญพิเศษที่มาร่วมเติมเต็มความประทับใจ อาทิ •นภ พรชำนิ • บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล •รัดเกล้า อามระดิษ •กมลา สุโกศล •วินัย พันธุรักษ์ และแขกรับเชิญเซอร์ไพรส์ที่คุณคาดไม่ถึง มาฟังและร้องไปด้วยกัน… กว่า 3 ชั่วโมงครึ่งแห่งความสุข ความทรงจำ และบทเพลงที่เต็มไปด้วยหัวใจ

ห้ามพลาดโอกาสครั้งสำคัญ! อย่าปล่อยให้ความทรงจำเป็นเพียงภาพเก่าในใจ จูงมือเพื่อนๆ แล้วมาสร้างความทรงจำใหม่ไปด้วยกัน เปิดจำหน่ายบัตร วันที่ 15 มีนาคม 2568 นี้ ผ่านช่องทาง www.thaiticketmajor.com และ Thaiticketmajor ทุกสาขา ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

รอบวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 บัตรราคา 5,500 / 5,000/ 4,500 / 4,000 / 3,500 / 3,000 / 2,500 และ 1,800 บาท

สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ

รับสิทธิ์ส่วนลด 15% ได้สิทธิ์สูงสุด 4 ใบต่อ/ท่าน

รอบวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน เฉพาะบัตรราคา 5,500 / 5,000 / 4,500 / 4,000 บาท

รับโค้ดผ่านช่องทาง Redeem Code : MTL Click Application

รอบ Public - Sale วันที่ 15 มีนาคม นี้เท่านั้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

รอบวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 (รอบการกุศล) บัตรราคา 10,000 / 7,000 / 6,300 / 5,500 / 5,000 / 4,200 / 3,500 และ 2,500 บาท ** การแสดงรอบการกุศล บัตรทุกที่นั่งสามารถขอใบเสร็จรับเงิน เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดตามรายละเอียดได้ที่เพจ Facebook : CI Showbiz (https://www.facebook.com/cishowbiz )

ยังฟินอยู่! เก็บตกภาพ keshi กับคอนเสิร์ตระดับอารีน่าที่ทำให้หลายคนประทับใจ

6 มี.ค. 2568, 12:00 น.

จบไปแบบฟินเกิน กับคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบในไทย 'keshi: REQUIEM TOUR IN BANGKOK' ที่จัดไปเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่าน

โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเวิลด์ทัวร์เพื่อโปรโมตอัลบั้ม keshi 'REQUIEM' ที่ปล่อยออกมาพร้อมกับเสียงตอบรับถล่มทลายเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว

บรรยากาศภายในคอนเสิร์ตเต็มไปด้วยความประทับใจจากแฟนเพลงที่มาชมการแสดงจนอิมแพ็ค อารีน่า ดูเล็กไปถนัดตา พ่อหนุ่ม 'keshi' ส่งต่อเสียงเพราะ ๆ เหมือนกลืนไวนิลเข้าไปพร้อมส่งอินเนอร์ผ่านเพลงฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น SAY, BESIDE YOU, LIMBO, SOFT SPOT, DRUNK, 2 SOON แม้กระทั่งซิงเกิ้ลใหม่จาก 'REQUIEM DELUXE VERSION' อย่าง INSIDE OUT, KISS ME RIGHT และ I CHOOSE YOU ให้แฟน ๆ ได้ประทับใจกันแบบจัด ๆ จนแทบจะไม่อยากออกจากอิมแพ็ค อารีน่า โดยหลังจากปิดฉากโชว์ที่ไทย keshi ได้เดินทางไปยังกรุงโซล และกำลังจะมีโชว์ต่อไปที่มะนิลา กว่างโจว นานจิง เซินเจิ้น เฉิงตู เซี่ยงไฮ้ อู่ฮั่น ปักกิ่ง สิงคโปร์ และไทเปเพื่อปิดฉากเอเชียทัวร์ในเดือนมีนาคมนี้

Photo courtesy of Live Nation Tero by @raptureqwerxy

TYLER, THE CREATOR ผังมาแล้ว ราคาเริ่มต้น 2,000 บาท ไทยแลนด์เจอเลย 16 ก.ย. นี้

3 มี.ค. 2568, 15:00 น.

ระหว่างเดินสายทัวร์ในอเมริกาเหนือ Tyler, The Creator ประกาศเพิ่มรอบการแสดงในเอเชียเดือนกันยายนนี้! ทัวร์ครั้งนี้จะเริ่มที่ โตเกียว

เรียกได้ว่าเป็นการปิดฉากเวิลด์ทัวร์ครั้งยิ่งใหญ่ ที่ครอบคลุมทั้ง อเมริกาเหนือ, สหราชอาณาจักร, ยุโรป, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

CHROMAKOPIA: THE WORLD TOUR in Bangkok จัดโดย AEG Presents Asia และ iMe Thailand ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 16 กันยายน 2568 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยจะเปิดขายบัตรในวันพุธที่ 5 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ผ่านทาง Thai Ticket Major ทุกสาขา, www.thaiticketmajor.com และ Call Center 02-262-3456 ราคาบัตร DARLING VIP PACKAGE 11,500 บาท (บัตรยืน) / STICKY VIP PACKAGE 10,500 บาท (บัตรยืน) / MASK VIP PACKAGE 9,500 บาท / 5,000 (บัตรยืน) / 4,500 / 4,000 / 3,200 / 3,000 (บัตรยืน) และ 2,000 บาท

CHROMAKOPIA: THE WORLD TOUR เป็นการเดินสายทัวร์เพื่อโปรโมตอัลบั้ม CHROMAKOPIA ซึ่งได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม และครองอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard 200 นานถึง 3 สัปดาห์ นับตั้งแต่วางจำหน่ายช่วงปลายปี 2567 พร้อมสร้างสถิติใหม่เป็นอัลบั้มแร็ปที่มียอดสตรีมเปิดตัวสูงสุดบน Spotify ในขณะนั้น เพียงแค่ 3 สัปดาห์แรกของทัวร์ Tyler, The Creator ก็ได้รับคำชมว่าเป็น "หนึ่งในศิลปินที่แสดงสดได้เร้าใจที่สุดในยุคนี้" จาก Los Angeles Times และ "หนึ่งในศิลปินฮิปฮอปที่เล่นสดได้ดีที่สุด" จาก Complex หลังโชว์สุดเดือด 6 คืนติดที่ Crypto.com Arena ลอสแอนเจลิส บ้านเกิดของเขา

‘BABYMONSTER’ ประกาศคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในไทย จัดเต็ม 2 รอบ ‘อิมแพ็ค’ แฟนชาวไทยเจอกัน 7 – 8 มิ.ย.นี้

27 ก.พ. 2568, 11:20 น.

เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอต BABYMONSTER ประกาศเวิลด์ทัวร์ ครั้งแรก เดินหน้าออนทัวร์ 11 เมืองทั่วโลก พร้อมปักหมุด 2 รอบการแส

BABYMONSTER ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเกิร์ลกรุ๊ประดับโลกอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เดบิวต์เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 ด้วยอีพีอัลบั้มแรก [BABYMONS7ER] ด้วยเมมเบอร์หลากหลายชาติ ทั้งเกาหลีใต้, ไทย และญี่ปุ่น และยังดึงดูดผู้ชมทั่วโลกด้วยความสามารถในการร้องเพลงที่ยอดเยี่ยม, ทักษะการแร็พที่ทรงพลัง, การแสดงที่ดุดัน และวิชวลตาแตก ทำให้พวกเธอได้รับตำแหน่ง "รุกกี้ปีศาจ" ไปครอง

ซิงเกิ้ลยอดนิยมอย่าง "SHEESH" ได้ทำลายสถิติยอดขายสัปดาห์แรก ทั้งยังอยู่ใน Spotify’s Daily Top Songs Global Chart ติดต่อกันกว่า 71 วัน ติดชาร์ต Billboard Global 200 เป็นเวลา 14 สัปดาห์ และ Billboard Global Excl. U.S. 18 สัปดาห์ ก่อนจะคัมแบ็กแบบตัวปังเจน 5 ด้วยอัลบั้มเต็มชุดแรก [DRIP] เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยไตเติ้ลแทร็ก "DRIP" เปิดตัวที่อันดับ 149 บน U.S. Billboard 200 และขึ้นถึงอันดับ 16 บนชาร์ต Billboard Global Excl. U.S. รวมไปถึงอันดับ 30 บน Billboard Global 200 ตอกย้ำภาพลักษณ์ "รุกกี้ K-pop ที่มีแววปังที่สุดในปี 2024" จาก Billboard

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ BABYMONSTER ยังเห็นได้ชัดบน YouTube สาว ๆ ได้การขนานนามว่าเป็น "YouTube Queen รุ่นต่อไป" การันตีด้วยเพลง "SHEESH" ที่กวาดยอดวิว 24.41 ล้านครั้งภายใน 24 ชั่วโมง และทะลุ 300 ล้านวิวอย่างรวดเร็ว เพลงฮิตล่าสุด "DRIP" ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันช่อง YouTube ของ BABYMONSTER มีผู้ติดตามมากกว่า 7.45 ล้านคน

แฟนชาวไทยห้ามพลาดเตรียมตัวมาเจอกันที่คอนเสิร์ต ‘2025 BABYMONSTER 1st WORLD TOUR IN BANGKOK’ 7 – 8 มิถุนายนนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและแพคเกจวีไอพีได้ทางโซเชียลมีเดียของ Live Nation Tero

KISS OF LIFE ตัวแม่ตัวท็อปของรุ่น ส่งคลิปอ้อนคิสซี่ ก่อนเปิดจองบัตร เสาร์นี้ 1 มี.ค.

26 ก.พ. 2568, 12:00 น.

Mother แปลว่า KISS OF LIFE หรือเปล่า? ก็สี่สาวจูบชีวิต จูลี่ (Julie), นัตตี้ (Natty), เบลล์ (Belle) และ ฮานึล (Haneul) ความภาคภูมิ

กำลังเวิลด์ทัวร์ไต่ระดับความปังชนิดที่ลิฟต์ก็เอาไม่ลง สมมงตัวแม่-ตัวท็อปของรุ่นจริงๆ โดยเมื่อช่วงปลายปี 2024 หลังจากปล่อยผลงาน KISS OF LIFE 3rd Mini Album [Lose Yourself] ซึ่งมีเพลงไตเติลอย่าง 'Get Loud' และเพลงฮิตสุดไวรัลนาทีนี้อย่าง 'Igloo' ที่ทำเอาเหล่าไอดอลมาร่วมแดนซ์ชาเลนจ์กันทั้งวงการ สาวๆ “คิสออฟไลฟ์” (KISS OF LIFE) #KISSOFLIFE ก็ประเดิมคอนเสิร์ตแรกเปิดฉากตารางทัวร์ที่กรุงโซลในเดือนตุลาคม ก่อนจะออกเดินทางไปยังอเมริกาเหนือ รวมทั้งหมด 18 เมือง ข้ามสู่ปี 2025 ซึ่งล่าสุดนี้พวกเธอกำลังตระเวนโชว์ฟอร์มอวดสายตาชาวยุโรปอีก 13 เมืองใหญ่ใน 2025 KISS OF LIFE 1ST WORLD TOUR [KISS ROAD] in Europe คิวยาวต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมกันไปเลย

พอเข้าไทม์มิงเดือนเมษายนก็ถึงคิวของโซนเอเชีย ที่จะขาดประเทศไทยบ้านเกิดของ นัตตี้ ไปไม่ได้ งานนี้ โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Four One One Entertainment หรือ 411ent) ของ กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ แท็กทีมต้นสังกัด เอสทู เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (S2 Entertainment) และ วันเดอร์ (WONDER) ประเทศเกาหลีใต้ จัดให้พบกันแน่นอนกับคอนเสิร์ต “2025 คิสออฟไลฟ์ เฟิร์ส เวิลด์ ทัวร์ [คิส โรด] อิน แบงคอก” (2025 KISS OF LIFE 1ST WORLD TOUR [KISS ROAD] in BANGKOK) #KISSROADinBANGKOK วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2568 นี้ เวลา 18:00 น. ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

KISS OF LIFE ยังเป็นตัวแม่ที่เอเนอร์จีแรงไม่แผ่วสมความฮอตมาก ก่อนหน้านี้สาวๆ ส่งคลิปเวอร์ชันเอเชียมาเปิดก๊อกพร้อมกันทุกประเทศ ล่าสุดจัดคลิปเวอร์ชันเฉพาะไทยแลนด์ตามมามิได้ขาด “สวัสดีค่ะ พวกเรา KISS OF LIFE ค่ะ ในที่สุดพวกเรา KISS OF LIFE ก็ได้ไปที่ไทยในปีนี้ด้วยนะคะ อยากเจอทุกคนมากๆ เลยค่ะ พวกเราตื่นเต้นมากที่จะได้เจอกับทุกคนที่เมืองไทยอีกครั้ง กับงาน 2025 KISS OF LIFE 1ST WORLD TOUR [KISS ROAD] in BANGKOK และครั้งนี้ก็พิเศษสุดๆ ไปเลยด้วย เพราะว่านี่เป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกของพวกเราในเมืองไทยค่ะ... บ้านเกิดหนูเองค่ะ (นัตตี้)... พร้อมจะมาร้องเพลงโปรดของทุกคนและสนุกไปกับพวกเราหรือยังคะ? ถ้าพร้อมแล้ว ก็มาเจอกับพวกเราในวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 นี้ ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานีนะคะ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อบัตรได้ที่ THAITICKETMAJOR ค่ะ อดใจรอเจอทุกคนไม่ไหวแล้วค่า มาสร้างความทรงจำที่สวยงามไปด้วยกันนะคะ” แม่พูดมาขนาดนี้ จะแฟนคลับหรือแฟนเพลงก็ไม่ควรพลาดแล้วทั้งนั้น

ปังแบบสมควรเป็นมรดกโลกขนาดนี้!! ** อย่าลืมจองบัตร #KISSROADinBANGKOK กันในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 ตั้งแต่เวลาเที่ยงตรง 12:00 น. เป็นต้นไป ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และทางระบบออนไลน์ www.thaiticketmajor.com (ไม่มีระบบคิว) บัตรราคา 2,900 / 4,000 / 5,000 และ 6,900 บาท ** ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางออฟฟิเชียลโซเชียลมีเดียของผู้จัดงาน @411ent

พี่สาวแจมไทยฟินไม่ไหว! ประมวลภาพ 11 หนุ่มหล่อ JO1 ในคอนเสิร์ต ‘JO1 WORLD TOUR JO1DER SHOW 2025 'WHEREVER WE ARE' IN BANGKOK’

25 ก.พ. 2568, 12:00 น.

11 หนุ่มนิฮงบอย ‘JO1’ เสิร์ฟโชว์สุดมันส์ ร้องสนั่น เต้นกระจาย ในคอนเสิร์ต ‘JO1 WORLD TOUR JO1DER SHOW 2025 'WHEREVER WE ARE

งานนี้แจมไทยฟรินไม่ไหว เพราะพวกเขาขนเพลงฮิตมาถล่มทรู ไอคอน ฮอลล์ รวมกว่า 20 เพลง ปิดท้ายด้วยเซอร์ไพรส์จากแจมชาวไทยกับโปรเจกต์สุดน่ารัก ‘WHEREVER JO1 GO どんな道でも自分の色にして、堂々と歩き出そう ไม่ว่า JO1 จะไปที่ไหน ก็แต่งแต้มทุกเส้นทางให้เป็นสีสันของตัวเอง แล้วเดินไปอย่างมั่นใจกันเถอะ’ ส่งท้ายการกลับมาไทยในรอบ 1 ปี 3 เดือนได้อย่างอบอุ่นและงดงาม

Photo credit : LAPONE Entertainment, Live Nation Tero by MILQP

11 คู่จิ้นเตรียมสร้างตำนานความสนุก พร้อมเจอแฟนๆ 17-18 พ.ค. นี้ ใน LOVE OUT LOUD FAN FEST 2025

19 ก.พ. 2568, 18:00 น.

เตรียมพบมหกรรมแฟนเฟสติวัลครั้งยิ่งใหญ่ จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย ที่พร้อมสร้างตำนานความสนุกอีกครั้ง ในงาน “L

พุ่งทะยานให้สุดชั้นบรรยากาศ กับการตามล่าหาดินแดนแห่งรักพร้อมนักเดินทาง ทั้ง 22 คน “เอิร์ท พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ, มิกซ์ สหภาพ วงศ์ราษฎร์ / บุ๋น นพณัฐ กันทะชัย, เปรม วรุศ ชวลิตรุจิวงษ์ / ปอนด์ ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์, ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน / ฟอส จิรัชพงศ์ ศรีแสง, บุ๊ค กษิดิ์เดช ปลูกผล / จุง อาเชน ไอย์ดึน, ดัง ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ / จิมมี่ จิตรพล โพธิวิหค, ซี ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ / เฟิร์ส คณพันธ์ ปุ้ยตระกูล, ข้าวตัง ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล / เจมีไนน์ นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์, โฟร์ท ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล / วินนี่ ธนวินท์ ผลเจริญรัตน์, สตางค์ กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์ / เพิร์ธ ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร, แซนต้า พงศภัค อุดมโภชน์ / วิลเลี่ยม จักรภัทร แก้วพันธุ์พงษ์, เอส ศุภ สง่าวรวงศ์” ที่จะมาพร้อมโชว์สุดพิเศษเต็มรูปแบบ

ซึ่งแต่ละคู่เตรียมความพร้อมเต็มพิกัดให้แฟนๆ ได้ปล่อยจอยใจฟูกับทุก โมเมนต์ รวมถึงเซอร์ไพร์สสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่แฟนๆ จะต้องโฮ่งและฮ็อบแบบฉ่ำๆ ท่ามกลางบรรยากาศแสง สี เสียง สุดอลังการตระการตา ในวันเสาร์ที่ 17 - วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป สำหรับแฟนคลับทั่วโลกยังสามารถร่วมสนุกได้แบบเรียลไทม์ ไปกับการรับชมแบบ Live Streaming ผ่านทาง “TTM LIVE” ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ครอบคลุมทั่วโลก มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างตำนานครั้งใหม่ กับงาน “LOVE OUT LOUD FAN FEST 2025 : LOVEMOSPHERE” ที่รับประกันว่าทุกคนจะเอ็นเนอร์จี้พุ่งทะยานแบบไร้ขีดจำกัดแน่นอน

โดยสามารถจับจองบัตรบนช่องทาง Online ในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ เริ่มเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป เปิดจำหน่ายทุกที่นั่ง ทางออนไลน์ ที่ www.thaiticketmajor.com เท่านั้น (ระบบคิวออนไลน์จะแสดงที่หน้าเว็บไซต์ตั้งแต่เวลา 9.00 น. และจำหน่ายบัตรเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป) และเปิดจำหน่ายบัตร ทุกช่องทางตามปกติ ในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 เริ่มเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา, www.thaiticketmajor.com และ Call center โทร 0-2262-3456 บัตรราคา 8,500 / 7,500 / 6,500 / 6,000 / 5,500 / 4,500 / 4,000 / 3,000 / 2,500 / 2,000 บาท และดูสดผ่าน TTM LIVE บัตรราคา 1,500 / 1,200 บาท (ลิ้งค์และโค้ดรับชม) (กรณีต้องการรับบัตรพลาสติกที่ระลึก ชำระเพิ่ม 30 บาท /ใบ) หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com หรือ www.facebook.com/gmmtvofficial & Instagram & X & TikTok & YouTube & Weibo : GMMTV

The Phantom Of The Opera สุดยอดมิวสิคัลโชว์ เปิดขายบัตรแล้ว เจอกัน 5 – 24 ส.ค.2568

19 ก.พ. 2568, 13:00 น.

กลับมาอีกครั้งกับสุดยอดมิวสิคัลโชว์ “เดอะ แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า” (The Phantom Of The Opera) ที่สร้างปรากฏการณ์ระดับโลก เปิดแสดงมาแ

ที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชมมาแล้วมากกว่า 160 ล้านคน ใน 47 ประเทศ เปิดแสดง 21 ภาษา ใน 195 เมือง รวมถึงเมืองไทยที่ได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของละครเวทีเรื่องนี้กันมาแล้วเมื่อปี 2556 และในปี 2568 นี้ บริษัทเทโร ซีเนริโอ เตรียมนำสุดยอดละครเพลงระดับโลก “เดอะ แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า” กลับมาเปิดม่านการแสดงให้คนไทยได้ตื่นตาตื่นใจกันอีกครั้ง ในระหว่างวันที่ 5 – 24 สิงหาคม 2568 ณ โรงละคร “เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์”

ละครเวทีเรื่อง “เดอะ แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า” ดัดแปลงมาจากนวนิยายรักอมตะของ กัสตง เลอรูซ์ (Gaston Leroux) ที่ตีพิมพ์ในปีพ.ศ.2453 (ค.ศ.1910) โดยเล่าถึงเรื่องราวของชายลึกลับผู้สวมหน้ากากที่แอบซ่อนตัวอยู่ใต้โรงอุปรากรปารีส และสร้างความหวาดกลัวแก่ทุกคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น เขาตกหลุมรักนักร้องโซปราโนสาว “คริสทีน ดาเอ้” (Christine Daaé) อย่างหัวปักหัวปำ และทุ่มเทให้กับการบ่มเพาะพรสวรรค์อันน่าทึ่งของเธอ โดยใช้ทุกวิถีทางที่เขามี และความรักที่เขามีให้เธอก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นต่างๆ ให้ชวนติดตามมากมาย

“เดอะ แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า” ถูกสร้างเป็นละครเวทีโดย แอนดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์ (Andrew Lloyd Webber) ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในละครเวทีที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีผู้ชมกว่า 160 ล้านคนใน 47 ประเทศ และ 195 เมือง ใน 21 ภาษา โดยเปิดการแสดงครั้งแรกที่โรงละคร เฮอร์ มาเจสตีส์ (Her Majesty’s Theatre) ในเวสต์เอนด์ของลอนดอน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2529 (ค.ศ.1986) และเปิดการแสดงครั้งแรกบนบรอดเวย์ที่โรงละครมาเจสติก (Majestic Theatre) เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2531 (ค.ศ.1988) เดอะ แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า ได้รับรางวัลละครเวทีสำคัญๆ มากกว่า 70 รางวัล และเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2549 (ค.ศ.2006) เดอะ แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า ได้กลายเป็นละครเวทีที่เปิดแสดงยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์บรอดเวย์ โดยแซงหน้าละครเวทีเรื่อง แคทส์ (CATS) ด้วยจำนวนรอบการแสดง 7,486 รอบ ซึ่งแค่ในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว ได้เปิดทำการแสดงไปเกือบ 14,000 รอบ มีผู้ชม 19.5 ล้านคน และทำรายได้ 1.3 พันล้านดอลลาร์

ห้ามพลาด! การกลับมาอีกครั้งของสุดยอดมิวสิคัลโชว์ที่ครองใจผู้ชมทั่วโลกตลอดกาล กับ “เดอะ แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า” เตรียมเปิดประสบการณ์และสัมผัสมนต์เสน่ห์ของเรื่องราวความรักที่ยืนยาวที่สุดในโลกได้ในระหว่างวันที่ 5-24 สิงหาคม 2568 ณ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ บัตรเข้าชมราคาเริ่มต้น 1,800 บาท สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และทางเว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com เปิดจำหน่ายบัตรรอบพรีเซลส์ วันที่ 8-14 กุมภาพันธ์ 2568 และเปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-262—3838 และติดตามความเคลื่อนไหวการแสดงได้ที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/Rachadalai

ปิดฉากเวิลด์ทัวร์ที่ไทยอย่างสวยงาม! ประมวลภาพ ‘SEVENTEEN’ วงเคป๊อบระดับโลก โชว์สุดมันส์ จัดเต็ม 2 รอบราชมัง ฯ

19 ก.พ. 2568, 12:30 น.

ปิดฉากเวิลด์ทัวร์ไปอย่างสวยงามสำหรับ ‘SEVENTEEN [RIGHT HERE] WORLD TOUR IN BANGKOK’ คอนเสิร์ตสุดปังของ ‘SEVENTEEN’ วง K-Pop ระดับโ

จัดเต็มความสนุกเต็ม 2 รอบราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันเสาร์ที่ 15 และวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จัดโดย Live Nation Tero

คอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทัวร์เอเชียของ SEVENTEEN หลังจากที่พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในการทัวร์ในเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น โดยในกรุงเทพฯ พวกเขาได้ขนเพลงฮิตมากมายมาแสดง ไม่ว่าจะเป็น "Super," "Adore U," "VERY NICE," รวมไปถึง “LOVE, MONEY, FAME” เพลงใหม่ล่าสุดจากอัลบั้ม "Saviors" ทำให้แฟนๆ ได้รับชมการแสดงที่เต็มไปด้วยพลังและความสนุกสนานตลอด 3 ชั่วโมงเต็ม

ความพิเศษของ RIGHT HERE ทัวร์ที่กรุงเทพฯ รอบนี้ นอกจากจะเป็นเลกสุดท้ายของทัวร์นี้แล้ว ยังใกล้กับกะรัตเดย์ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และใกล้กับวันเกิดของสมาชิกของ SEVENTEEN อย่าง ‘DK’ และ ‘Vernon’ นอกจากจะมี Fan Project ที่กะรัตไทยตั้งใจทำเซอร์ไพรส์ศิลปินแล้ว ในโชว์วันสุดท้าย กะรัตทั้งราชมังคลากีฬาสถานยังได้ร้องเพลง Happy Birthday ให้กับสมาชิกทั้งสองอีกด้วย

หลังจากจบ [RIGHT HERE] WORLD TOUR ในกรุงเทพฯ SEVENTEEN ยังเดินหน้าทำกิจกรรมพบปะแฟน ๆ โดยจะมีงานแฟนมีตติ้งที่เกาหลีใต้ ‘2025 SVT 9TH FAN MEETING ’ ในวันที่ 20 – 21 มีนาคม 2568 รวมไปถึงซิงเกิ้ลอัลบั้มแรกของ 2 สมาชิก HOSHI X WOOZI 1st Single Album ‘BEAM’

Photo Courtesy of PLEDIS Entertainment

fellow fellow ปล่อยซิงเกิลใหม่แทนใจคู่รัก “คล้ายสวรรค์ (close to heaven)”

18 ก.พ. 2568, 17:00 น.

หลังจากปล่อยอัลบั้ม “PROUD” ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกที่ทางวง fellow fellow 2 หนุ่มคู่ซี้ ข้าว-ปณิธิ เลิศอุดมธนา (ร้องนำ) และ ที-พิษณุ ห

เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ที่ได้รวมไว้ถึง 10 เพลงด้วยกัน ทั้งเพลงฮิตติดชาร์ทอย่าง “ดาวหางฮัลเลย์ (Halley’s Comet)” “ไม่เปลี่ยนเลย (Best Luck)” “Proud” และเพลงใหม่ที่เพิ่มมาอย่าง “เลิกยังไง” “อยู่คนเดียวไม่เป็นแล้ว” “ถ้าหากเธอไม่ไหว” รวมถึงได้มีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม “PROUD” ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี บัตร Sold out ทั้ง 2 รอบการแสดงอีกเช่นกัน ล่าสุด fellow fellow พร้อมปล่อยซิงเกิลแรกของปี 2568 เพลงรักสุดหวานรับเดือนแห่งความรัก “คล้ายสวรรค์ (close to heaven)”

“ตั้งแต่มีเธออยู่ในชีวิต ทุกๆ อย่างก็สวยงามราวกับได้อยู่บนสวรรค์”

“คล้ายสวรรค์ (close to heaven)” เนื้อหาของเพลงเล่าถึงความสุขที่ได้มีใครสักคนเข้ามาเปลี่ยนแปลงความธรรมดาในชีวิต ให้กลายเป็นความสุขที่ไม่เคยได้รับจากที่ไหน ถ้าถามว่าสวรรค์หน้าตาเป็นแบบไหน ก็คงจะตอบว่าสวรรค์คือทุกช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเธอ โดยเพลงนี้แต่งโดยข้าว fellow fellow และพี่แทน Lipta รวมทั้งยังได้ Lukell มาช่วยเรียบเรียงดนตรีให้ออกมาสมบูรณ์ในแบบของ fellow fellow

ติดตามฟังเพลง “คล้ายสวรรค์ (close to heaven)” ได้ทุก Music Streaming Platforms และรับชม Music Video ได้ทาง YouTube: fellowfellowband

Kylie Minogue คิกออฟ Tension Tour 2025 บอกเลยว่าโปรดักชั่นปังสุดๆ

18 ก.พ. 2568, 14:05 น.

เปิดฉาก Tension Tour 2025 ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ Kylie Minogue กับคอนเสิร์ตที่เพิร์ธ ออสเตรเลีย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 15 กุมภ

และอย่างที่แฟนๆ ทราบกันอยู่แล้วว่าระดับแม่ Kylie งานนี้ต้องมาพร้อมกับโปรดักชั่น เลิศหรู อลังการงานสร้าง ปังสุดๆ อย่างแน่นอน

โดย Kylie Minogue มีคิวขึ้นโชว์ 10 รอบ ที่ออสเตรเลีย บ้านเกิด ช่วงระหว่างวันที่ 15 ก.พ.- 3 มี.ค. ก่อนที่ไอ่คอนป๊อปสตาร์ตลอดกาลผู้นี้ จะเดินทางมาเปิดคอนเสิร์ตที่บ้านเรานั่นเอง

บอย-ป๊อด ชวนแฟนเพลงรำลึกช่วงที่ดีที่สุดของชีวิต ในคอนเสิร์ตใหญ่ 28-29 มิ.ย.นี้ ที่ อิมแพค อารีน่า

18 ก.พ. 2568, 12:30 น.

ถ้าคุณเคยโตมากับบทเพลงของ “บอย โกสิยพงษ์” และเสียงเพลงของ “ป๊อด ธนชัย” นี่คือโอกาสที่คุณจะได้กลับไปรำลึกถึงทุกความทรงจำผ่านบทเพลงท

จากความสำเร็จด้านผลงานเพลงที่ผ่านมาของทั้งคู่ จนสุกงอมเต็มที่เมื่อปลายปี 2567 ที่แล้ว กว่า 16 ปีเต็ม ที่ทั้งคู่ก็ได้ฤกษ์คัมแบ็คกลับมามีผลงานเต็มๆ ร่วมกันอีกครั้งใน “BOYdPOD//OST” (Original Sound Tracks)

ถึงเวลาอีกครั้งที่แฟนเพลงจะได้หายคิดถึง “บอย-ป๊อด” การกลับมาครั้งนี้ของทั้งคู่ไม่ต้องรอคอยเนิ่นนาน เพราะได้กำหนดวันเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ขึ้นแล้วกลางปีนี้ ในงานคอนเสิร์ต “เมืองไทยประกันชีวิต Presents BOYdPOD Our Songs Together” วันที่ 28-29 มิถุนายน 2568 ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี สร้างสรรค์โดย CI Showbiz

ครั้งนี้ไม่ใช่แค่คอนเสิร์ต แต่เป็นการเดินทางแห่งความทรงจำ ที่จะพาคุณย้อนกลับไปยังทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ว่าคุณจะมาคนเดียว มากับเพื่อน คนรัก หรือครอบครัว คุณจะรู้สึกเหมือนได้กลับมาเยี่ยมถนนแห่งความหลัง ที่เต็มไปด้วยบทเพลง ความสุข และเสียงหัวเราะ คอนเสิร์ตนี้จะพาคุณย้อนกลับไปสู่ทุกช่วงเวลานั้น กว่า 40 เพลงฮิตที่ตราตรึงใจทุกคน จาก “ช่วงที่ดีที่สุด” ไปจนถึง “รักคุณเข้าแล้ว” ที่เคยเป็นเหมือนลมหายใจของคุณจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เจ้าหญิง, คำไม่กี่คำ, ห่างไกลเหลือเกิน, จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ และอีกหลายบทเพลงที่คุณยังร้องตามได้เสมอ พร้อมฟังเพลงใหม่ “เลย” และ “ลอย” ที่เป็นเหมือน Time Machine ย้อนกลับไปสัมผัสกลิ่นอายในยุคปลาย 80 ถึงต้น 90 ซึ่งเป็นช่วงที่ดนตรี funk soul และ smooth jazz เฟื่องฟูที่สุด และเพลงอื่นๆ อย่างอิ่มเอม พร้อมติดตามแขกรับเชิญสุดพิเศษ ที่จะมาร่วมสร้างความประทับใจ ทั้งคนคุ้นเคย และคนที่คุณคาดไม่ถึง

กว่า 3 ชั่วโมงครึ่งแห่งความสุข ความทรงจำ และบทเพลงที่เต็มไปด้วยหัวใจ มาร่วมกันร้องเพลงที่เคยเป็นเพลงรักครั้งแรก เพลงที่ปลอบใจเมื่ออกหัก เพลงที่บอกเล่าความรู้สึกของการแอบรัก หรือเพลงที่ช่วยให้คุณมีกำลังใจในวันที่เหนื่อยล้า รวมถึงเพลงที่เคยทำให้คุณหัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมกัน คอนเสิร์ตนี้จะกลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดอีกครั้ง

มาร่วมกันตะโกนและร้องเพลงของพวกเราให้สุดเสียง และบันทึกความทรงจำครั้งสำคัญนี้ไว้ด้วยกัน ห้ามพลาด! เปิดจำหน่ายบัตร 15 มีนาคม 2568 นี้ ผ่านช่องทาง www.thaiticketmajor.com และ Thaiticketmajor ทุกสาขา ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป บัตรรอบปกติ วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 บัตรราคา 5,500 / 5,000 / 4,500 / 4,000 / 3,500 / 3,000 / 2,500 และ 1,800 บาท พร้อมรับสิทธิพิเศษสําหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ รับส่วนลด 15% *เฉพาะบัตรราคา 5,500 / 5,000 / 4,500 / 4,000 บาท จำกัดเพียง 450 สิทธิ์ (สูงสุด 4 ใบ/ท่าน) โดยสามารถรับโค้ดผ่าน MTL Click Application และใช้สิทธิ์ได้ในวันที่ 1-2 และ 15 มีนาคม นี้เท่านั้น สำหรับรอบการกุศล วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง

Coldplay ปล่อยมิวสิกวิดิโอเพลงใหม่ Man in The Moon มัดรวมแลนมาร์คดังของสิงคโปร์

17 ก.พ. 2568, 12:00 น.

วงดนตรีระดับโลกอย่าง Coldplay (โคลด์เพลย์) ปล่อยมิวสิกวิดิโอเพลง Man in The Moon ให้แฟน ๆ รับชมอย่างเป็นทางการ โดยถ่ายทำที่ประเทศเ

พร้อมใช้สถานที่แลนมาร์คดังมากมายหลายแห่ง ซึ่งเพลง Man in The Moon นี้เป็นหนึ่งในเพลงใหม่ที่ทางวงปล่อยมาจากอัลบั้ม Moon Music (Full Moon Edition)

สำหรับมิวสิกวิดิโอเพลง Man in The Moon นี้ทาง Coldplay ได้กล่าวว่า “ระหว่างที่พวกเราอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ พวกเราก็ได้ถ่ายวิดิโอเพื่อเก็บบรรยากาศ และความมีสีสันของผู้คนที่พวกเราได้พบเจอเอาไว้ พวกเราตื่นเต้นมากที่ได้ถ่ายมิวสิกวิดิโอในสถานที่ที่พวกเราไม่เคยมีโอกาสได้ถ่ายมาก่อน และยังได้ถ่ายวิดิโอที่ผสมผสานผู้คนที่หลากหลายให้ได้มากที่สุด พวกเรามีช่วงเวลาที่ดีมาก ๆ เลยครับ”

โดยในมิวสิกวิดิโอเพลง Man in The Moon นี้ก็ได้มัดรวมสถานที่มีชื่อเสียงของประเทศสิงคโปร์ไว้มากมาย นับตั้งแต่อ่าวมารีน่า สวนสาธารณะฟอร์ทแคนนิงที่มีประวัติความเป็นมาอันน่าทึ่ง และอีกมากมาย ในมิวสิกวิดิโอนี้เราจะได้พบกับความสดใสและความหลากหลายของเอกลักษณ์ความเป็นประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมและผู้คน

เรียกได้ว่าประเทศสิงคโปร์คือตัวเลือกที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะความหลากหลายของประเทศนี้ยังเข้ากับความหมายของเพลง Man in The Moon ที่ว่าด้วยความเป็นหนึ่งอันเดียวกัน แม้คนเราแต่ละคนจะมาจากต่างที่ ต่างเรื่องราว และต่างประสบการณ์ แต่เราก็ยังมีบางอย่างที่เหมือนกัน

แน่นอนว่ามิวสิกวิดิโอเพลง Man in The Moon นี้ถูกถ่ายทำขึ้นในช่วงที่วง Coldplay กำลังเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต Music of the Spheres World ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งประเทศไทยของเราเองก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในทัวร์คอนเสิร์ตนี้ด้วยเช่นกัน โดยมิวสิกวิดิโอเพลง Man in The Moon ก็ได้มีการพรีเมียร์ให้แฟน ๆ จากสิงคโปร์และสื่อมวลชลจากแต่ละประเทศได้รับชมจากงานสุดพิเศษ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่จุดชมวิวบนดาดฟ้าชื่อดังอย่าง SkyPark Deck อีกด้วย

สามารถฟังเพลง Man in The Moon ได้แล้วบนทุกสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มและรับชมมิวสิกวิดิโอได้ที่ YouTube: Coldplay

Music Streaming: https://wmth.lnk.to/ManintheMoonFC

เสิร์ฟฉ่ำๆ ไม่อั้นทำฮ็อบ ประมวลภาพความน่ารัก “สกาย-นานิ” ในงาน “SKY-NANI FRIENOMENON FANCON”

17 ก.พ. 2568, 11:05 น.

เสิร์ฟฉ่ำๆ ไม่อั้นทำฮ็อบทุกโมเมนต์ สำหรับงาน “SKY-NANI FRIENOMENON FANCON” ของสองหนุ่มเพื่อนซี้เคมีดีต่อใจ “สกาย วงศ์รวี นทีธร” แล

จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย ที่เรียกว่าทำคนดูฟูลฟีลข้ามวันข้ามคืน กับมวลความสนุกสุดประทับใจบนเวทีแห่งความทรงจำ พร้อมด้วยแขกรับเชิญสุดพิเศษทั้ง 2 วัน อย่าง วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร, ดิว จิรวรรตน์ สุทธิวณิชศักดิ์, ฮง LYKN (พิเชฐพงศ์ จิรเดชสกุลวงศ์) และ นินิว คริสติน่า แซ่แต้ รวมถึงแก๊งเพื่อนจากซีรีส์กระแสปัง “High School Frenemy มิตรภาพ คราบศัตรู” ได้แก่ เค เลิศสิทธิชัย, มาร์ค ภาคิน คุณาอนุวิทย์, มาร์ค จิรันธนิน ตรัยรัตนยนต์, เอส ศุภ สง่าวรวงศ์, เอเจ ชยพล จุฑามาศ, เจเจ ชยกร จุฑามาศ, พร้อม ทีปกร ขวัญบุญ, บอนนี่ ภัสรสรณ์ โบสุวรรณ, วิว เบญญาภา จีนประสม, เอิร์น ปรียาภัทย์ หล่อสุวรรณศิริ, จูน วรรณวิมล เจนอัศวเมธี และ เต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ ต่างก็มาร่วมสร้างสีสันเติมความสดชื่นสดใส ท่ามกลางโปรดักชั่นเวที แสง สี เสียง ให้สนุกเต็มอิ่มทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่ได้รับชมพร้อมกันทั่วโลกทุกนาทีแบบเรียลไทม์ ไปกับการรับชมแบบ Live Streaming ผ่านทาง “TTM LIVE” กับความพิเศษ 2 รอบการแสดงที่ไม่เหมือนกัน บอกเลยว่าตราตรึงซึ้งใจทุกโชว์ จนสร้างปรากฎการณ์ความปังสนั่นโซเชียล ส่งผลให้ #SkyNaniFanconD1 ทะยานพุ่งติดเทรนด์ X “อันดับ 1” ของโลก, ไทย, อินโดนีเซีย และ #SkyNaniFanconD2 ติดเทรนด์ X “อันดับ 1” ของประเทศไทย รวมทั้งยังติดเทรนด์ในอีกหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยทั้ง 2 วันมียอดสูงถึง 3.9 ล้านโพสต์ เมื่อวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ และวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ยูเนี่ยน ฮอลล์ ชั้น F6 ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์

เริ่มต้นด้วยพาร์ท "Friend Zone" ของ “สกาย-นานิ” ที่ออกมาเล่นกับใจคนดูด้วยเพลง “แตกต่างเหมือนกัน” และ “เพื่อนเล่นไม่เล่นเพื่อน” เปิดโหมดโมเมนต์เคลียร์ใจสุดน่ารักเรียกเสียงกรี๊ดแฟนๆ อย่างคึกคักกับมิตรภาพที่ลงตัวของทั้งคู่ ก่อนจะไปสนุกสนานกับเพลง “พูดไม่คิด” และ “ดึกมากแล้ว” ที่สกายโชว์ลีลาขับมอเตอร์ไซค์ให้นานิซ้อนท้ายพร้อมร้องเพลงไปด้วยกันอย่างเท่ แล้วต่อด้วยพาร์ท "My Zone" ซึ่ง “สกาย” ก็ได้ตั้งใจเลือกเพลง “หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ” มาตอบแทนความรักและแรงซัพพอร์ตของแฟนๆ ในขณะที่

“นานิ” ก็ทำเอาคนดูอึ้งทึ่งกันขั้นสุดกับการโซโล่เปียโนและโชว์พลังเสียงในเพลง “คนที่ฆ่าฉัน” หลังจากนั้นก็เข้าสู่พาร์ท “Friendship vs. Enemy” ที่ก๊วนแก๊งจากซีรีส์สุดปัง “High School Frenemy มิตรภาพ คราบศัตรู” อย่าง เค, มาร์ค ภาคิน, มาร์ค จิรันธนิน, เอส, เอเจ, เจเจ, พร้อม, บอนนี่, วิว, เอิร์น และ จูน ต่างมาร่วมแจมปล่อยจอยกันแบบไม่ยั้งกับเพลงสนุกๆ ทั้งเพลง “ซุปเปอร์ไซย่า”, “ก้อนหินกับดวงดาว” จากนั้น “สกาย-นานิ” มาในเพลงซึ้งๆ กินใจ “เพียงเพื่อน” ก่อนจะส่งท้ายด้วยเพลงประกอบซีรีส์ “ไม่ทิ้งกัน (Promise)” เพลงแรกของทั้งคู่ บอกเลยว่าตราตรึงใจกันทั้งฮอลล์

มาถึงพาร์ท “Play Zone” ซึ่งแตกต่างกันทั้ง 2 วัน กับแขกรับเชิญสุดพิเศษที่ขึ้นเวทีมามอบความสุขแจกความสดใสกันมันส์สุดเหวี่ยง อย่างวันแรก “นานิ” ก็ได้ชวนน้องชายไลน์เต้นเป๊ะ “ฮง” LYKN มาแรปไฟลุก เต้นยับสะบัดทุกจังหวะกับเพลงสนุกๆ ไม่ว่าจะเป็น “Best Life”, “แถวนี้อันตราย”, “ไมโครโฟน” และวันที่สองก็คว้าเพื่อนซี้ “ดิว” มาประชันแรปกันสดๆ ในเพลง “Best Life”, “TEEDEE TADA” บอกลยว่าทำคนดูตื่นตาตื่นใจกับลุคใหม่ของพวกเขาสุดๆ ส่วน “สกาย” ก็ใส่เต็มไม่ยั้งเช่นกัน วันแรกคว้านักร้องเสียงดีอารมณ์ขัน “นินิว” มาชวนคนดูทั้งร้องทั้งเต้น ในเพลง “มีคนเหงารออยู่เบอร์นี้”, “รักข้ามคลอง” และ “แฟนจ๋า” วันที่สองได้หนุ่มหล่อสุดฮอต “วิน” มาสาดความสนุกชุดใหญ่ผ่านเพลงดังสุดฮิตที่ทุกคนร้องตามกันทั้งฮอลล์กับเพลง “ทักครับ” นอกจากนี้ยังได้เห็นความขี้เล่นที่แฝงไปด้วยความเท่แบบมิตรภาพลูกผู้ชายของ “สกาย-นานิ” ผ่านเพลง “ลูกคุณหนู”, “ขี้หึง” และ “รักนะเว้ย” บอกเลยว่าสนุกสนานมันส์กันครบเครื่อง

จากนั้นก็เข้าสู่ช่วง “Growing Together Zone” ที่คนดูจะได้เห็นการเติบโตความรักความผูกพันของสองเพื่อนซี้ “สกาย-นานิ” ผ่านเพลงซึ้งๆ อย่างเพลง “ระหว่างทาง (Good Time)” ซึ่ง 2 หนุ่มก็ได้ลงไปพบกับแฟนๆ แบบใกล้ชิดทุกโซนอย่างทั่วถึง แล้วปิดท้ายด้วยซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด “แค่เรียกหา (Call my name)” ที่ “สกาย-นานิ” โชว์สุดคิ้วท์ปล่อยโมเมนต์น่ารักชวนฮ็อบกันต่อเนื่องไปกับเอกลักษณ์ของทั้งคู่ ก่อนจะส่งท้ายด้วยโปรเจกต์ที่แฟนๆ ตั้งใจทำให้ทั้งคู่ด้วยความรัก งานนี้เล่นเอาสองหนุ่มถึงกับซึ้งใจน้ำตาไหลด้วยความปลาบปลื้มกับพลังความรักพลังซัพพอร์ตของแฟนๆ โดยทั้งคู่ได้ ขอบคุณแฟนๆ ที่มาร่วมเก็บความทรงจำในงานครั้งนี้ไปด้วยกัน พร้อมทั้งขอบคุณกันและกันที่เชื่อใจกัน และอยู่เคียงข้างเป็นพาร์ทเนอร์คอยซัพพอร์ตในทุกเรื่อง คอยดูแลกัน เข้าใจกัน สร้างความมั่นใจให้กัน และพร้อมจะเดินก้าวไปด้วยกัน ที่สำคัญขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้เราได้มาเจอกัน และหวังว่าแฟนๆ จะมีความสุขไปกับโชว์ทั้งสองวันที่พวกเราตั้งใจทุ่มเทกันมากๆ แล้วก็ซัพพอร์ตผลงานพวกเราต่อไปเรื่อยๆ นะครับ

สามารถชมการแสดงย้อนหลัง ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น. (GMT+7) – 7 มีนาคม 2568 เวลา 23.59 น. (GMT+7) สามารถรับชมการแสดงย้อนหลังได้ 330 นาที ต่อ 1 รหัสการรับชมหรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com หรือ www.facebook.com/gmmtvofficial & Instagram & X & TikTok & YouTube & Weibo : GMMTV

elijah woods กลับมาหาแฟนชาวไทยอีกครั้ง 5 สิงหาคมนี้ ที่สามย่าน มิตรทาวน์ ฮอลล์

13 ก.พ. 2568, 18:15 น.

กลับมาอีกครั้ง เพราะคิดถึงแฟนๆ แบบ 24/7, 365 ศิลปินหนุ่มจากแคนาดาเจ้าของผลงานเพลงมัลติแพลตินัม ‘elijah woods’ (เอไลจาห์ วูดส์) ปร

เปิดประเดิมที่แรกที่กรุงเทพฯ ในวันอังคารที่ 5 สิงหาคม 2568 ที่สามย่าน มิตรทาวน์ ฮอลล์ ต่อด้วยฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ ไทเป และโซล สำหรับการแสดงที่กรุงเทพฯ เปิดจำหน่ายรอบพรีเซลส์ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 น. ติดตามผังการแสดงและรายละเอียดแพ็คเกจวีไอพีได้เร็วๆ นี้ ที่ livenationtero.co.th

‘elijah woods: Give Me The Sunlight Tour’ ทัวร์คอนเสิร์ตที่ตอกย้ำความสำเร็จจาก ‘elijah woods : ilu 24/7, 365 tour’ ที่โซลเอาท์ทั่วเอเชีย รวมถึงประเทศไทย การันตีเพอร์ฟอร์แมนซ์สุดปังด้วยทุกผลงานเพลงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความน่าคนหา ทั้งเมโลดี้ที่ติดหู ประกอบกับเนื้อเพลงที่เฉียบคมตรงใจวัยรุ่น กับสไตล์การทำเพลงที่มีเอกลักษณ์ทำให้นักวิจารณ์หลายคนยกให้เขาเป็นหนึ่งในศิลปินเดี่ยวคุณภาพที่มีอนาคตไกลคนหนึ่งของวงการเพลง ผลงานโดดเด่นของเขาคือเพลง “24/7, 365,” (ทเวนตี้ โฟร์ เซเว่น ทรีซิกตี้ไฟฟ์) จากอีพีอัลบั้ม ‘bright orange everglow’ (ไบรท์ ออเรนจ์ เอเวอร์โกลว) ขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งหลายประเทศในเอเชีย และมียอดสตรีมมิงปัจจุบันมากกว่า 100 ล้านครั้งบนสปอติฟายและยูทูบมิวสิก

โดยบัตรคอนเสิร์ต elijah woods: Give Me The Sunlight! Tour in Bangkok จะเปิดจำหน่ายในรอบพรีเซลส์สปอติฟาย วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 12.00 น. ถึง 23.59 น. สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ด รับสิทธิซื้อบัตรคอนเสิร์ตรอบพรีเซลส์ได้ในวันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 ถึงวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก http://priceless.com/music

สมาชิกไลฟ์ เนชั่น เทโร รับสิทธิ์ซื้อบัตรรอบพรีเซลส์ในวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลา 12.00 น. ถึง 22.00 น. ทาง livenationtero.co.th เริ่มจำหน่ายบัตรรอบทั่วไป วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 10.00 น. เป็นต้นไปทาง thaiticketmajor.com เท่านั้น และจะเปิดจำหน่ายทางเคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา ในวันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

JACKSON WANG คัมแบ็กในรอบ 2 ปี ปล่อยเพลงใหม่ “High Alone”

13 ก.พ. 2568, 16:35 น.

แฟนคลับทั่วโลกสิ้นสุดการรอคอย! “แจ็คสัน หวัง” (JACKSON WANG) ไอคอนระดับโลกคัมแบ็กในรอบ 2 ปี ปล่อยเพลงใหม่ “High Alone” พร้อมมิวสิค

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งเพลงนี้ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของอัลบั้มใหม่อย่าง “MAGIC MAN 2” สามารถรับฟังได้แล้วทุกช่องทางบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง

โดยเพลงนี้เป็นเพลงที่มีความลึกซึ้งในเรื่องของการไตร่ตรองตัวเอง “High Alone” วิเคราะห์ธีมของความเปราะบาง ความเหงา และการอกหัก โดยเสนอภาพเกี่ยวกับการต่อสู้และการเติบโตของแจ็คสันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความรู้สึกที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเพลงนี้ “แจ็คสัน” กล่าวว่า “แผลที่ลึกที่สุด มักไม่ใช่มาจากศัตรูของคุณ” ซึ่งเขาได้มีส่วนร่วมในการเขียนเพลง “High Alone” ด้วย เพลงนี้จะช่วยกระตุ้นความสัมพันธ์ที่ผันผวนระหว่างแจ็คสันและตัวตนของเขาที่ชื่อว่า “MAGIC MAN” ซึ่งเป็นตัวตนที่เขาได้นำเสนอในอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2022 ที่ผ่านมา โดย MAGIC MAN 2 นั้น จะได้เห็นตัวตนที่แสดงออกนี้จะค่อยๆ เปิดเผยลักษณะมืดและเป็นพิษของมัน แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ภายในของแจ็คสัน การเติบโตและประสบการณ์ต่างๆ ของเขา สำหรับอัลบั้ม MAGIC MAN 2 จะปล่อยออกมาในปีนี้ และจะถูกแบ่งออกเป็น 4 บทเพื่อสำรวจขั้นตอนในจิตใจในปีที่ผ่านมาของแจ็คสัน

มิวสิควิดีโอเพลง “High Alone” ทำให้เห็นเส้นแบ่งระหว่างภาพลวงตาและความจริง เมื่อ MAGIC MAN ทำการหลบหนีจากการถูกมัดมือใต้น้ำ การแสดงนี้เปิดเผยออกมาเหมือนการแสดงที่ยิ่งใหญ่ ในขณะที่ผู้ชมต้องนั่งดูอย่างตื่นตาตื่นใจ แต่เบื้องหลังนั้นมีความจริงที่มืดมนแฝงอยู่ การใช้โลกแห่งภาพลวงตานี้เป็นอุปมาเพื่อสื่อถึงข้อเท็จจริงที่สำคัญเกี่ยวกับวงการและความจริงของมนุษย์ โดยมุมมองของ MAGIC MAN คือ “ความแตกต่างระหว่างสิ่งที่การแสดงหมายถึงสำหรับสาธารณะ และสิ่งที่การแสดงหมายถึงสำหรับการจัดการ”

สำหรับ “แจ็คสัน หวัง” นั้น เป็นซูเปอร์สตาร์ชาวจีนที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่รู้จักในเรื่องของเพลงที่ท้าทายและอิทธิพลที่มีต่อทั่วโลกจากผลงานก่อนหน้าของเขา รวมถึง MAGIC MAN ในปี 2022 เปิดตัวที่อันดับ 15 บน Billboard 200 และมียอดสตรีมมิ่งถึง 123 ล้านครั้ง แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความเต็มใจในการทดลองข้ามแนวเพลง

นอกจากนั้นยังมี “MAGIC MAN WORLD TOUR” ในปี 2023 ที่บัตรถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว และเขายังได้สร้างสถิติเป็น “ศิลปินเดี่ยวชาวจีนคนแรกที่ขึ้นแสดงในงาน Coachella” และยังได้ขึ้นแสดงในพิธีเปิดการแข่งขัน “League of Legends Worlds Championship 2022” โดยโชว์เพลง “Fire to the Fuse” ที่ขึ้นอันดับ 1 ใน Billboard’s Hot Trending Song Chart อีกทั้งแจ็คสันยังสร้างสถิติบนโซเชียลมีเดีย มีผู้ติดตาม 100 ล้านคนในหลายแพลตฟอร์ม และเป็นบุคคลที่มีผู้ติดตามอินสตาแกรมมากที่สุดในจีนอีกด้วย

และในฐานะพันธมิตรระดับโลกของ Nike , Jordan รวมทั้งในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ ‘Louis Vuitton’ , ‘Cartier’ และ ‘Hennessy’ แจ็คสันยังคงมุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงระหว่างดนตรี , แฟชั่น , วัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกันอีกด้วย

วิลเลี่ยม-เอส-เลโก้-นัท-ฮง-ตุ้ย พร้อมเจอแฟนๆ ในงาน "THAMEPO OUR LAST BEAT FAN PARTY" เปิดจำหน่ายบัตรพรุ่งนี้ (13 ก.พ.)

11 ก.พ. 2568, 16:38 น.

ต่อยอดความสนุกให้คนดูได้ฟินกับเหล่านักแสดงสุดฮอตกันแบบจัดเต็ม สำหรับซีรีส์กระแสปัง “เธมโป้ (ThamePo) HEART THAT SKIPS A BEAT” กับง

ที่เตรียมปาร์ตี้สุดหรรษาให้กับแฟนๆ ได้เติมเต็มความสุขไปกับโมเมนต์ความน่ารักจนทำให้คนดูนั่งไม่ติดกันเลยทีเดียว กับสารพัดกิจกรรมความสนุก โชว์จัดเต็มทั้งร้องเล่นเต้นสุดใกล้ชิดกับเหล่านักแสดงแบบครบทีม นำโดยคู่จิ้นเคมีชวนเขิน “วิลเลี่ยม จักรภัทร แก้วพันธุ์พงษ์” กับ “เอส ศุภ สง่าวรวงศ์” และก๊วนแก๊งเพื่อน “เลโก้ รพีพงศ์ ศุภธินีกิตติ์เดชา, นัท ธนัท ด่านเจษฎา, ฮง พิเชฐพงศ์ จิรเดชสกุลวงศ์ และ ตุ้ย ชยธร ไตรรัตนประดิษฐ์” ท่ามกลางบรรยากาศแสง สี เสียง อลังการตระการตา พร้อมชมตอนสุดท้าย “เธมโป้ (THAMEPO) HEART THAT SKIPS A BEAT” ไปพร้อมๆ กับทีมนักแสดง และผู้กำกับฯ คนเก่ง “มุ้ย อาทิชา ตันธนวิกรัย” ปักหมุดกดบัตรพร้อมกัน วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป แล้วไปเอ็นจอยแบบสุดใจด้วยกัน ในศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2568 ณ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เวลา 19.00 น. โดยแฟนคลับทั่วโลกยังสามารถฟินทะลุจอได้แบบเรียลไทม์ ไปกับการรับชมแบบ Live Streaming ผ่านทาง “TTM LIVE” ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ครอบคลุมทั่วโลก สนุกสนานหรรษากันจุใจแน่นอน

สามารถจับจองบัตรบนช่องทาง Online วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เริ่มเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป เปิดจำหน่ายทุกที่นั่ง ทางออนไลน์ที่ www.thaiticketmajor.com เท่านั้น และเปิดจำหน่ายบัตร ทุกช่องทางตามปกติ วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เริ่มเวลา 10:00 น. เป็นต้นไป บัตร 4,500 / 3,500 / 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,500 บาท และดูสดผ่าน “TTM LIVE” บัตรราคา 1,200 / 990 บาท (ลิงก์และโค้ดรับชม) กรณีต้องการรับบัตรพลาสติกที่ระลึก ชำระเพิ่ม 30/ใบ ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.com และ Call center โทร 0-2262-3456 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com หรือ www.facebook.com/gmmtvofficial & Instagram & X & TikTok & YouTube & Weibo : GMMTV เปิดจำหน่ายบัตร

keshi ปล่อยเพลงคลั่งรัก “Inside Out” แฟนชาวไทยซ้อมร้องรอเลย 26 ก.พ.นี้ เจอกัน!

11 ก.พ. 2568, 15:00 น.

ไม่เกินไปเลยแม้แต่น้อย หากจะบอกว่าปล่อยเพลงอะไรออกมาก็เพราะไปหมด สำหรับ keshi ศิลปินหนุ่มผู้รันวงการเพลง lo-fi ที่มาพร้อมบีทฮิปฮอป

หลังจากที่ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่ Requiem ออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกันไปฟินๆ เมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา โดยมีเพลงที่โด่งดังเป็นไวรัล ถูกใจวัยรุ่น Gen Z ทั้งไทยและทั่วโลกอย่าง “Say” และ “Soft Spot” ไปเรียบร้อยแล้ว

ในปี 2025 นี้ keshi เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการปล่อยอัลบั้ม Requiem (Deluxe) ที่เพิ่มเพลงใหม่เข้าไปถึง 3 เพลง นำโดยแทร็กโฟกัส “Inside Out” ที่มาพร้อมกับดนตรีหม่นๆ ละมุนแต่ฟังสบายสไตล์ keshi กับความหมายซึ้งสไตล์คนมีความรัก และกดเข้าเพลย์ลิสต์ส่วนตัวทันทีตั้งแต่ฟังครั้งแรกเหมือนเดิม รวมถึงเพลง “Forever”, “I Choose You” และ “Kiss Me Right” เพลงที่แฟนๆ ชื่นชอบกันเป็นพิเศษจากอัลบั้ม Requiem (Bonus Edition) เมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา

มิวสิควิดีโอเพลง “Inside Out” โดดเด่นที่ ภาพ แสง และมูดแอนด์โทนสวยงามเข้ากันกับเพลงเป็นอย่างดี กำกับโดย Kenji Chong ที่เป็นเพื่อนซี้ของ keshi พร้อมโปรดิวเซอร์และตัดต่อโดยฝีมือคนไทย อย่าง คุณโบ-ณวัชรี ปิยะมงคล

อัลบั้ม Requiem (Deluxe) ปล่อยออกมาก่อนที่ keshi จะเริ่มเดินสายเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตแรกในปี 2025 ตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. นี้ ที่ฮาวาย ก่อนจะมุ่งหน้าสู่เอเชีย และมาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทยบ้านเรากับ keshi : REQUIEM TOUR IN BANGKOK ในวันที่ 26 ก.พ. นี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ที่ Thaiticketmajor รับรองว่าจะได้ฟังเพลงเพราะๆ กันแบบฟินๆ ทั้งจากอัลบั้ม Requiem (Deluxe) และผลงานเก่าๆ อย่างจุใจแน่นอน

Requiem (Deluxe) Tracklisting:

Disc 1

1. Amen

2. Say

3. Night

4. Soft Spot

5. Like That

6. Texas

7. Dream

8. War

9. Bodies

10. Requiem

11. Euphoria

12. Just To Die

13. Id

Disc 2

14. Kiss Me Right

15. Forever

16. Inside Out

17. I Choose You

Kendrick Lama สุดยอดแรปเปอร์ประจำทศวรรษ สร้างตำนานบทใหม่ในโชว์ Super Bowl LIX

10 ก.พ. 2568, 18:00 น.

Kendrick Lamar สุดยอดแรปเปอร์แห่งวงการดนตรีประจำทศวรรษ เจ้าของ 22 รางวัลแกรมมี่ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตัวเอง และวงการเพล

หลังเขาได้ขึ้นแสดงโชว์ช่วงพักครึ่งในตำนานของการแข่งขัน Super Bowl LIX ที่เหล่าศิลปินทั่วโลกต่างใฝ่ฝัน ณ Caesars Superdome เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ในคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา 13 นาทีกว่าๆ เขารังสรรค์โชว์ แรปเพลงติดต่อกันไม่หยุดทั้งหมด 10 เพลง และยังได้ศิลปินรับเชิญมาสร้างสีสันให้กับงานนี้อย่างคับคั่ง

Kendrick Lamar เปิดโชว์ Super Bowl LIX ด้วยการปรากฏตัวของ Samuel L. Jackson ที่แสดงเป็น Uncle Sam เพิ่มสีสันให้กับโชว์ได้เป็นอย่างดี ก่อนจะเปิดโชว์ด้วยบางส่วนของเพลง “GNX” และเริ่มต้นแรปจริงจังกับเพลงสุดฮิตจากอัลบั้มเดียวกันอย่าง “squabble up” ต่อด้วยเพลงดังที่ขาดไม่ได้ในโชว์ครั้งนี้อย่าง “HUMBLE.” ที่ทุกคนในสนามพร้อมใจกันร้องตามเสียงดัง ต่อด้วย “DNA.”, “euphoria”, “man at the garden”, “peekaboo” ตามด้วยเซอร์ไพรส์กับการปรากฏตัวของสาว SZA ในเพลง “luther” และ “All the Stars” เพลงประกอบภาพยนตร์ Black Panther ที่แฟนๆ หลายคนคิดถึง และนับว่าเป็นการแสดงเพลงนี้คู่กันครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019 เลยทีเดียว

ในช่วงหลังของโชว์ เร่งจังหวะด้วย “Not Like Us” ที่เพิ่งคว้ารางวัล Record of the Year และ Song of the Year จาก 2025 Grammy Awards ไปหมาดๆ และได้ Serena Williams มาเต้นสนุกๆ ปิดท้ายด้วยการตะโกนเรียก ‘MUSTARD’ ทำเอาแฟนๆ เฮลั่นสนาม กับเพลง “tv off” จบการแสดงพร้อมเสียงปรบมือดังลั่นกึกก้อง พร้อมใจกันชื่นชมการแสดง Super Bowl ในครั้งนี้ ทั้งโปรดักชั่น เหล่าแดนเซอร์ที่มาในธีมขาว น้ำเงิน แดง และมุมกล้องที่เหมาะเจาะลงตัว ทำให้การแสดงในครั้งนี้เพอร์เฟกต์ไร้ที่ติ และจะเป็นตำนานให้กล่าวขานกันไปอีกหลายปี

Kendrick Lamar ได้เป็นแรปเปอร์และศิลปินฮิปฮอปคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้เป็นเฮดไลเนอร์ Super Bowl Halftime Show ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในปี 2022 เขาได้ขึ้นโชว์กับ Dr. Dre, Snoop Dogg, Mary J. Blige และ Eminem จากการแสดงในครั้งนี้ Kendrick Lamar พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขานี่แหละที่สร้างตำนานการแสดง และจะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการดนตรีโลกไปได้อีกนานแสนนาน สมศักดิ์ศรีแรปเปอร์แห่งทศวรรษนี้จริงๆ

D Gerrard ปล่อยเพลงรับวันแห่งความรัก "สุดที่รัก" เพลงทวงคืนหัวใจจากคนหลายใจ

10 ก.พ. 2568, 17:00 น.

ดี เจอร์ราร์ด (D Gerrard) สังกัดค่าย Wayfer Records ในเครือ Warner Music Thailand ส่งท้ายปีที่ผ่านมา ด้วยการพาแฟนเพลงไปเที่ยวดินแด

ต้อนรับแฟน ๆ เข้าสู่ปีใหม่ผ่านเพลง "มั่งมีศรีสุข (God Bless)” ที่มาพร้อมกับเนื้อหาที่เยียวยาและให้กำลังใจหลาย ๆ คนที่ชีวิตต้องเจอกับความเจ็บป่วย ซึ่งสามารถชมมิวสิกวิดีโอกันได้แล้วที่ ยูทูบ: DGerrardOfficial

ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่วันที่ 14 เป็นวันแห่งความรัก ดี เจอร์ราร์ด ที่สร้างสรรค์เพลงรักโรแมนติกดี ๆ มากมาย อาทิ “Luxury”, "โลกคู่ขนาน”, "นักวิทยาศาสตร์”, "เวทมนตร์”, “Galaxy (feat. Kob The X Factor)” หรือ "ไม่เหมือนใคร” ก็มีของขวัญพิเศษรับเดือนแห่งความรักปีนี้เช่นกัน กับ "สุดที่รัก" เพลงรักเพลงใหม่จากหนุ่มคนนี้ ที่เนื้อหามาพร้อมความหมายดี ๆ โดยเฉพาะกับคนที่เคยเจอความร้ายกาจของบางคนที่เห็นความรักเป็นเรื่องสนุก ล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้คนมาก่อน

"ผมเขียนเพลงนี้ขึ้นมา โดยพูดถึงเรื่องราวความรักที่เกี่ยวกับคนเจ้าชู้ ที่ชอบเข้ามาทำให้เราคิดว่าเขารักเราจริง ๆ แต่จริง ๆ แล้วสำหรับเขาหัวใจของเราเป็นเพียงของเล่นฆ่าเวลาเท่านั้น เชื่อว่าหลาย ๆ ครั้งเรามอบความรักให้ผิดคน และในเพลงนี้ก็เช่นกัน คำว่า 'ที่รัก' หรือ 'สุดที่รัก' สำหรับเขา อาจไม่ได้มีแค่เราเพียงคนเดียวเสมอไป” ดี เจอร์ราร์ดเปิดใจถึงที่มาของเพลง ที่เป็นมากกว่าการเล่าเรื่องราวธรรมดา ๆ "ผมอยากให้พฤติกรรมของคนเจ้าชู้เหล่านี้ถูกตีแผ่ และไม่ควรมีใครต้องเจออะไรแบบนี้ เนื่องจากผมเคยอ่านเจอว่าประเทศไทยเราติดอันดับต้น ๆ ของประเทศที่มีการนอกใจและเจ้าชู้ ซึ่งมันแย่มากที่เราต้องเจอกับความรักจอมปลอม จนทำให้ค่อย ๆ หมดศรัทธากับความรัก ทั้งที่จริงแล้วความรักควรเป็นสิ่งที่สวยงาม"

ทำให้ "สุดที่รัก" คืออีกเพลงรักดี ๆ อีกเพลงจาก D Gerrard ที่นอกจากเนื้อหาจะฟื้นศรัทธาในหัวใจของใครก็ตามที่เคยผ่านความเลวร้ายจากคนที่เห็นความรักเป็นเรื่องเล่น ๆ ดนตรีของ "สุดที่รัก" ยังใส่เต็มความอบอุ่นจากงานดนตรีโซล, อาร์แอนด์บีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในสไตล์ของเขา แล้วก็ได้ดนตรีคลาสสิคัล เข้ามาเติมความสวยงาม และช่วยให้อารมณ์ของเพลงหลากหลาย และมีความสมบูรณ์มากขึ้น

ด้วยความลงตัวในการเรียบเรียงดนตรีและท่อนฮุกที่ติดหู ผสมผสานกับท่อนแร็ปที่ร่ายออกมาได้อย่างลื่นไหล "สุดที่รัก" คือเพลงที่เยียวยาและให้กำลังใจใครก็ตามที่เจอความรักแย่ ๆ มาก่อนได้เป็นอย่างดี เพลงรักที่จะพาทุกคน ทวงคืนหัวใจจากคนหลายใจกลับมาไว้กับตัวเอง และรักตัวเองให้ดีที่สุด

สุขสันต์วันแห่งความรัก (ตัวเอง) กับเพลง "สุดที่รัก" ได้แล้วทุกบริการสตรีมมิง และชมมิวสิกวิดีโอกันได้ที่ ยูทูบ: DgerrardOfficial

V.I.P คืนชีพแล้ว! คอนเสิร์ตเดี่ยวพี่แทยังในรอบ 7 ปี สนุกครบรส แดนซ์สะบัดให้หายคิดถึง!

10 ก.พ. 2568, 16:00 น.

จบกันไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ต “TAEYANG 2025 TOUR [THE LIGHT YEAR] IN BANGKOK” (แทยัง 2025 ทัวร์ เดอะ ไลท์ เยียร์ อิน แบงค็อก)

โดย “TAEYANG” (แทยัง) โชว์ครบรส เต้นสะบัด เพลงหวานซึ้ง พร้อมโมเมนต์ดี ๆ ที่ตราตรึงใจแฟน ๆ เคป๊อปเจนสอง เมื่อวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

TAEYANG 2025 TOUR [THE LIGHT YEAR] IN BANGKOK เป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในไทยในรอบ 7 ปีของแทยัง บรรยากาศหน้างานจึงเหมือนเป็นงานรียูเนียนย่อมของเหล่าแฟนคลับเคป๊อปเจนสอง ที่นอกจากจะมารอชมการแสดงของศิลปิน ที่ชอบแล้ว ยังเหมือนได้พบปะเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน เริ่มต้นการแสดงด้วยเพลง KIDO และ I’ll Be There พักทักทายแฟน ชาวไทยให้หายคิดถึง ก่อนจะเปิดด้วยเพลงจากอัลบั้มล่าสุดอย่าง VIBE แล้วพาย้อนไปฟังเพลง R&B จากอัลบั้มก่อน ๆ ครบเซ็ตไม่ว่าจะเป็น 1AM, Stay With Me, Make Love, Inspiration ต่อด้วย 2 เพลงฮิตอย่าง Only Look At Me และ Wedding Dress

ช่วงเวลาน้ำตารื้นได้มาถึงเมื่อพี่แทยังเริ่มชวนแฟน ๆ มาร่วมร้องเพลงและสนุกไปกับเหล่าเพลงช้ายอดฮิตจาก BIGBANG ทั้ง BLUE, IF YOU, LOSER ปลุกวิญญาณความเป็นวีไอพีให้ทั่วอิมแพ็ค อารีน่า ปิดจบพาร์ทด้วยเบื้องหลังการทำทัวร์และเพลง WHERE YOU AT ก่อนจะเริ่มต้นด้วยไฮไลท์ของคอนเสิร์ตด้วยเพลงที่แฟน ๆ ต่างรอคอยอย่าง I NEED A GIRL ที่พี่แทยังเสิร์ฟความฟินให้แฟน ๆ ด้วยการเดินลงจากเวทีเพื่อทักทายทุกคนที่นั่งอยู่ชั้นล่าง

น้ำตาคลอจากเพลงซึ้ง ๆ ของ BIGBANG อย่าง A Fool of Tears ไปแล้ว ก็ต้องมาแดนซ์สะบัดกับเพลงเร็วกันบ้าง แม้มาคนเดียวแต่เอนเนอร์จี้แทยังไม่มีตก ขนเมดเลย์เพลงฮิตเซ็ตสองให้ทุกคนลุกจากที่นั่งทั้ง BANG BANG BANG, FANTASTIC BABY และ WE LIKE 2 PARTY ตามด้วยเพลงจากผลงานโซโล่อย่าง Shoong!, RINGA LINGA และเพลงฮิตที่ยอรอบุนรอคอย EYES, NOSE, LIPS ที่ชวนให้เหล่าวีไอพีไทยได้โชว์พลังเสียงร้องลั่นอิมแพ็ค ให้สมกับที่รอคอยมากว่า 7 ปี ตามด้วยช่วง Encore สี่เพลงรวดทั้ง SUPERSTAR, Body, NIGHTFALL และ Seed ปิดท้ายคอนเสิร์ตได้อย่างประทับใจให้สมกับชื่อทัวร์ที่เจ้าตัวเล่าถึงที่มาว่าเปรียบเหมือนการเดินทางผ่านเส้นทางแห่งแสงที่พบปะผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตการทำงาน ซึ่งคงรวมไปถึงคนดูอย่างพวกเรา ที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงโคจรรอบแทยัง และเฝ้ารอวันที่จะได้พบเจอกันใหม่ในโชว์ครั้งหน้า

Photo Credit: Live Nation Tero by @milqp.ntp

ฟรินยิ่งกว่าจันทร์ไหนๆ เก็บตกภาพ Maroon 5 เสิร์ฟโชว์สุดมันส์ในรอบ 2 ปี Maroon 5 Asia Tour 2025 – Bangkok ที่อิมแพ็ค อารีน่า

10 ก.พ. 2568, 16:00 น.

วงอเมริกันป็อปร็อคขวัญใจชาวไทยอย่าง ‘Maroon 5’ กลับมาระเบิดความมันส์ให้กับแฟนๆ ชาวไทยในคอนเสิร์ต ‘Maroon 5 Asia Tour 2025 – Bangko

เปิดโชว์ด้วยเพลงมันส์ในตำนานอย่าง ‘Animals’ ที่ ‘Adam Levine’ ที่อวดลีลาโซโล่กีต้าร์สุดเท่ เรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ชมกว่า 12,000 คน ต่อด้วย ‘One More Night’, ‘This Love’, ‘Stereo Hearts’ (Original by Gym Class Heroes ft. Adam Levine) ก่อนจะพาย้อนวันวานไปกับเพลงดังเมื่อ 15 ปีที่แล้วอย่าง ‘Harder To Breathe’ ต่อด้วยเพลงฮิต 12 ปี ‘Lucky Strike’ แล้วปรับดีกรีความสนุกให้เย็นลงแต่ยังคงอบอุ่นไปกับ ‘Sunday Morning’ ที่ชวนแฟนๆ ร้องพร้อมกันไปตลอดทั้งเพลง

งานนี้นอกจาก Maroon 5 จะขนเพลงดังตลอด 2 ทศวรรษมากว่า 20 เพลง ไม่ว่าจะเป็น ‘Payphone’, ‘What Lovers Do’, ‘Makes Me Wonder’, ‘Maps’, ‘Memories’, ‘Don't Wanna Know’, ‘Love Somebody’, ‘Moves Like Jagger’ ช่วงเอนคอร์ไปกับเพลง ‘She Will Be Loved’ พี่อดัมยังแอบสปอยล์ด้วยว่าพวกเขากำลังจะปล่อยอัลบั้มใหม่เร็วๆ นี้ พร้อมให้สัญญาจะกลับมาหาแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้งอย่างแน่นอน ก่อนจะลากันไปด้วยเพลงรัก 2 อารมณ์ที่ทุกคนรอคอยอย่าง ‘Girls Like You’ และ ‘Sugar’

Photo Courtesy of Live Nation Tero by DOTDF

Centimillimenta ประกาศเอเชียทัวร์ แฟนอนิเมะเตรียมฟินหูเคลือบทอง 20 เม.ย. 68 โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ

10 ก.พ. 2568, 11:20 น.

นักร้อง-นักแต่งขวัญใจชาวเจ-อนิเมะ ‘Centimillimental’ เจ้าของผลงานเพลงฮิตจากเรื่อง ‘Given’ ประกาศเอเชียทัวร์ Centimillimental Asia

ปักหมุดโชว์ที่ไทเป กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ โซล จาการ์ตา กรุงเทพฯ และฮ่องกง แฟนชาวไทยเตรียมฟินหูเคลือบทองกันได้ในวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายนนี้ ที่โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ

Centimillimental เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขว้างจากเพลงประกอบอนิเมะชื่อดังอย่าง Given ในปี 2562 และ 2563 รวมถึงเป็นเจ้าของเพลงประกอบภาพยนตร์อนิเมะ Bakuten!! ในปี 2564 และ 2565 โดยผลงานที่โดดเด่นที่สุดอย่าง “Fuyu No Hanashi” (冬のはなし) จากอนิเมะ Given ได้พิสูจน์ความฮิต ครองใจแฟนอนิเมะทั่วโลกด้วยยอดสตรีมบนสปอติฟายที่ปัจจุบันมีคนสตรีมไปมากกว่า 138 ล้านครั้ง

สำหรับแฟนๆ ชาวไทยที่กำลังจะได้ไปฟัง Centimillimental แบบสดๆ เป็นครั้งแรก Centimillimental Asia Tour 2025 “ribbon” in Bangkok จะเปิดจำหน่ายบัตรรอบไลฟ์ เนชั่น พรีเซลส์ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ เวลา 10.00 – 22.00 น. ที่ livenationtero.co.th และเปิดจำหน่ายรอบบุคคลทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ที่ thaiticketmajor.com บัตรราคา 2,200 บาท และ 2,800 บาท แพ็คเกจวีไอพีราคา 2,500 บาท (เฉพาะผู้ที่ซื้อบัตรคอนเสิร์ตเท่านั้น) รายละเอียดเพิ่มเติมที่ livenationtero.co.th

“น้ำตาล-ฟิล์ม” จัดแฟนมีตครั้งแรกในไทย ปักหมุดซื้อบัตร 9 กุมภาพันธ์นี้ บัตรราคาเริ่มต้น 1,500 บาท

5 ก.พ. 2568, 16:00 น.

เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น สำหรับซีรีส์แนวแซฟฟิกกระแสแรงอย่าง “Pluto นิทาน ดวงดาว ความรัก” จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไว

จนทำให้แฟนๆ ทั้งไทยและอินเตอร์ตกหลุมรัก โดยเฉพาะ 2 นักแสดงสาวสวยมากความสามารถ “น้ำตาล ทิพนารี วีรวัฒโนดม” และ “ฟิล์ม รชานันท์ มหาวรรณ์” ที่เสิร์ฟโมเมนต์หวานทะลุจอ จนแฟนๆ ยกให้เป็นคู่จิ้นเคมีเกินต้านที่ลงตัว เกิดปรากฏการณ์ติดเทรนด์ X “อันดับ 1” หลายพื้นที่ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด “น้ำตาล-ฟิล์ม” ก็ไม่ปล่อยชาวด้อม “LUNAR” (ลูน่า) รอนาน ประกาศจัดงานแฟนมีตครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมชวนแฟนๆ มาเสพโมเมนต์ความหวานให้หายคิดถึง กับงาน “NAMTAN FILM PRINCESS'S TALE FAN MEETING” ในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2568 ณ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป งานนี้ทั้งสองสาวจัดเต็ม เตรียมการแสดงสุดพิเศษมาเซอร์ไพร์ส สมกับการรอคอยแน่นอน และพิเศษสุดๆ แฟนๆ ทั่วโลกสามารถรับชมแบบเรียลไทม์ ผ่าน Live Streaming ทาง “TTM LIVE” ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ครอบคลุมทั่วโลกอีกด้วย

สำหรับใครที่อยากมาฟินใกล้ชิด “น้ำตาล-ฟิล์ม” แบบติดขอบเวที สามารถจับจอง บัตรเข้าร่วมงาน “NAMTAN FILM PRINCESS'S TALE FAN MEETING” โดยสามารถจับจองบัตรบนช่องทาง Online ในวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ เริ่มเวลา 10:00 น. เป็นต้นไป เปิดจำหน่ายทุกที่นั่ง ทางออนไลน์ ที่ www.thaiticketmajor.com เท่านั้น และเปิดจำหน่ายบัตร ทุกช่องทางตามปกติ ในวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ เริ่มเวลา 10:00 น. เป็นต้นไป ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา, www.thaiticketmajor.com และ Call center โทร 0-2262-3456 บัตรราคา 6,000 / 5,000 / 4,500 / 4,000 / 3,500 / 2,500 / 1,500 บาท และดูสดผ่าน TTM LIVE บัตรราคา 1,200 / 990 บาท (ลิ้งค์และโค้ดรับชม) (กรณีต้องการรับบัตรพลาสติกที่ระลึก ชำระเพิ่ม 30 บาท /ใบ) และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com หรือ Facebook / Instagram / X / TikTok / YouTube / Weibo: GMMTV

น่ารักที่สุด! ครอบครัวดารา – คนดัง ร่วมงานแถลงข่าว Disney On Ice presents Find Your Hero

5 ก.พ. 2568, 15:00 น.

Live Nation Tero จัดงานแถลงข่าว “Disney On Ice presents Find Your Hero” โชว์มหัศจรรย์ที่พร้อมมอบความสุขและความทรงจำให้กับทุกคนในคร

ณ ลานแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน โดยการแสดงดิสนีย์ ออน ไอซ์ปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 30 มีนาคม 2568 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

งานนี้สองคาแรกเตอร์ขวัญใจทุกคนในครอบครัวอย่าง ‘มิคกี้’ และ ‘มินนี่’ ได้ออกมาทักทายแฟน ๆ และเหล่าครอบครัวศิลปินทั้ง อั๋น ภูวนาถ, พีท ทองเจือ และมีย่า - เซย่า, นุ้ย สุจิรา, เอ็ม อภินันท์, ฮาน่า ทัศนาวลัย และน้องนาดา ทีมนักแสดงจากช่อง 7 พล พูลภัทร และครอบครัว, พิงค์พลอย ปภาวดี, ฮาน่า ลีวิส, ชาย สมชาย, ซัน ก้องภพ รวมไปถึงไอดอลและนักแสดงที่เติบโตมากับดิสนีย์ ออน ไอซ์อย่างศิลปินวง MXFRUIT, Niky QRRA, อูน ชนิสรา, ตู่ Soundtiss, น้องฮิมาวาริ ทาจิริ, ฟรองซ์ – Le Fronce และ น้องขวัญใจ The Voice ดำเนินรายการโดย บัวบูชา ปุณณนันท์

ความพิเศษของดิสนีย์ ออน ไอซ์ครั้งนี้นอกจากจะมีเรื่องราวการผจญภัยจากเหล่าเจ้าหญิงและเรื่องใหม่อย่างเอนคานโต้แล้ว ยังมี 2 แคมเปญที่ตอกย้ำการค้นหาความเป็นฮีโร่ในตัวเรากับ ‘Disney On Ice 2025 Pre-Show Performer Search’ กิจกรรมเฟ้นหานักสเก็ตน้ำแข็งรุ่นเยาว์จำนวน 14 คน มาร่วมแสดง Pre-Show ของดิสนีย์ ออน ไอซ์ในรอบการแสดงวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 18.30 น. นอกจากน้อง ๆ จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดง Pre-Show แล้ว ยังได้รับบัตรเข้าชมการแสดงจาก Live Nation Tero และทุนการศึกษามูลค่า 3,000 บาท จากผู้สนับสนุนทั้ง 4 ท่าน ได้แก่ เมืองไทยประกันชีวิต, ทีเอ็มบีธนชาติ, บาโอจิ และเลอแปง

และอีกหนึ่งแคมเปญใหญ่ ‘Disney On Ice ‘FIND YOUR TALENT’ Skater Audition’ โปรแกรมออดิชั่นเพื่อรับโอกาสในการคัดเลือกให้เป็นนักแสดงในโชว์ดิสนีย์ ออน ไอซ์ ซึ่งเคยมีนักสเก็ตน้ำแข็งชาวไทยที่ถูกคัดเลือกและร่วมออนทัวร์ตั้งแต่ปี 2557 อย่าง ‘ฟิล์ม ร่มเกล้า โสภา’ โดยกิจกรรมนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม 2568 ณ อิมแพ็ค อารีน่า นักสเก็ตน้ำแข็งชาวไทยคนไหนที่สนใจ สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและวิธีการสมัครได้ทางหน้าเพจของดิสนีย์ ออน ไอซ์ในเว็บไซต์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 18 มีนาคม 2568

ร่วมออกผจญภัยครั้งใหม่ไปกับตัวละครดิสนีย์ที่ทุกคนชื่นชอบ ก้าวเข้าสู่โลกแห่งเสียงเพลงและพลังวิเศษของเอนคานโต้ไปกับครอบครัวของมิราเบล สัมผัสสายลมแสงแดดของเกาะโมทูนุย และร่วมกอบกู้หัวใจของเตฟิติไปพร้อมกับโมอาน่า เป็นกำลังใจให้อันนา และเอลซ่า กับภารกิจสุดยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องอาณาจักรอันเป็นที่รักของพวกเธอ พร้อมพบกับเรื่องราวสุดมุ่งมั่น กล้าหาญ และเปี่ยมไปด้วยน้ำใจ จากเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคน

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต, ทีเอ็มบีธนชาติ, บาโอจิ และเลอแปง รับส่วนลดสูงสุด 10% ตามเงื่อนไขที่กำหนด สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ thaiticketmajor.com

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Disney On Ice ได้ทางโซเชียลมีเดีย: Facebook, Twitter & Instagram. และยูทูบชาแนล Disney On Ice www.youtube.com/DisneyOnIce

YUGYEOM ตื่นเต้นรอเจออากาเซ่ไทย เสาร์นี้ 8 ก.พ.อย่าลืมจองบัตรคอนเสิร์ตอังกอร์

4 ก.พ. 2568, 14:27 น.

“ยูคยอม” ปลื้มมีอังกอร์เพราะความรักจากอากาเซ่ เสาร์นี้ 8 กุมภาฯ ถ้า Trust Me อย่าลืมจองบัตร #2025TRUSTY_ENCORE_IN_BANGKOK

หากมีการจัดอันดับหรือมอบรางวัลศิลปินคนโปรดที่แสนดีและเห็นคุณค่าการมีอยู่ของแฟนคลับ เชื่อเลยว่าหนุ่มหล่อมากความสามารถ ALL-ROUNDER แห่งวงการ K-POP และ K-HIPHOP อย่าง คิมยูคยอม (KIM YUGYEOM) หรือ ยูคยอม GOT7 ต้องมีชื่อติดอันดับเข้าชิงแน่นอน เพราะทุกคำพูดและการกระทำที่ผ่านมาล้วนพิสูจน์หัวใจของหนุ่มคนนี้ได้อย่างชัดเจนสุดๆ คู่ควรกับความรักที่เหล่าไอก็อตเซเว่น (IGOT7 ชื่อแฟนคลับของวง GOT7 หรือที่แฟนๆ นิยมเรียกว่าอากาเซ่) มอบให้แบบไม่ค้านสายตาเลยจริงๆ

ล่าสุด ยูคยอม ยังทำเอาแม่ๆ และนูน่าชาวไทย ต้องฮ็อบกลั้นความฟินไปกับคลิปที่เจ้าตัวส่งมาอ้อนอุ่นเครื่องก่อนเปิดจองบัตรคอนเสิร์ต “2025 ยูคยอม ทัวร์ [ทรัสตี้] อังกอร์ อิน แบงคอก” (2025 YUGYEOM TOUR [TRUSTY] ENCORE IN BANGKOK) #2025TRUSTY_ENCORE_IN_BANGKOK ซึ่งผู้จัด โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Four One One Entertainment หรือ 411ent) ของ กึ้ง–เฉลิมชัย มหากิจศิริ จับมือต้นสังกัด เอโอเอ็มจี (AOMG) และ วันเดอร์ (WONDER) ประเทศเกาหลีใต้ ปักคิวอังกอร์พบกันอะเกนในวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568 เวลา 18:00 น. ณ ไบเทค ไลฟ์ (BITEC Live) นั่นเอง

“สวัสดีครับ ยูคยอมครับ อากาเซ่ชาวไทยของผม สบายดีกันใช่ไหมครับ ทุกคนยังจำที่ผมไปแสดงคอนเสิร์ตในปี 2024 ได้อยู่ไหมครับ มันเป็นความทรงจำที่ดีมากๆ สำหรับผม ทั้งสมองและหัวใจของผมก็เลยยังจำได้อย่างดีเลยครับ และด้วยความรักอันร้อนแรงและการสนับสนุนของอากาเซ่ ทำให้ผมได้จัด Encore Tour ในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ที่ BITEC Live ครับ 2025 YUGYEOM TOUR [TRUSTY] ENCORE IN BANGKOK แค่คิดว่าจะได้เจอกับอากาเซ่ชาวไทยอีกครั้งผมก็ตื่นเต้นมากๆ แล้วก็จะซ้อมเยอะๆ เลยก่อนไปหา ทุกคนตั้งตารอด้วยนะครับ Ready to Trust Me? เจอกันที่กรุงเทพฯ นะครับ บ๊ายบาย”

ได้เวลาจองบัตรคอนเสิร์ต “2025 ยูคยอม ทัวร์ [ทรัสตี้] อังกอร์ อิน แบงคอก” (2025 YUGYEOM TOUR [TRUSTY] ENCORE IN BANGKOK) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำดีๆ ระหว่าง อากาเซ่ กับ ยูคยอม ที่ประเทศไทยอีกครั้งแล้ว! ** วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ ผู้จัด โฟร์วันวันฯ จะเริ่มเปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป ผ่านช่องทางออนไลน์ของไทยทิคเก็ตเมเจอร์ www.thaiticketmajor.com/concert/2025-yugyeom-tour-trusty-encore-in-bangkok.html (เริ่มรันระบบคิวจองบัตรตั้งแต่เวลา 9:00 น.) บัตรราคา 2,900 / 3,900 / 4,900 / 5,900 (นั่งและยืน) / 6,900 และ 7,900 บาท (นั่งและยืน) จากนั้นวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป สามารถจองบัตรได้ทางเคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และทางออนไลน์ (ไม่มีระบบคิว) ** ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางออฟฟิเชียลโซเชียลมีเดียของผู้จัดงาน @411ent

ไลน์ร้องสุดซึ้ง ไลน์เต้นสุดเร้าใจ! เปิดภาพเรียกน้ำย่อยอีกไม่กี่วันเจอกัน! ‘TAEYANG 2025 TOUR [THE LIGHT YEAR] IN BANGKOK’

4 ก.พ. 2568, 11:10 น.

นับถอยหลังเพียงไม่กี่วัน แฟน ๆ ชาวไทยก็ได้จะพบกับศิลปินเคป๊อปขวัญใจไอดอล “TAEYANG” (แทยัง) กับคอนเสิร์ตเดี่ยว “TAEYANG 2025 TOUR [

งานนี้ขอเปิดภาพเรียกน้ำย่อยจากอังกอร์คอนเสิร์ตเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อุ่นเครื่องก่อนมาเจอกันวันเสาร์นี้ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

นอกจากพี่แทยังจะขนความปังมาทั้งไลน์ร้องสุดซึ้ง และไลน์เต้นสุดเร้าใจแล้ว ในคลิป Q&A ล่าสุดที่แทยังส่งให้แฟน ๆ ชาวไทยนั้น ยังมีการบอกใบ้ว่าเขาจะร้องเพลงไทยสักเพลงพร้อมบอกให้แฟน ๆ ชาวไทยช่วยกันเลือก งานนี้ก็มาลุ้นกันว่าเราจะได้ฟังเพลงไหนให้หูเคลือบทองระหว่างเพลิดเพลินกับคอนเสิร์ตหรือเปล่า!

เขากลับมาพร้อมผลงานเพลงใหม่ในรอบ 6 ปี ด้วยซิงเกิ้ล “VIBE” (ไวบ์) ที่ได้ Jimin (จีมิน) จาก BTS (บีทีเอส) มาร่วมร้องด้วย โดยเพลงนี้เป็นผลงานเพลงแรกของ TAEYANG ที่ติดชาร์ต Billboard Hot 100 ในอันดับ 76 และ Billboard Global Chart อันดับ 9 ความสามารถของ TAEYANG ไม่เพียงแต่เป็นที่ยอมรับในหมู่แฟนเพลง แต่นักวิจารณ์เพลงหลาย ๆ สำนักต่างยกย่องให้เขาเป็นศิลปิน All Rounder (คนที่มีความสามารถรอบด้าน) โดย The New York Times เคยกล่าวว่า TAEYANG เป็นสมาชิกที่โดดเด่นที่สุดของ BIGBANG “TAEYANG กินเวทีด้วยการแสดงแบบทุ่มสุดพลังของเขา” เช่นเดียวกับที่ The Straits Times ยกย่องให้ TAEYANG เป็น ‘Dancing King ของวงการ K-POP’

แฟน ๆ ห้ามพลาดกับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 7 ปีของ TAEYANG “TAEYANG 2025 TOUR [THE LIGHT YEAR] IN BANG-KOK” บัตรราคาเริ่มต้น 2,800 บาท ซื้อบัตรด่วนทางเว็บไซต์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ และไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา

j-hope เวิลด์ทัวร์ครั้งแรก อาร์มี่ไทยห้ามพลาด บัตรราคาเริ่มต้น 2,500 บาท 10-11 พ.ค.นี้ ที่ อิมแพ็ค อารีน่า

3 ก.พ. 2568, 11:20 น.

‘j-hope’ สมาชิกวง BTS ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ประกาศทัวร์เดี่ยวครั้งแรกที่ทุกคนรอคอย j-hope Tour ‘HOPE ON THE STAGE’ in BANGKOK 10 แล

คอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ เป็นส่วนหนึ่งของทัวร์เดี่ยวครั้งแรกของเจโฮป ‘HOPE ON THE STAGE’ ซึ่งประกอบด้วยการแสดงทั้งหมด 31 รอบใน 15 เมืองทั่วโลก คิกออฟด้วยการแสดงสามคืนที่โซล ที่มีกำหนดการแสดงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม ที่ KSPO DOME ก่อนจะเดินหน้าทัวร์อเมริกาเหนือในช่วงเดือนมีนาคม ที่มีไฮไลต์ที่การขึ้นเล่นที่ BMO Stadium ณ ลอสแองเจลิสถึง 2 รอบการแสดง ซึ่งจะทำให้เจโฮปขึ้นแท่นเป็นศิลปินเคป๊อปเดี่ยวคนแรกที่ได้ขึ้นสเตเดี้ยมขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา

เจโฮปเป็นผู้บุกเบิกทางดนตรีอย่างแท้จริง ในปี 2565 เขาได้กลายเป็นศิลปินชาวเกาหลีใต้คนแรกที่ได้ขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรีใหญ่ของสหรัฐฯ ด้วยการแสดงที่น่าจับตามองของเขาที่ Lollapalooza เขายังเป็นที่รู้จักจากผลงานการร่วมงานที่แหวกแนว เช่น “Chicken Noodle Soup (feat. Becky G)” (2562) และ “on the street (with J. Cole)” (2566) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลทางศิลปะที่หลากหลายของเขา อัลบั้มเดี่ยวล่าสุดของเขา "Hope on the Street Vol. 1" (2568) เปิดตัวที่อันดับ 5 บนชาร์ต Billboard 200 และมาพร้อมกับสารคดีหกตอน ‘HOPE ON THE STREET’ ทาง Prime Video ซึ่งเฉลิมฉลองการเดินทางทางดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของเจโฮป

อาร์มี่ไทยห้ามพลาด! กับคอนเสิร์ตที่พี่โฮปจะพาทุกคนไปฮ็อบ! ใน j-hope Tour ‘HOPE ON THE STAGE’ in BANGKOK ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2568 ที่อิมแพ็ค อารีน่า บัตรราคาเริ่มต้น 2,500 บาท โดยจะเปิดจำหน่ายบัตรเริ่มต้นที่พรีเซลส์สำหรับ ARMY MEMBERSHIP ในวันที่ 19กุมภาพันธ์ 2568 (10:00 น. - 21:59 น.) ทางThaiticketmajor.com ตามด้วย Live Nation Tero Pre-sale ตั้งแต่เวลา 10:00 น. - 21:59น. ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ทางLivenationtero.co.th และจำหน่ายบัตรรอบทั่วไปในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 10.00 น.เป็นต้นไปทาง Thaiticketmajor.com

TEN NCT หล่อเฉิดฉาย นั่งฟรอนต์โรว์ปารีสแฟชั่นวีก ในฐานะแอมบาสเดอร์ของ Saint Laurent

31 ม.ค. 2568, 17:45 น.

TEN (เตนล์) วง NCT (เอ็นซีที) เฉิดฉายอย่างโดดเด่นพร้อมเผยเสน่ห์อันมีสไตล์จากการเข้าร่วมงาน ‘Saint Laurent Men’s Winter 25 Show’ (แ

ในฐานะแอมบาสเดอร์ของแบรนด์ โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 (ตามเวลาท้องถิ่น) ณ Bourse de Commerce กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ในวันนั้น TEN (เตนล์) ได้รับการตอบรับอย่างร้อนแรงด้วยการปรากฏตัวมาในลุคสูทสุดคลาสสิกที่ดูหรูหราทันสมัย เสริมด้วยรายละเอียดต่าง ๆ อาทิ แจ็กเก็ตสีเบจอ่อน จับคู่กับเสื้อเชิ้ตทูนิกลายทางและกางเกงผ้าวูลกาบาร์ดีนทรงหลวม รองเท้าบูทหนังเคลือบ เน็กไทผ้าไหม และผ้าเช็ดหน้าลายจุด

นอกจากนี้ TEN (เตนล์) ได้นั่งชมแฟชั่นโชว์แถวหน้าสุดร่วมกับเหล่าคนดังระดับโลก รวมถึงให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทางที่มั่นใจเป็นกันเองกับสื่อมวลชนท้องถิ่น ที่ต่างให้ความสนใจกับ TEN (เตนล์) เป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านี้ ยังยิ้มทักทายพร้อมแจกลายเซ็นให้กับแฟนคลับมากมายที่มารอพบเขาอย่างใกล้ชิด แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพที่ดึงดูดทุกสายตาได้เป็นอย่างดี

The Weeknd ปล่อยอัลบั้มที่ทุกคนรอคอย Hurry Up Tomorrow ผลงานสุดท้ายในชื่อ The Weeknd

31 ม.ค. 2568, 16:10 น.

สิ้นสุดการรอคอย! The Weeknd ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก เจ้าของยอดขายระดับ Diamond ปล่อย Hurry Up Tomorrow อัลบั้มที่แฟนๆ ตั้งหน้าตั้งตาร

ปิดฉากอัลบั้มสุดท้ายในอัลบั้มไตรภาค ต่อจาก After Hours (2020) และ Dawn FM (2022) ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามไม่แพ้กัน และถือเป็นผลงานสุดท้ายภายใต้ชื่อ The Weeknd อีกด้วย

Hurry Up Tomorrow เป็นผลงานล่าสุดของ The Weeknd หลังจากที่เขาได้เป็นศิลปินคนแรกที่เป็นเจ้าของเพลงที่มียอดสตรีมมากกว่า 1 พันล้านครั้งมากถึง 27 เพลงใน Spotify อัลบั้มนี้ปล่อยออกมาให้แฟนๆ ทั่วโลกได้ฟังอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ม.ค. หลังจากที่เขาตัดสินใจเลื่อนปล่อยอัลบั้มของตัวเองออกไปอีก 1 สัปดาห์ รวมถึงยกเลิกแผนการที่จะจัดคอนเสิร์ตที่ Rose Bowl และบริจาคเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบ 34 ล้านบาท) เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากไฟป่าที่ลอสแอนเจลิส นอกจากนี้ รายได้จากเพลง “Take Me Back To LA” ยังนำไปบริจาคให้กับ LA Regional Food Bank ที่ให้การสนับสนุนด้านอาหารให้กับผู้ประสบภัยอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ The Weeknd สร้างปรากฏการณ์เซอร์ไพรส์ให้กับแฟนๆ ด้วยการปล่อยเพลงสนุกๆ อย่าง “São Paulo” ร่วมกับซูเปอร์สตาร์สาวชื่อดัง Anitta เพลงนี้ถูกบรรจุในอัลบั้ม Hurry Up Tomorrow นี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีเพลงที่ร่วมทำกับศิลปินระดับโลกอื่นๆ ทั้ง Playboi Carti, Lana Del Rey, Travis Scott, Future, Florence + the Machine และอีกมากมาย รวมถึงซิงเกิลที่ฮอตฮิตติดลมบนไปก่อนหน้านี้อย่าง “Timeless” ที่ได้ Playboi Carti มาร่วมแจม ก็ถูกรวมอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย รวมทั้งหมด 22 เพลงเลยทีเดียว

นอกจากอัลบั้มใหม่แล้ว The Weeknd ยังแสดงภาพยนตร์ชื่อเดียวกับอัลบั้ม Hurry Up Tomorrow ร่วมกับนักแสดงฮอลลีวูดชั้นนำอย่าง Jenna Ortega และ Barry Keoghan กำกับและเขียนบทโดย Trey Edward Schults มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 16 พฤษภาคมนี้ บทภาพยนตร์ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงในอัลบั้ม Hurry Up Tomorrow และเพลงสกอร์ประพันธ์โดย Daniel Lopatin

เป็นการปิดฉากอัลบั้มไตรภาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และส่งท้ายผลงานในนาม The Weeknd ได้อย่างสมศักดิ์ศรีที่สุด

HURRY UP TOMORROW TRACKLIST

1. Wake Me Up

2. Cry For Me

3. I Can’t Fucking Sing

4. São Paulo

5. Until We’re Skin & Bones

6. Baptized In Fear

7. Open Hearts

8. Opening Night

9. Reflections Laughing

10. Enjoy The Show

11. Given Up On Me

12. I Can’t Wait To Get There

13. Timeless

14. Niagara Falls

15. Take Me Back To LA

16. Big Sleep

17. Give Me Mercy

18. Drive

19. The Abyss

20. Red Terror

21. Without a Warning

22. Hurry Up Tomorrow

ฟังอัลบั้ม Hurry Up Tomorrow จาก The Weeknd ได้แล้วที่นี่ https://TheWeekndth.lnk.to/HUTPR

KISS OF LIFE 4 สาวซัมเมอร์ควีนจัดเวิลด์ทัวร์ครั้งแรก ชาวไทยเตรียมรับความฮอต 6 เม.ย. ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

31 ม.ค. 2568, 12:20 น.

ขึ้นชื่อเรื่องทำถึง ยืนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นสเตจไหนๆ เพราะสี่สาวแซ่บ “คิสออฟไลฟ์” (KISS OF LIFE) ครีเอตโชว์ให้ทุกคนได้ว้าวเสมอ! สมมงเก

ถึงขั้นที่ว่าพวกเธอมีเวิลด์ทัวร์ครั้งแรกของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยหลังเดบิวต์ได้เพียงปีกว่าๆ เท่านั้น!! ฮอตขาขึ้นเบอร์นี้ผู้จัดหัวแถวที่ทำถึงมาตลอด 14 ปีเต็มเช่นกันอย่าง โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Four One One Entertainment หรือ 411ent) ของ กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ ไม่ปล่อยให้แฟนคลับไทยตกขบวน แท็กทีมต้นสังกัดเกาหลี เอสทู เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (S2 Entertainment) นำสาวๆ จูบชีวิตกลับมาระเบิดเวทีที่บ้านเกิดของเมมเบอร์สาวชาวไทย อีกหนึ่งแทกุกไลน์ผู้สร้างชื่อให้ประเทศอย่าง นัตตี้-อาณัชญา สุพุทธิพงศ์ แถมขยับสเกลความยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกกับคอนเสิร์ต “2025 คิสออฟไลฟ์ เฟิร์ส เวิลด์ ทัวร์ [คิส โรด] อิน แบงคอก” (2025 KISS OF LIFE 1ST WORLD TOUR [KISS ROAD] in BANGKOK) #KISSROADinBANGKOK ปักคิวแสดงในวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2568 เวลา 18:00 น. ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

นับตั้งแต่เดบิวต์เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ปี 2023 พร้อมฉายาที่ใครๆ ต่างมอบให้ “คิสออฟไลฟ์” (KISS OF LIFE) ทันทีว่า “เด็กจบใหม่ประสบการณ์ 10 ปี” ด้วยสกิลและเสน่ห์ที่โดดเด้งเกินมาตรฐานวงน้องใหม่ไปมากของทั้งสี่สาว จูลี่ (Julie), นัตตี้ (Natty), เบลล์ (Belle) และ ฮานึล (Haneul) ภายในขวบปีแรกก็ได้รับการขนานนามเพิ่มอีกว่าเป็น “รุกกี้มอนสเตอร์” ของไอดอล K-POP เจน 5 น่าจับตามองที่สุดในปีนั้น การันตีด้วยรางวัลมากมาย ถัดมาในปี 2024 หลังจบงานแฟนมีตติ้ง DEAR KISSY ที่ไทยได้ไม่นาน พวกเธอคัมแบ็ก 1st Single Album ด้วยเพลง ‘Midas Touch’ (https://youtu.be/oKVYm8mIUdo) ก่อนจะก้าวกระโดดสู่การเป็น “ศิลปินผู้นำเทรนด์แห่งเจน 5” ที่ท้าทายบัลลังก์ซัมเมอร์ควีนด้วยเพลงฮิตติดหนึบสุดป็อปปูลาร์ 47 ล้านวิวอย่าง ‘Sticky’ (https://youtu.be/IajeQM00yfE) ความร้อนแรงของเพลงนี้ยังทำให้ซัมเมอร์ซีซันที่ผ่านมาถึงขั้นต้องสแตนด์บายรถดับเพลิง เพราะคลิปเพอร์ฟอร์แมนซ์ในงาน WATERBOMB (https://youtu.be/sRO8cxdgiIw) ของพวกเธอนั้นไวรัลไปทั่ว ชื่อเสียงการแสดงสดของ KISS OF LIFE จึงกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้ชมได้เป็นอย่างดีด้วยเอกลักษณ์การสร้างสรรค์โชว์ที่เต็มไปด้วยสีสันเฉพาะตัวของ 4 สาวนั่นเอง

ช่วงปลายปี 2024 สาวๆ “คิสออฟไลฟ์” (KISS OF LIFE) ยังประเดิมเวิลด์ทัวร์ครั้งแรก โดยเริ่มต้นที่กรุงโซลเมื่อเดือนตุลาคม ก่อนจะออกเดินทางไปยังอเมริกาเหนือ รวมทั้งหมด 18 เมือง และในปี 2025 นี้พวกเธอจะเดินสายเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตกันต่อที่ยุโรปอีก 13 เมืองใหญ่ในระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม จากนั้นเดือนเมษายนถึงคิวของเอเชีย ประเทศไทยล็อกคิวไว้เลย วันอาทิตย์ที่ 6 เม.ย. 2568 เวลา 18:00 น. ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ** เริ่มจำหน่ายบัตร #KISSROADinBANGKOK ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 มีนาคมนี้ เวลา 12:00 น. เป็นต้นไป ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และทางระบบออนไลน์ www.thaiticketmajor.com บัตรราคา 2,900 / 4,000 / 5,000 และ 6,900 บาท ** ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางออฟฟิเชียลโซเชียลมีเดียของผู้จัดงาน @411ent

เตรียมตัวให้พร้อม คอนเสิร์ต K-POP สุดยิ่งใหญ่แห่งปี! GOLDEN WAVE IN BANGKOK 2025

30 ม.ค. 2568, 14:50 น.

Neverland Entertainment ตื่นเต้นที่จะประกาศ “GOLDEN WAVE IN BANGKOK 2025” งานสุดอลังการที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย! ปักหมุดว

งานนี้จะมอบประสบการณ์เวทีแบบ 360 องศา ที่จะทำให้แฟนๆ ได้สัมผัสความตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พบกับไลน์อัพศิลปินระดับแนวหน้าของวงการ K-POP ได้แก่ ENHYPEN, TWS, KISS OF LIFE, EVNNE, WHIB, YOUNGJAE และ MINNIE ที่จะมาปลุกเวทีให้ลุกเป็นไฟด้วยการแสดงสุดเร้าใจ

พิเศษสุดสำหรับแฟนๆ ชาวไทย! เตรียมพบกับ Special Stage สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น! นอกจากนี้พบกับพิธีกรดำเนินงานโดย MINNIE และ BAE HYEON SEONG ผู้ที่จะนำเสน่ห์และพลังของพวกเขามาทำให้ค่ำคืนนี้พิเศษยิ่งขึ้น

เตรียมตัวให้พร้อม เปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 10:00 น. ผ่าน www.ticketmelon.com ราคาบัตร: 6,900 บาท (ยืน) / 5,900 บาท (ยืน) / 4,900 บาท / 3,900 บาท / 2,900 บาท

อย่าพลาด! นี่คือโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต ที่จะได้สัมผัสพลังของ K-POP อย่างใกล้ชิด พร้อมโชว์สุดอลังการ และความทรงจำที่ไม่มีวันลืม! มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ K-POP ใน “GOLDEN WAVE IN BANGKOK 2025” ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โซเชียลมีเดีย NEVERLAND ENTERTAINMENT

ฟังแล้วอินเวอร์! 6 เพลงดัง Maroon 5 ซ้อมร้องให้เป๊ะ เพราะคนไทยแปลว่าเราร้องกันทั้งเพลง

29 ม.ค. 2568, 15:30 น.

อีกไม่นานเกินรอสำหรับการกลับมาของวงป็อปร็อคระดับโลกอย่าง Maroon 5 กับคอนเสิร์ต Maroon 5 Asia 2025 - Bangkok ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3

นับเป็นการกลับมาอีกครั้งแต่ยังได้รับความรักจากแฟนชาวไทยไปล้นหลามเหมือนเดิม โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองอันดับ 1 ของโลกที่สตรีมเพลงของ Maroon 5 (ข้อมูลจาก YouTube Music Charts ณ วันที่ 18 มกราคม 2568) เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันแล้ว เชื่อว่าแฟนๆ ชาวไทยเริ่มจะนับถอยหลังรอกันไม่ไหว ไปฟัง 6 เพลงรักสุดฮิตรับเดือนกุมภาและรอรับพวกเขาไปพร้อมๆ กัน

เริ่มด้วยเพลงรักความหมายสวนทางกับทำนองอย่าง ‘This love’ ที่มีความหมายถึงคนคนนึงที่ทุ่มเทความรักความพยายามให้กับคนรักแต่ความพยายามกลับไม่สามารถทำให้อีกคนพอใจได้ ที่มีการเลือกใช้ทำนองเร็วและสนุกสนานที่พร้อมให้แฟนๆโยกหัวตามจังหวะได้หากไม่ได้สนใจเนื้อสุดเศร้า อย่าง “I’ll fix these broken things, repair your broken wings. And make sure everything alright.” เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาพยายามอย่างมากในความสัมพันธ์นี้จริงๆ ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่เพลงนี้จะมียอดเข้าชมใน YouTube ถึง 342 ล้านวิว

ต่อกันด้วยเพลงรักความหมายดี ที่เปรียบเทียบหัวใจเหมือนสเตอริโอที่เต้นเพื่อคนสำคัญ พอจะคุ้นๆ กันมั้ยว่าเพลงนี้คือ ‘Stereo Hearts’ ที่สามารถเปิดฟังได้ถ้ารู้สึกดาวน์หรือเศร้า มีเมโลดีสำหรับเธอคนนั้น ตามเนื้อเพลงที่ว่า “The melody was meant for you” ที่พร้อมให้แฟนเพลงซึมซับความรักที่ล้นออกมาจากเพลงนี้ แต่ถึงจะมีเพลงรักซึ้งกินใจไปแล้ว แฟนๆ ก็พลาดไม่ได้กับเพลงรักจังหวะสนุกสนานและน่ารักในเวลาเดียวกัน ที่พาผู้ฟังตกหลุมรักไปพร้อมๆ กัน ด้วยเพลง ‘What Lovers do’ ที่ทำร่วมกับศิลปินหญิงแห่งปีอย่าง SZA เพลงนี้พูดถึงว่าเขาโชคดีพอที่จะได้สมหวังกับเธอคนนั้นหรือเปล่า และเธอคนนั้นจะรักฉันหรือไม่ อธิบายมาถึงขนาดนี้แล้วแฟนๆ คนไหนจะไม่รักลง

เพลงต่อไปไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง ‘Payphone’ ที่มีท่อนดังอย่าง “If happy-ever-after did exist, I would still be holding you like this” ด้วยความที่เนื้อเพลงมีความร่าเริง แต่ความจริงแล้วความหมายกลับตรงกันข้ามสุดๆ เพราะท่อนดังนั้นหมายถึงว่า ถ้าความสุขนิรันด์มีจริง เราคงยังอยู่ด้วยกัน แค่ฟังความหมายแฟนๆ คงนั่งน้ำตาซึมไปตามๆ กันแล้ว แต่ก็อย่าได้พลาดเพลงนี้เป็นอันขาดเพราะถึงเพลงจะเศร้าแต่จังหวะยังเต้นต่อได้อยู่

อีกเพลงที่ความหมายดีและพลาดไม่ได้ ต้องยกให้หนึ่งในเพลงช้าอย่าง ‘Memories’ ที่มีเนื้อเพลงให้กำลังใจคนฟังถึงความทรงจำที่ผ่านมา เป็นความทรงจำที่หวนให้นึกถึงคนๆ นั้น และทุกคนก็มีความเจ็บปวดเป็นบางครั้งแต่เดี๋ยวทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ ความหมายลึกซึ้งขนาดนี้แฟนเพลงคนไหนยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไปร้องเพลงนี้ถือว่าพลาด!! ปิดท้ายด้วยเพลงฮิตตลอดกาลอย่าง ‘Girls like you’ ที่ใครๆ ก็รู้จัก เป็นเพลงที่ฟังง่าย ความหมายดีอีกเพลงหนึ่งที่แฟนๆ หลายคนต่างร้องตามกันได้อย่างคล่องแคล่วอยู่แล้ว เตรียมไปฟังสดๆ กับคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้เลย

ขนาดแค่ไม่กี่เพลงที่พูดไปยังน่าตื่นเต้นขนาดนี้ แล้วถ้าได้ฟังทั้งเซ็ตลิสต์จะฟินขนาดไหน เริ่มนับถอยหลังรอแล้วหรือยังกับ Maroon 5 Asia 2025 - Bangkok แล้วเจอกันในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า บัตรยืนยังมีจำหน่ายในจำนวนจำกัด ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และเว็บไซต์ thaiticketmajor.com

บุรินทร์ - ลีเดีย - บอย พีซเมคเกอร์ กับคอนเสิร์ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Melody by the Sea”

29 ม.ค. 2568, 12:05 น.

ชวนคนรักทะเลมาพักผ่อนและเพลิดเพลินกับเสียงเพลงจากศิลปินระดับแนวหน้า นำโดย บุรินทร์ ลีเดีย และ บอย พีซเมคเกอร์ 7-9 มีนาคม นี้

อนันตรา เกาะยาวใหญ่ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่าส์ (Anantara Koh Yao Yai Resort & Villas) รีสอร์ทหรู ระดับอัลตร้าลักชูรีสำหรับคู่รัก ครอบครัว และผู้รักสุขภาพ ชวนคนรักทะเลและเสียงเพลงมาร่วมฉลองครบรอบ 1 ปีของรีสอร์ท กับคอนเสิร์ตริมทะเลสุดชิล “Melody by the Sea” นำโดยศิลปินชั้นนำของเมืองไทย บุรินทร์ ลีเดีย และ บอย พีซเมคเกอร์ ซึ่งนอกจากจะได้สนุกกับการแสดงสดและได้ใกล้ชิดกับศิลปินดังแบบเอ็กซ์คลูซีฟแล้ว แขกผู้เข้าพักยังจะได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนสุดหรู ท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงามของทะเลอันดามัน กับแพ็คเกจห้องพักสุดพิเศษ 3 วัน 2 คืน สำหรับวันที่ 7-9 มีนาคม พ.ศ. 2568 นี้

นับตั้งแต่เปิดให้บริการในช่วงปลายปี พ.ศ. 2566 อนันตรา เกาะยาวใหญ่ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่าส์ ได้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนในฝันของนักเดินทาง โดยตัวรีสอร์ทตั้งอยู่บนพื้นที่ธรรมชาติอันสวยงามกว่า 68 ไร่ รายล้อมด้วยภูเขาและแมกไม้ พร้อมชายหาดส่วนตัวที่ทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตร โดยสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายโดยเรือสปีดโบ๊ต เพียง 45 นาที จากภูเก็ต และ 20 นาที จากกระบี่ อนันตรา เกาะยาวใหญ่ มีห้องพักให้บริการทั้งในแบบ ห้องสวีท, ห้องแฟมิลี่ สวีท, พลู วิลล่า, เวลเนส ลากูน วิลล่า และเพนท์เฮาส์ ขนาดเริ่มต้นที่ 90 ตารางเมตร ไปจนถึง 366 ตารางเมตร รวมทั้งหมด 148 ห้อง โดยห้องแบบวิลล่าและเพนท์เฮาส์ยังมาพร้อมบริการบัตเลอร์ส่วนตัว ที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำริมทะเลสำหรับผู้ใหญ่ สวนน้ำขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว รวมถึงคิดส์คลับที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้อีกด้วย

นอกจากนี้แขกผู้เข้าพักสามารถสนุกกับกิจกรรมมากมายทั้งภายในและภายนอกรีสอร์ท ไม่ว่าจะเป็น เดินเล่นสูดอากาศสดชื่นชมธรรมชาติ ชมความน่ารักและวิถีชีวิตของควายไทย ออกกำลังกายในฟิตเนสที่ครบครันไปด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Technogym หรือยืดเหยียดร่างกายกับโยคะฟลาย นั่งรถไซด์คาร์พ่วงข้างออกไปชมสวนยางพารา ออกไปท่องทะเลสู่เกาะห้องที่เปรียบเสมือนอัญมณีล้ำค่าแห่งท้องทะเลอันดามัน หรือล่องเรือยอชท์ My Sky สุดหรู ขนาด 55 ฟุต ที่ยากจะหาใครเทียบได้

แพ็คเกจฉลองครบรอบ 1 ปี Melody by the Sea ให้แขกได้เต็มอิ่มกับการพักผ่อนและกิจกรรมในช่วงสุดสัปดาห์ 3 คืน 2 วัน ในวันที่ 7-9 มีนาคม 2568 โดยรวมห้องพัก ที่มีให้เลือกตั้งแต่ห้อง ดีลักซ์ สวีท, แฟมิลี่ ซีวิว สวีท, แฟมิลี่ สวีท พูล แอคเซส, แกรนด์ แฟมิลี่ สวีท พูล แอคเซส และ ลากูน พลู วิลล่า พร้อมอาหารเช้า สปีดโบ๊ตไป-กลับระหว่างท่าเรือแหลมทรายและรีสอร์ท รวมถึงการแสดงคอนเสิร์ต และโชว์ไฟสุดตระการตาในค่ำคืนของวันที่ 8 มีนาคม ในราคาสุดพิเศษเริ่มต้นที่ 28,000++ ถึง 66,000++ บาท

อนันตรา เกาะยาวใหญ่ ยังจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากคอนเสิร์ต Melody by the Sea ที่จะจัดขึ้น ณ The Beach ของรีสอร์ท ในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม ไปบริจาคสมทบทุนให้กับโครงการก่อสร้างอาคารรังสีรักษา โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อร่วมมอบชีวิตใหม่ให้กับผู้ป่วยมะเร็งอีกด้วย

Lady Gaga เตรียมปล่อยอัลบั้มใหม่ MAYHEM 7 มี.ค. พร้อมชมเอ็มวีเพลงใหม่ 2 ก.พ. นี้

28 ม.ค. 2568, 16:00 น.

Lady Gaga (เลดี้ กาก้า) ป็อปไอคอน Mother Monster เจ้าของ 13 รางวัลแกรมมี่ ไม่ปล่อยให้เหล่า Little Monsters ทั่วโลกต้องรอคอยกันอีกต

โดยจะใช้ชื่อว่า MAYHEM โดยมีกำหนดปล่อยให้แฟนๆ ได้ฟังกัน 7 มีนาคมนี้ ลัคกี้นัมเบอร์เซเว่นสุดๆ ข่าวดี! สามารถพรีออเดอร์อัลบั้ม MAYHEM ได้แล้ววันนี้ ที่ umusic.co.th

นอกจากนี้ Lady Gaga ยังเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการปล่อยมิวสิควิดีโอเพลงใหม่ ซิงเกิลที่ 3 ต่อจากซิงเกิลสุดปังก่อนหน้าทั้ง “Die With A Smile (ft. Bruno Mars)” และ “Disease” ในช่วงเบรกโฆษณาระหว่างงานประกาศรางวัล Grammy Awards 2025 ในคืนวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้อีกด้วย (งานประกาศรางวัลเริ่มวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลา 8.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย)

Lady Gaga พูดถึงอัลบั้ม MAYHEM ว่า “อัลบั้มนี้เริ่มต้นจากการที่ตัวฉันเองต้องต่อสู้กับความกลัวกับการต้องกลับไปเผชิญหน้ากับดนตรีป็อปในช่วงแรกๆ ที่แฟนๆ ของฉันรักมาก” ถึงแม้ MAYHEM จะไม่ได้เป็นอัลบั้มที่พาแฟนๆ ทุกคนกลับไปหางานเพลงสไตล์เก่าๆ แบบที่เธอเคยทำเหมือนเดิมทุกอย่างขนาดนั้น แต่เป็นอัลบั้มที่หยิบเอาตัวตนของเธอในสมัยก่อนมาต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ ผนวกรวมกับดนตรีสไตล์อื่นๆ ที่เธอได้เรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ตลอดระยะเวลาที่เธอเป็นศิลปินมาอย่างยาวนานหลายปี จึงทำให้ MAYHEM เป็นอัลบั้มที่ทั้งสดใหม่ และกล้าที่จะแสดงออกในทุกด้านของการเป็นศิลปินของเธออย่างแท้จริง

Lady Gaga อธิบายถึงขั้นตอนในการเรียบเรียงความคิดสุดครีเอทีฟลงไปในผลงานของเธอในครั้งนี้ว่า “เหมือนกับการประกอบร่างของเศษกระจกที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ที่ถึงแม้จะไม่สามารถเก็บเศษเสี้ยวทุกชิ้นประกอบกลับเข้าไปใหม่ได้เหมือนเดิมเป๊ะขนาดนั้น แต่ก็ได้สร้างสรรค์ผลงานใหม่ที่สวยงามในรูปแบบใหม่ของมันเอง”

อัลบั้ม MAYHEM มีทั้งหมด 14 เพลง นอกจากจะมีเพลงที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ที่ดังไปทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่าง “Die With A Smile” และ “Disease” ที่โปรดิวซ์โดย Lady Gaga, Michael Polansky และ Andrew Watt แล้ว เพลงที่เหลือในอัลบั้มยังได้โปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงฝีมือเยี่ยมอย่าง Andrew Watt, Cirkut, Gesaffelstein และตัว Lady Gaga เองมาสร้างสรรค์ผลงานสุดมาสเตอร์พีซในครั้งนี้อีกด้วย

ก่อนที่พวกเราจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้ชมมิวสิควิดีโอเพลงใหม่ของเธอกันในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ Lady Gaga ยังเตรียมขึ้นแสดงใน FireAid คอนเสิร์ตการกุศลที่ช่วยระดมทุนให้กับผู้ที่สูญเสียจากเหตุไฟป่าที่แอลเอ ร่วมกับศิลปินชื่อดังอย่าง Billie Eilish, Olivia Rodrigo, Stevie Nicks และ Joni Mitchell ในวันที่ 30 มกราคมนี้ ส่วนในวันที่ 17 มีนาคม Lady Gaga ได้รับเชิญให้ขึ้นรับรางวัล 2025 iHeartRadio Innovator Award ในงานประกาศรางวัล iHeartRadio Music Awards รวมถึงการขึ้นแสดงเป็นศิลปินเฮดไลน์ของเทศกาลดนตรี Coachella ที่ทุกคนรอคอย ในวันที่ 11 และ 18 เมษายนนี้ด้วย

หากจะบอกว่าปี 2025 นี้จะเป็นปีที่ป็อปสตาร์สาว Lady Gaga จะได้กลับมาเฉิดฉาย และครองทุกพื้นที่ในวงการเพลงป็อปอีกครั้งก็คงจะไม่ผิดนัก เหล่า Little Monsters เตรียมตัวรับแรงกระแทกกันได้เลย

(Photo Credit: Frank LeBon)

หล่อ น่ารัก ใกล้ชิดสุดๆ ! Elliot James Reay เจ้าของเพลงไวรัล “I Think They Call This Love” เยือนไทยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

28 ม.ค. 2568, 14:30 น.

Elliot James Reay หนุ่มหล่อชาวอังกฤษวัย 22 ปีที่ทำเพลงแนวเรโทรยุค '50s-'60s ได้อยู่หมัด ครองใจแฟนคลับทุกเจน เจ้าของเพลงไวร

วันแรก 22 มกราคม 2025 กับงาน Elliot James Reay 1st Fansign in Thailand ที่ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน ที่ได้แฟนๆ ผู้โชคดีและผู้ร่วมงานกว่า 100 คนมาชมการแสดง ได้ฟังเสียงร้องของ Elliot James Reay กันถึง 3 เพลง ทั้ง “I Think They Call This Love”, “Boy In Love” และเพลงใหม่ที่ยังไม่ได้ปล่อยให้ฟังกันอย่างเป็นทางการอย่าง “Daydreaming” เคลิบเคลิ้มกันไปทั้งฮอลล์ จากนั้นผู้โชคดีก็ได้พูดคุยอย่างเป็นกันเอง ขอลายเซ็น และถ่ายรูปเซลฟี่กับหนุ่ม Elliot อย่างใกล้ชิดทีละคน แฟนคลับก็ฝากของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้กับมือ เรียกได้ว่า Exclusive กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ทำเอาทั้งแฟนคลับทั้งศิลปินยิ้มไม่หุบกันตลอดงาน

วันที่สอง 23 มกราคม 2025 Elliot James Reay ได้พูดคุยให้สัมภาษณ์กับคลื่นวิทยุในไทย ทั้ง MET 107 และ Eazy FM 102.5 ถึงแรงบันดาลใจในการทำเพลงแนว '50s-'60s ที่เขาเติบโตมากับดนตรีแนวนี้ตั้งแต่เด็กๆ ความประทับใจที่มีต่อ 7-Eleven ของเมืองไทยที่มาไทยทีไรก็ต้องแวะตลอด รวมถึงความรู้สึกที่เขาได้กลับมาในเมืองไทยเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่เขาเคยเดินทางมาท่องเที่ยวแบบแบกแพ็กเกอร์มาก่อน สำหรับครั้งนี้ Elliot กล่าวว่า “ผมดีใจที่ได้กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง และประเทศไทยจะเป็นประเทศอันดับ 1 ที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ของผมมาเที่ยวครับ” นอกจากนี้ เขายังฝากข้อความถึงแฟนๆ ชาวไทยเอาไว้ด้วยว่า “ผมดีใจมากๆ และขอบคุณทุกการสนับสนุนจากแฟนๆ ด้วยนะครับ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากขอบคุณต่อหน้าทุกๆ คน ไม่ใช่แค่การพิมพ์หรือผ่านออนไลน์ เพราะการพูดขอบคุณต่อหน้าเป็นสิ่งที่มีความหมายสำหรับผมมากๆ ครับ”

ล่าสุด เพลง “I Think They Call This Love” ยังคงครองอันดับใน Top 10 ของชาร์ตเพลงประจำสัปดาห์ของ Eazy FM เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นอีกด้วย พิสูจน์ถึงความนิยมของเพลงนี้ในประเทศไทยได้เป็นอย่างดีจริงๆ

จากนั้น วันที่ 24 มกราคม 2025 ก็ถึงเวลาของงาน Elliot James Reay the 1st Exclusive Live in Bangkok ที่ The Roof ชั้นดาดฟ้าบรรยากาศดีแดดล่มลมตกของโรงแรม The StandardX ถนนพระอาทิตย์ ที่นอกจากแฟนๆ สื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ ตัวแทนจาก Eazy FM, Apple Music กับ Line Melody และผู้ร่วมงานเกือบ 200 คนจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในตอนเย็น ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าสุดโรแมนติกเหมือนบทเพลงเพราะๆ ของ Elliot James Reay แล้ว แฟนๆ ยังได้เล่นเกมสนุกๆ ลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษจากมือของ Elliot โดยตรงอีกด้วย และไฮไลต์ของงานอย่างการแสดง Showcase ในค่ำคืนนี้ Elliot ก็ร้องเพลงพร้อมเล่นกีตาร์ให้ฟังกันสดๆ มากถึง 6 เพลง นอกจาก “I Think They Call This Love”, “Boy In Love” และ “Daydreaming” แล้ว ยังมีเพลง “I Can’t Stay Away”, “Sweetness” ที่ยังไม่ปล่อยอย่างเป็นทางการ และ “Heartbreak Hotel” ที่เป็นเพลงคัฟเวอร์ของ Elvis Presley ศิลปินในดวงใจของเขาอีกด้วย งานนี้เต็มอิ่มจุใจไปกับเพลงเพราะๆ เสียงนุ่มๆ และบรรยากาศดีๆ กันถ้วนหน้า

เชื่อว่าแฟนๆ หลายคนต้องคิดถึง Elliot James Reay นับวันตั้งตารอคอยที่จะได้ฟังเพลงใหม่จากเขา พร้อมเฝ้ารอวันที่เขาจะกลับมาแสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่ประเทศไทยกันอย่างแน่นอน เพราะด้วยฝีไม้ลายมือในการแต่งเพลงสุดโรแมนติก น้ำเสียงทุ้มนุ่มสุดละมุนสไตล์เรโทร '50s-'60s ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ร้องสดได้ดีเยี่ยม ดนตรี เนื้อเพลง และท่วงทำนองของเพลงเข้าถึงผู้ฟังได้ทุกรุ่นแบบนี้ รับรองว่าเป็นศิลปินอนาคตไกลอีกคนที่น่าจับตามองอย่างมากในปี 2025 นี้อย่างแน่นอน

เสิร์ฟครบทุกโมเมนต์! ฟอส-บุ๊ค นำทีมซีรีส์ “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” EP.14 ในงาน “Perfect 10 Liners Mid Term” ฟูลฟิลใจแฟนๆ

27 ม.ค. 2568, 14:30 น.

ทำถึงครบทุกรสจริงๆ สำหรับซีรีส์สุดปัง “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” ที่กระแสแรงต่อเนื่องไม่มีแผ่ว ฮอตติดเทรนด์ X ทุก EP ทั้งในป

ซีรีส์ที่แฟนๆ ทั้งอินและฟินหนักมาก ตอนนี้เรื่องราวเดินทางมาถึงครึ่งเรื่องแล้ว ทีมนักแสดงสุดฮอต “ฟอส จิรัชพงศ์ ศรีแสง, บุ๊ค กษิดิ์เดช ปลูกผล, เพิร์ธ ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร, แซนต้า พงศภัค อุดมโภชน์, จูเนียร์ ปณชัย ศรีอาริยะรุ่งเรือง, มาร์ค จิรันธนิน ตรัยรัตนยนต์” ถือโอกาสขอบคุณเสียงตอบรับแบบถล่มทลายจัดให้แบบหนักๆ เปิดเวทีความสนุก เสิร์ฟความฟินให้แฟนๆ มาร่วมชม “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” EP.14 ในงาน “Perfect 10 Liners Mid Term” พร้อมด้วยแก๊งค์เพื่อนสุดซี้อย่าง “อู๋ ธนบูรณ์ เกียรตินิรันดร์, บูม ธราธร จันทรวรกาญจน์, มาร์ค ณฐริศร์ วรกรเลิศสิทธิ์, ปูน มิตรภักดี” ที่กอดคอมาร่วมสร้างสีสัน รวมทั้งพูดคุยกับผู้กำกับฯ คนเก่ง “นิว ศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล” พิเศษสุดๆ กับสเปเชียลโชว์สุดเอ็กซ์คลูซีฟดีต่อใจจากเหล่านักแสดง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ณ ชั้น 6 สยามพารากอน โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย Paragon Cineplex

เปิดเวทีต้อนรับแฟนๆ เข้าสู่งาน “Perfect 10 Liners Mid Term” ด้วยโชว์สุดพิเศษชุดใหญ่จากเหล่านักแสดง “ฟอส-บุ๊ค” กับเพลง “ผู้ร้ายปากแข็ง” เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นให้หายคิดถึง ตามด้วย “จูเนียร์-มาร์ค” ในเพลง “รัก” ทำเอาแฟนๆ หลงเสน่ห์ไม่ไหว ไปต่อกับแก๊งค์เพื่อนสุดซี้อย่าง “อู๋-บูม, มาร์ค-ปูน” กับเพลง “เขินให้หน่อย” ปิดท้ายด้วยคู่คิ้วท์ๆ “เพิร์ธ-แซนต้า” ในเพลง “แค่เธอเท่านั้น” จากนั้นพิธีกรอารมณ์ดี “เลโอ โซสเซย์” ชวนนักแสดงทั้งหมดขึ้นพูดคุยบนเวทีถึงความรู้สึกที่ EP13 ขึ้นเทรนด์สูงทะลุไปมากกว่า 1 ล้านเทรนด์ และกระแสตอบรับที่ถล่มทลายตั้งแต่ EPแรก

และงานนี้เดินทางมาถึงครึ่งเรื่องทั้งที “เลโอ” เลยมีเกมเก็บคะแนนสอบ Mid Term จัดฉากมาทดสอบความจำของแต่ละคู่ ว่าคู่ไหนจะมีความเป็นเลิศ เริ่มจาก “เพิร์ธ-แซนต้า” กับฉากใน EP12 ที่ กรรณถามโยธา ให้ตอบคำถามว่าใช่หรือไม่ เพื่อจะทดสอบความรู้สึกของตัวเอง มาถึงคู่ที่ 2 “อู๋-บูม” น้องเก้ากับพี่วา กับคำถามสุดหินให้ตอบว่ามีหนังสือวางอยู่บนโต๊ะกี่เล่ม คู่ที่ 3 “จูเนียร์-มาร์ค” ข้อนี้ค่อยๆ เปิดจิ๊กซอร์ให้ดูทีละชิ้น แล้วทายว่าเหตุการณ์นี้เกิดอะไรขึ้น ส่วนคู่ที่ 4 “มาร์ค-ปูน” ให้ฟังเสียงโดยไม่เห็นภาพ ใช้ความสามารถทางการได้ยิน จับเรื่องราวให้ได้ มาถึงคู่สุดท้าย “ฟอส-บุ๊ค” โจทย์คือให้ “บุ๊ค” ตอบว่าช่วงที่เสียง หายไป “ฟอส” พูดว่าอะไร จากนั้น “เลโอ” เชิญผู้กำกับฯ “นิว” ขึ้นมาร่วมพูดคุยเบื้องลึกเบื้องหลังสนุกๆ พร้อมให้ คะแนนความฟิน ก่อนจะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับแฟนๆ ที่มาให้กำลังกันแน่นโรง

เข้าสู่ช่วงที่ทุกคนรอคอยกับการดู EP14 “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” ไปพร้อมๆ กัน ท่ามกลาง ความฟินฉ่ำกับจักรวาลความสัมพันธ์ของนักแสดงแต่ละคู่ตลอดที่ชมซีรีส์ เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นโรง จากนั้นเหล่านักแสดงกอดคอโชว์เพลง “วันนี้ Perfect” ส่งแฟนๆ กลับบ้าน ท่ามกลางรอยยิ้มและความอบอุ่นสุดประทับใจ

ติดตามชมซีรีส์ “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” ทุกวันอาทิตย์เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 และ WeTV เท่านั้น และติดตามชมภาพความประทับใจงาน “Perfect 10 Liners Mid Term” ได้ทาง www.facebook.com/gmmtvofficial & Instagram & X & TikTok & YouTube & Weibo : GMMTV

คอนเสิร์ต Gracie Abrams ย้ายฮอลล์ใหม่! ใหญ่กว่าเดิม ที่ UOB LIVE เปิดจำหน่ายบัตรเพิ่ม 31 ม.ค. นี้

27 ม.ค. 2568, 12:17 น.

จากกระแสตอบรับอันล้นหลามของแฟนๆ ชาวไทย Gracie Abrams ประกาศย้ายสถานที่จัดคอนเสิร์ต ‘Gracie Abrams: The Secret of Us Tour in Bangko

ในสเกลใหม่ ยิ่งใหญ่ขึ้น เดินทางสะดวกเหมือนเดิม ที่ยูโอบี ไลฟ์ เอ็มสเฟียร์ บัตรราคาเริ่มต้น 2,500 บาท เปิดจำหน่ายวันศุกร์ที่ 31 มกราคมนี้ ที่ thaiticketmajor.com รายละเอียดเพิ่มเติมที่ livenationtero.co.th

Gracie Abrams (เกรซี เอบรามส์) นักร้อง-นักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เจ้าของเพลงฮิตติดท็อปบิลบอร์ดชาร์ต ‘That’s So True’ (แดดส์ โซ ทรู) และผู้ได้รับการเสนอชื่อรางวัลแกรมมี่ หนึ่งในผู้ที่ได้รับการพูดถึงในวงการเพลงมากที่สุดในปีที่ผ่านมา Gracie Abrams เริ่มต้นเส้นทางสายศิลปินในปี 2562 ด้วยสองซิงเกิ้ล ‘Mean It’ (มีน อิท) และ ‘Stay’ (สเตย์) ปล่อยอีพีอัลบั้มแรก ‘minor’ (ไมเนอร์) ในปี 2563 ประกอบไปด้วยเพลงฮิตอย่าง ‘21’ (ทเวนตี้วัน), ‘I miss you, I’m sorry’ (ไอ มิส ยู ไอม์ ซอรี่) และ ‘Long Sleeves’ (ลอง สลีฟส์) และในปี 2564 จนถึง 2566 Gracie Abrams ได้ปล่อยอีพีอัลบั้มอย่าง ‘This Is What It Feels Like’ (ดิส อิส ว้อท อิท ฟีลส์ ไลก์) และ ‘Good Riddance’ (กู้ด ริดเดนซ์) โดยมาพร้อมกับทัวร์คอนเสิร์ตในอเมริกาเหนือที่สร้างสถิติโซลเอาท์ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เปิดขายบัตร ตลอดจนพาเธอขึ้นแท่นเป็นแขกรับเชิญพิเศษ (Opening Act) บนเวทีคอนเสิร์ตระดับโลกอย่าง The Eras Tour (ดิ อิราส์ ทัวร์) ของ Taylor Swift (เทย์เลอร์ สวิฟต์) ที่แวนคูเวอร์และโทรอนโต แคนาดาในปี 2567

‘The Secret of Us’ (เดอะ ซีเคร็ต ออฟ อัส) อัลบั้มมาสเตอร์พีซล่าสุดของ Gracie ซึ่งปล่อยเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา ยังคงคอนเซ็ปต์มู้ดดี้ป็อปด้วยดนตรีโฟล์กบวกกับเนื้อเพลงสะเทือนอารมณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ อัลบั้มนี้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับเธอด้วยการขึ้นสู่อันดับ 1 ชาร์ต Billboard 200 ในสหราชอาณาจักรและเนเธอแลนด์ รวมถึงเป็นอันดับ 2 บนชาร์ต Billboard 200 ในสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก โดยในอัลบั้มนี้ประกอบไปด้วย ‘Close To You’ (โคลส ทู ยู) ซิงเกิ้ล 3 ล้านสตรีมบน Spotify ภายในวันแรก และ ‘I Love You, I'm Sorry’ (ไอ เลิฟ ยู ไอม์ ซอรี่) ทะยานขึ้นเป็นอันดับ 11 ของชาร์ต Spotify ในสหรัฐฯ ‘The Secret of Us (Deluxe)’ อัลบั้มรีแพ็คเกจที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนตุลาคม พร้อมกับแทร็กล่าสุด ‘That’s So True’ (แดดส์ โซ ทรู) สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งด้วยยอดมากกว่า 100 ล้านครั้ง จนขึ้นเป็นอันดับ 1 บนชาร์ต Spotify ในสหรัฐฯ รวมทั้งเป็นอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงในสหราชอาณาจักรต่อเนื่องนานถึง 2 สัปดาห์

‘The Secret of Us Tour’ คอนเสิร์ตที่ตอกย้ำความมาแรงของเธอคนนี้ ด้วยสถิติโซลเอาท์ในอเมริกา รวมถึง ‘Gracie Abrams: The Secret of Us Tour in Bangkok’ ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 ซึ่งโซลเอาท์ภายในวันแรกที่เปิดขายรอบบุคคลทั่วไป โดยประกาศย้ายสถานที่จากสามย่าน มิตรทาวน์ ฮอลล์ เป็นยูโอบี ไลฟ์ เอ็มสเฟียร์ บัตรราคา 2,500 บาท สำหรับผู้ที่ซื้อบัตรแล้ว สามารถใช้บัตรเดิมในการเข้างาน ใครยังไม่มีบัตร ซื้อพร้อมกันเวลา 10.00 น. วันศุกร์ที่ 31 มกราคมนี้ ที่ thaiticketmajor.com

กรณีผู้ซื้อบัตรไม่สามารถเข้าร่วมงานในสถานที่ใหม่ได้ สามารถขอรับเงินคืนได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ 11 สาขาหลัก ในวันที่ 31 มกราคม ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2568 ในวันและเวลาทำการ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน thaiticketmajor.com โทร 02 262 3456 หรือที่อีเมล cs@thaiticketmajor.com

พี่แจ็คไม่อ่อนโยนเลย! "แจ็คสัน หวัง" ร่วมงานแฟชั่นโชว์ Louis Vuitton Men’s Fall-Winter 2025

23 ม.ค. 2568, 11:10 น.

ดีกรีความฮอตพุ่งทะยาน ออร่าความหล่อสั่นสะเทือนปารีสแฟชั่นวีค สำหรับศิลปินระดับโลก “แจ็คสัน หวัง” (Jackson Wang) ที่ได้รับเชิญให้เข

ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Louis Vuitton โดยนับตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2023 นี่ถือเป็นครั้งที่ 5 ที่ แจ็คสัน หวัง ได้ถูกเชิญให้มาอยู่บนรันเวย์ของ Louis Vuitton ในงาน Paris Fashion Week

ในงานโชว์ครั้งนี้ แจ็คสัน หวัง โดดเด่นด้วยคาร์ดิแกนปักลายสีดำของ Louis Vuitton ที่สะท้อนถึงความสร้างสรรค์และความล้ำสมัยในสไตล์โมเดิร์นของแบรนด์ พร้อมเพิ่มเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาให้เปล่งประกายมากยิ่งขึ้น นอกจากช่วงเวลาที่น่าจดจำนี้ แจ็คสัน หวัง ยังได้เปิดตัวการร่วมงานกับ Nike & Jordan ในฐานะแอมบาสเดอร์ระดับโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จและความยิ่งใหญ่ในบทบาทใหม่ การปรากฏตัวของเขาในงาน Paris Fashion Week บ่อยครั้ง ถือเป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่าง แจ็คสัน หวัง และ Louis Vuitton รวมถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของเขาในเวทีระดับโลก

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นทั่วโลก การปรากฏตัวของ แจ็คสัน หวัง ยังคงเป็นแรงบันดาลใจและเป็นมาตรฐานแห่งสไตล์ที่น่าจับตามอง เราตั้งตารอที่จะได้เห็นผลงานสร้างสรรค์และความน่าตื่นเต้นที่แจ็คสัน หวัง จะนำเสนอในปี 2025

โดยก่อนเข้าร่วมงาน “แจ็คสัน หวัง” ได้เผยให้เห็นถึงการเตรียมตัวอย่างเข้มข้นสำหรับการปรากฏตัวในงาน Louis Vuitton 2025 Fall/Winter Men’s Show ที่ Paris Fashion Week จากภาพทีเซอร์ที่ทีมงานปล่อยออกมา บ่งบอกถึงการเตรียมตัวอย่างพิถีพิถันตั้งแต่ช่วงแรกๆ โดยภาพถ่ายทอดความเซ็กซี่และความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม แจ็คสันทุ่มเทอย่างเต็มที่ในกระบวนการเตรียมตัวนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบของตัวเองในงานโชว์ Louis Vuitton ในค่ำคืนนั้น ซึ่งสร้างความคาดหวังอย่างสูงต่อการแสดงอันน่าทึ่งในงานแฟชั่นอันทรงเกียรตินี้

"ความอบอุ่นของคนที่นี่ (ประเทศไทย) ทำให้รู้สึกเหมือนบ้าน" บทสัมภาษณ์พิเศษ wave to earth วงเคอินดี้ที่คนไทยรัก

16 ม.ค. 2568, 11:00 น.

TTM VARIETY มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษพูดคุยอุ่นเครื่องก่อนที่จะมาเจอกันใน wave to earth 0.03 World Tour in Bangkok

‘wave to earth’ (เวฟ ทู เอิร์ธ) ศิลปินอินดี้จากประเทศเกาหลีใต้ อยู่ภายใต้สังกัดค่าย Wavy ประกอบด้วย 3 สมาชิกปัจจุบัน ได้แก่ แดเนียล คิม (Daniel Kim) ตำแหน่งนักร้องนำ, ชิน ดองกยู (Shin Donggyu) ตำแหน่งมือกีตาร์ และ ซุนจอง ชา (Soonjong Cha) ตำแหน่งมือเบส เจ้าของบทเพลงฮิตสุดไวรัลอย่าง "bad" นอกจากนั้นยังมีเพลงเพราะๆ ถูกจริตแฟนเพลงชาวไทยอีกเพียบ อาทิ seasons , Love , Peach eyes , Light , annie.

TTM : ปี 2025 ของ wave to earth แฟนๆ จะได้พบกับอะไรบ้าง?

wave to earth : สามารถตั้งตารอที่จะได้ฟังอัลบั้มใหม่ของเราเป็นครั้งแรกได้เลย ห้ามพลาดการแสดงสดของเรานะ!

TTM : เราทราบมาว่า "peach eyes" จากอัลบั้ม 0.1 flaws and all. ได้แรงบันดาลใจจากแฟนเพลงไทย แล้วอัลบั้มล่าสุด play with earth! 0.03 ได้รับแรงบันดาลใจจากอะไรบ้าง มีเพลงไหนอยากแนะนำแฟนชาวไทยเป็นพิเศษมั้ย

wave to earth : สำหรับอัลบั้มล่าสุดนี้ เราเน้นไปที่การสำรวจความรู้สึกนึกคิดภายในใจของพวกเรา ถ้าจะพูดถึงแรงบันดาลใจ มันคงเป็นตัวเราเอง เพราะฉะนั้นผมขอแนะนำเพลง 'Slow Dive'

TTM : พวกคุณรู้ใช่มั้ยว่า wave to earth เป็นวง k-indie ที่คนไทยรักมากอีกหนึ่งวง คิดว่าเพราะอะไร ตัวตนของคุณ เพลงของคุณ

wave to earth : บางทีอาจเป็นเพราะพวกเรารักวัฒนธรรมไทยก็ได้นะครับ? (หัวเราะ)

TTM : "กรุงเทพฯ รู้สึกเหมือนบ้านเสมอ" คุณเคยพิมพ์ไว้แบบนี้ในคอนเสิร์ตครั้งก่อนที่มาไทย ช่วยอธิบายหน่อยว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น

wave to earth : มันเป็นคอนเสิร์ตต่างประเทศครั้งแรกของเราและการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก ความอบอุ่นของคนที่นี่ทำให้รู้สึกเหมือนบ้าน

TTM : จากวันแรกที่เป็น wave to earth จนถึงตอนนี้ คุณมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้างมั้ย ตัวตนในวันแรกหายไปหรือยัง

wave to earth : มันยังคงเหมือนเดิมครับ พวกเรายังรักกันและทำเพลงด้วยกันต่อไปเรื่อย ๆ

TTM : ความสัมพันธ์ของ wave to earth แน่นแฟ้นกว่า 10 ปี จากวันแรกที่รู้จักกันจนถึงตอนนี้ภูมิใจเรื่องอะไรในตัวเมมเบอร์ของเราที่สุด

wave to earth : ที่จริงแล้วคือวง The Poles ไม่ใช่ wave to earth ที่พวกเราอยู่ร่วมกันมาเกินกว่า 10 ปี สำหรับ wave to earth สิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดคือความผูกพันที่พวกเรามีร่วมกันเหมือนครอบครัว และความจริงที่ว่าผมสามารถทำเพลงกับเพื่อนสนิทแบบนี้ต่อไปได้

อย่าพลาดไปเจอกันใน wave to earth 0.03 World Tour in Bangkok ใครยังไม่มีบัตร สามารถซื้อได้ตอนนี้ที่ www.thaiticketmajor.com และ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา

ชมฟรีตลอดงาน! "STREET OF THE FUTURE" 18-19 ม.ค. นี้ ณ สยามสแควร์

15 ม.ค. 2568, 17:35 น.

แฟน ๆ เตรียมฟินกับงาน กับงานของโลกคริปโตใหญ่ใจกลางสยามสแควร์ "STREET OF THE FUTURE" นำเสนอโดย BINANCE TH by Gulf Binance

ในงานเรามี Speaker ระดับโลกมาให้ความรู้เรื่องรวมถึงทิศทางการเติบโตของโลกคริปโต อีกทั้งยังมุมมองต่างๆ จากเจ้าของโปรเจกต์ Blockchain ระดับโลกพร้อมขนทัพศิลปินตัวท็อปของวงการมาร่วมโชว์ให้ได้ชมกันแบบฟรี ๆ กับโซน FUTURE BEATS (BLOCK K) สยามสแควร์ วันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2568 พบกับ “BNK48” (Pancake/Arlee/Marine/Hoop/Jew/Palmmy) เวลา 17:30-18:30 น. / “DAOUxOFFROAD” ต้าห์อู๋-ออฟโรด เวลา 18:45-19:45 น. / “Violette Wautier” วี วิโอเลต เวลา 20:00 – 21:00 น. และ วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 พบกับ “PERSES” เวลา 17:30-18:30 น. / “PROXIE” เวลา 18:45-19:45 น. / “BOWKYLION” โบกี้ไลอ้อน เวลา 20:00 – 21:00 น.

โดยงานจัดเพียง 2 วันเท่านั้น! 18-19 มกราคม 2568 เริ่มตั้งแต่ 10:00 น. เป็นต้นไป ณ สยามสแควร์ เตรียมล็อคคิวแล้วมาเจอกันได้เลย ก่อนเข้างานแฟน ๆ อย่าลืม Download App BINANCE TH เพื่อรับรางวัลสุดพิเศษ! bit.ly/try-BinanceTH และลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้แล้ววันนี้ที่ https://lu.ma/883jke53 แล้วมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่น่าประทับใจนี้ด้วยกัน ติดตามรายละเอียดงานต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Binance TH

"ผมจะตั้งตารอวันที่จะได้พบ ONEDOOR นะครับ" BOYNEXTDOOR ส่งคลิปอ้อนพร้อมเจอแฟนชาวไทย 29 มี.ค.นี้!

15 ม.ค. 2568, 17:00 น.

6 หนุ่มบอยกรุ๊ปสุดฮอต BOYNEXTDOOR ทั้ง “ซองโฮ (SUNGHO), รีอู (RIWOO), แจฮยอน (JAEHYUN), แทชาน (TAESAN), อีฮัน (LEEHAN)” และ “อุนฮั

แน่นอนว่า “ONEDOOR” (วันดอร์ – ชื่อแฟนคลับ) ที่เมืองไทยนับถอยหลังรออย่างใจจดใจจ่อ ทำเอาทั้ง 6 หนุ่มก็แทบจะอดใจไม่ไหวเหมือนกัน ที่จะได้มาเจอกับแฟนๆ พวกเขาเลยขอส่งตรงคลิปสุดพิเศษมาทักทายเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนจะได้ไปเก็บเกี่ยวโมเมนต์ในคอนเสิร์ตครั้งนี้!!

“Who’s There? BOYNEXTDOOR สวัสดีครับ พวกเรา BOYNEXTDOOR, ONEDOOR ไทยทุกคน วันนี้พวกเรามีข่าวดีมากบอกครับ พอจะเดาออกมั้ยครับ? เรื่องอะไรน้า…น่าจะเคยได้ยินแล้วนะ พวกเราตื่นเต้นมากๆ เลยครับ ในที่สุดพวกเราก็จะได้พบกันในคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของพวกเราแล้วนะครับ ในวันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2568 ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี มาพบกันที่งาน BOYNEXTDOOR TOUR ‘KNOCK ONVol.1’ IN BANGKOK พวกเราจะเตรียมโชว์ใหม่ๆ โชว์สนุกๆ มากมายไปแสดงให้พวกคุณได้ชมกัน ผมจะตั้งตารอวันที่จะได้พบ ONEDOOR นะครับ แล้วเจอกันนะครับ ONEDOOR ไทย พวกเรา BOYNEXTDOOR ครับ บ๊าย บาย คร้าบบบ~”

สำหรับงาน “BOYNEXTDOOR TOUR ‘KNOCK ONVol.1’ IN BANGKOK” จะเปิดจำหน่ายรอบ ONEDOOR MEMBERSHIP PRESALE ในวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. - 18.00 น. เท่านั้น ผ่านทาง www.thaiticketmajor.com เท่านั้น และเปิดจำหน่ายบัตรรอบทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป ผ่านทางเคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.com บัตร VIP PACKAGE ราคา 6,500 บาท (บัตรยืน) / 5,800 บาท (บัตรยืน และนั่ง) / 4,800 บาท / 3,800 บาท และ 2,800 บาท โดยบัตรทุกราคาบัตรจะได้รับ Official Poster และบัตรแข็งที่ระลึก นอกจากนี้ยังจะอัดแน่นไปด้วยความพิเศษอีกเพียบ!!

เหล่า “ONEDOOR” ไม่ควรพลาดคอนเสิร์ตในครั้งนี้!! หนุ่มๆ BOYNEXTDOOR รอที่จะขนทุกความพิเศษมาเสิร์ฟให้แฟนๆ ทุกคนแล้ว รวมถึงผู้จัดอย่าง “ไอมี่ไทยแลนด์” (iMe Thailand) ก็พร้อมแล้วที่จะเตรียมมอบประสบการณ์อันน่าจดจำ และความประทับใจในทุกโมเม้นท์สุดพิเศษให้กับทั้งศิลปิน และแฟนคลับทุกคน เพราะฉะนั้นจับจองบัตรให้ได้ แล้วไปพบกันที่งานนี้ ติดตามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง Facebook @imethailand, IG และ Twitter @ime_th

‘NCT WISH’ พร้อมเจอแฟนชาวไทยในงานแฟนไซน์และมีตแอนด์กรี๊ดสุดพิเศษ 18 ม.ค. นี้

14 ม.ค. 2568, 14:30 น.

เหล่า NCTzen ชาวไทยเตรียมนับถอยหลัง! ต้อนรับ ‘NCT WISH’ บอยกรุ๊ปน้องใหม่มาแรงแห่งค่าย SM Entertainment ที่ถูกขนานนามว่าเป็น ‘ไอคอน

‘NCT WISH’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “WISH for Our WISH” ในงาน ‘THE DnD x NCT WISH ‘STEADY’ FANSIGN & MEET ‘N GREET in BANGKOK’ กับกิจกรรมแฟนไซน์และมีตแอนด์กรี๊ดสุดพิเศษของ NCT WISH ครั้งแรกในไทย จัดโดย บริษัท The Dream and Destiny (The DnD) และพาร์ทเนอร์อย่าง MI GROUP และ BEE GOOD ENTERTAINMENT ในวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2568 เวลา 12.30 น. เป็นต้นไป ณ Siam Paragon ชั้น 1 ลาน Fashion Hall ซึ่งงานนี้ NCT WISH เตรียมตัวมาสร้างความประทับใจกับกิจกรรมสุดพิเศษ พร้อมฝากคลิปมาอ้อนแฟน ๆ ก่อนเจอกันด้วย

โดยในกิจกรรมแจกลายเซ็นแฟน ๆ จะได้พบกับความน่ารัก สดใส ของ NCT WISH ที่จะมาพูดคุยเกี่ยวกับผลงาน “Steady” ที่สร้างสถิติใหม่ที่ดีที่สุดของพวกเขา ด้วยยอดสั่งซื้ออัลบั้มมินิอัลบั้มชุดที่ 1 “Steady” ล่วงหน้า ทะลุ 800,000 ชุด พร้อมพูดคุยและตอบคำถามสุดพิเศษ รวมถึงไฮไลท์สำคัญสำหรับผู้โชคดีที่ได้รับสิทธ์ Fansign , Group Photo และ Hi-bye กับหนุ่ม ๆ NCT WISH แบบใกล้ชิดสุด ๆ อีกด้วย

มาร่วมสัมผัสความน่ารัก สดใสและสร้างโมเมนต์ความทรงจำดี ๆ กับหนุ่ม ๆ NCT WISH ในงาน ‘THE DnD x NCT WISH ‘STEADY’ FANSIGN & MEET ‘N GREET in BANGKOK’ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมนี้ได้ทาง ‘THE DnD’ Official Account ทุกแพลทฟอร์ม

นิทรรศการเจบีน่ารักมาก! “Siam Center X JAY B The 2nd Exhibition in Bangkok: RE LOAD”

14 ม.ค. 2568, 12:00 น.

“JAY B” (เจบี) ศิลปินเคป็อบชื่อดังจากวง GOT7 ศิลปินมากความสามารถที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จัดนิทรรศการ “Siam Center X JAY B

เพื่อส่งต่อความคิดถึงจาก JAY B สู่แฟนคลับผ่านภาพและเสียงที่เต็มไปด้วยความทรงจำ พร้อมเปิดพื้นที่ให้แฟนๆ ได้แชร์ช่วงเวลาพิเศษร่วมกัน และส่งความคิดถึงกลับไปถึงศิลปิน ระหว่างวันที่ 13 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ 2568 ณ เอเทรี่ยม1 ชั้น G สยามเซ็นเตอร์

นิทรรศการนี้เติมเต็มความอบอุ่นให้เหล่าแฟนคลับและอากาเซ่หัวใจฟู ในคอนเซ็ปท์ RE LOAD ที่สื่อถึงการหวนกลับคืนสู่สิ่งที่รักของศิลปินหนุ่มมากความสามารถอย่าง “JAY B” (เจบี) หลังจากห่างหายไปช่วงหนึ่ง นิทรรศการครั้งนี้จึงเป็นทั้งการตอบแทนแฟนๆ ที่เฝ้ารอการกลับมาของเขา และเป็นการเปิดพื้นที่แห่งความทรงจำและความคิดถึงระหว่างเขาและแฟนๆ

ก้าวเข้ามาในพื้นที่ของเจบี พบกับไฮไลท์เรื่องราวสตอรี่บอร์ดจากมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ล่าสุดของเขา ทั้งพรอพจากใน MV ภาพมุมต่างๆใน MV รวมไปถึงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวที่ชวนให้แฟนๆ นึกถึงตัวตนของเจบี ศิลปินหนุ่มผู้รักการถ่ายรูป และเสียงเพลง ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง กล้องฟิล์ม หรือเครื่องเล่นเทป

เข้าสู่โซนแรก Familiar place พื้นที่ที่บ่งบอกถึงความเป็นเจบีที่แฟนตัวจริงต้องคุ้นเคยอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น Film camera lover corner ภาพถ่ายศิลปินหลากหลายสไตล์ ทั้งภาพฟิล์ม ภาพขาวดำ และ พร้อมฟินไปกับ Cat room corner ที่เต็มไปด้วยรูปถ่ายของน้องโนรา, น้องเค้ก และน้องเบลลึ แมวของศิลปินหนุ่มในอริยาบทน่ารักน่าชัง มุม Recording studio corner ที่ชวนอากาเซ่มาสัมผัสบรรยากาศการทำเพลงแบบคนเบื้องหลัง และมุม Vinyl corner แผ่นไวนิลที่ได้แรงบันดาลใจจากชื่อเพลงในอัลบั้มล่าสุดของ JAY B

ต่อด้วยโซน Memories & Melodies มุม Sound about และ Phone Booth ที่ JAY B ตั้งใจเตรียมไว้เพื่อสื่อสารกับแฟนๆ ด้วยตนเองผ่านข้อความเสียงสุด Exclusive ที่ตั้งใจบันทึกมาเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของเขาถึงแฟนๆ

โซน Hide n Seek เปิดประตูตู้ล็อกเกอร์เพื่อค้นพบตัวตนอีกมุมนึงของ JAY B ทั้งสิ่งของและ ภาพถ่ายที่ตั้งใจเตรียมมาเพื่อแฟนๆ โดยเฉพาะ และ จุดเช็คอินแสดงตัวในฐานะ “เพื่อนรัก” ที่คิดถึงเจบีไม่แพ้ใครที่ Thermal photobooth กิมมิกสุดเก๋ที่เปิดโอกาสให้แฟนๆได้มาบันทึกความทรงจำ และเขียนความรู้สึกฝากไว้ถึงนักร้องหนุ่มในดวงใจ

โซน Dark Room ดื่มด่ำกับบรรยากาศห้องล้างฟิล์ม ความอนาล็อกที่ JAY B หลงใหลพร้อมด้วยมุม Film slide ภาพฉายสุด chic and cool ตามสไตล์ของหนุ่มเจบีในอิริยาบทต่างๆ ที่เชิญชวนให้แฟนๆ ได้มาถ่ายภาพคู่เป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมี Interactive massage wall พื้นที่สำหรับแฟนๆ ที่ให้มาฝากข้อความถึง JAY B กันได้อย่างเต็มที่ ปิดท้ายด้วยการรับชมคลิปสัมภาษณ์สุดพิเศษของเจบีเกี่ยวกับนิทรรศการนี้ และเบื้องหลังที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

นอกจากนี้ยังมี POP-UP STORE พบกับสินค้าสุดพิเศษมากมาย อาทิ เสื้อ, MagSafe, ผ้าเช็ดหน้า,แผ่นน้ำหอม, พวงกุญแจ, Card holder, post card ระหว่างวันที่ 13 มกราคม – 16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ IDEA AVENUE ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ โดยรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายจากการจำหน่ายสินค้าใน POP-UP STORE นี้ จะร่วมสมทบทุนเพื่อการกุศลให้แก่ มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ และมูลนิธิสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เหล่าอากาเซ่มีส่วนร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆกับ JAY B อย่างที่ศิลปินตั้งใจไว้ เหมือนที่ผ่านมา

ทั้งหมดนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างสยามเซ็นเตอร์ และ JAY B ที่อยากมอบความพิเศษให้กับแฟนคลับและอากาเซ่ เพื่อเป็นของขวัญชิ้นพิเศษในการกลับมาครั้งนี้ สามารถร่วมสัมผัสนิทรรศการได้ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ 2568 ณ เอเทรี่ยม1 ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook / X / Instagram : Siam Center

มารับความพิเศษไปกับเพื่อนสนิทของคุณ ในงาน Siam Center X JAY B The 2nd Exhibition in Bangkok: RE LOAD” ได้ที่ สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์

มีนานี้มียูคยอม! YUGYEOM จัดอังกอร์คอนเสิร์ตเพื่ออากาเซ่ไทย 15 มี.ค.ที่ BITEC LIVE

13 ม.ค. 2568, 15:45 น.

สถิติชีเสิร์ฟอังกอร์คอนเสิร์ตไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ กับทุกศิลปิน แต่ก็เกิดขึ้นไม่ยากเลยสำหรับศิลปินหนุ่มมากความสามารถ ALL-ROUNDER อีก

ยูคยอม GOT7 ที่เหล่าไอก็อตเซเว่น (IGOT7 ชื่อแฟนคลับของวง GOT7) หรือที่แฟนๆ นิยมเรียกว่าอากาเซ่ รักและเอ็นดู รวมถึงให้การสนับสนุนผลงานต่างๆ กันอย่างเหนียวแน่นตลอดมา

ร่วมด้วยวลีไม่เกินจริงที่ว่า... ไทยแลนด์แดนอากาเซ่! คิกออฟอีเวนต์แรกแห่งปี 2025 จากผู้จัดไทยคุณภาพที่หลายด้อมถามหาด้วยความคิดถึงอย่าง โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Four One One Entertainment หรือ 411ent) ของ กึ้ง–เฉลิมชัย มหากิจศิริ จึงจับมือต้นสังกัด เอโอเอ็มจี (AOMG) และ วันเดอร์ (WONDER) ประเทศเกาหลีใต้ ประกาศจัดคอนเสิร์ต “2025 ยูคยอม ทัวร์ [ทรัสตี้] อังกอร์ อิน แบงคอก” (2025 YUGYEOM TOUR [TRUSTY] ENCORE IN BANGKOK) ที่ประเทศไทยในวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568 เวลา 18:00 น. ณ ไบเทค ไลฟ์ (BITEC Live) #2025TRUSTY_ENCORE_IN_BANGKOK

ผลงานเด่นๆ และความสำเร็จระดับโกลบอลในปีที่ผ่านมาของ ยูคยอม (YUGYEOM) นอกจากคัมแบ็กเมื่อช่วงต้นปี 2024 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ด้วยเพลง ‘1분만 (1 MINUTE)’ แล้ว อัลบั้มเดี่ยวชุดแรก [TRUST ME] ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนเดียวกัน ยังติดอันดับหนึ่งบนชาร์ตอัลบั้มยอดนิยมของ iTunes มากถึง 23 ประเทศ และอยู่ในอับดับที่ 13 ของ The 25 Best K-Pop Albums of 2024: Staff Picks โดย Billboard หนุ่มคนนี้ยังได้เป็นหนึ่งในไลน์อัปศิลปินงาน KCON GERMANY 2024 ณ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี อีกทั้งก้าวกระโดดสู่บทบาทใหม่กับการร่วมทีมเป็นไดเรกเตอร์ของรายการไอดอลเซอร์ไววัล ยูนิเวิร์ส ลีก (UNIVERSE LEAGUE) #UNIVERSELEAGUE ออกอากาศทางช่อง SBS และที่ขาดไม่ได้คือ 2024-2025 YUGYEOM TOUR [TRUSTY] ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาต่อเนื่องสู่ปีนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์, กรุงเทพฯ, ฮ่องกง, ซิดนีย์, มะนิลา, จาการ์ตา, ไทเป, โตเกียว และ มาเก๊า

โดยหมุดหมายล่าสุดของตารางทัวร์คอนเสิร์ตที่เพิ่งประกาศเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการว่า พบกันแน่กับโซโลสเตจเต็มรูปแบบอีกครั้ง ซึ่ง “ยูคยอมฮีพร้อมเสิร์ฟแฟนๆ ชาวไทย” ในงาน “2025 ยูคยอม ทัวร์ [ทรัสตี้] อังกอร์ อิน แบงคอก” (2025 YUGYEOM TOUR [TRUSTY] ENCORE IN BANGKOK) จัดโดย โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ก็จะเพิ่มเติมไลฟ์เพอร์ฟอร์แมนซ์ของเพลงจังหวะสนุกๆ ซิงเกิลใหม่ล่าสุดอย่าง ‘Sweet Like’ https://youtu.be/oTHHN8IqzrA ที่เพิ่งปล่อยเมื่อ 18 ธันวาคม 2567 หรือ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเป็นเพลงเต้นที่ไม่ได้ทำมานานแล้ว ทั้งยังมีท่าเต้นที่ไม่เคยลองมาก่อนด้วย!

ภาพความทรงจำระหว่าง ไอก็อตเซเว่น กับ ยูคยอม จะเกิดขึ้นและถูกบันทึกไว้ที่ประเทศไทยอีกครั้ง ใครพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในนั้น เตรียมจองบัตรกันไว้ *** เริ่มจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือระบบออนไลน์ www.thaiticketmajor.com บัตรราคา 2,900 / 3,900 / 4,900 / 5,900 (นั่งและยืน) / 6,900 และ 7,900 บาท (นั่งและยืน) *** ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางออฟฟิเชียลโซเชียลมีเดียของผู้จัดงาน @411ent เอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) https://x.com/411ent อินสตาแกรม https://instagram.com/411ent เฟซบุ๊ก www.facebook.com/fouroneoneent รวมทั้งอินสตาแกรมของซีอีโอกึ้ง @kueng_chalermchai http://instagram.com/kueng_chalermchai และอย่าลืมกด SUBSCRIBE ช่อง YouTube 411ent https://www.youtube.com/411ent เพื่อไม่พลาดคอนเทนต์และอีเวนต์ดีๆ ตลอดปี

20 เพลงยอดเยี่ยมที่สุดของ Green Day (มีคลิป)

13 ม.ค. 2568, 14:24 น.

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 หนึ่งในสื่อดนตรีร็อคที่ทรงอิทธิพลที่สุดอย่าง Kerrang! ได้คัดเลือกเอาผลงานที่ Green Day สร้างสรรค์เอาไว้กว่า

และต่อไปนี้คือ 20 เพลงยอดเยี่ยมที่สุดของ Green Day โดย Kerrang!

ตรงใจสาวกชาวไทยมั้ย? ไปดูกันเลย...

20. Macy’s Day Parade (Warning, 2000)

19. American Idiot (American Idiot, 2004)

18. Stuck With Me (Insomniac, 1995)

17. Forever Now (Revolution Radio, 2016)

16. American Eulogy (21st Century Breakdown, 2009)

15. Minority (Warning, 2000)

14. Letterbomb (American Idiot, 2004)

13. Going To Pasalacqua (39/Smooth, 1990)

12. Brain Stew / Jaded (Insomniac, 1995)

11. Good Riddance (Time Of Your Life) (Nimrod, 1997)

10. The Grouch (Nimrod, 1997)

9. Who Wrote Holden Caulfield (Kerplunk!, 1991)

8. Hitchin’ A Ride (Nimrod, 1997)

7. Longview (Dookie, 1994)

6. When I Come Around (Dookie, 1994)

5. Jesus Of Suburbia (American Idiot, 2004)

4. Burnout (Dookie, 1994)

3. Basket Case (Dookie, 1994)

2. She (Dookie, 1994)

1. St. Jimmy (American Idiot, 2004)

กระแสแรงไม่มีแผ่ว “ฟอส-บุ๊ค, เพิร์ธ-แซนต้า, จูเนียร์-มาร์ค” ชวนแฟนๆ ดูซีรีส์ ในงาน “Perfect 10 Liners Mid Term”

10 ม.ค. 2568, 13:15 น.

เรียกว่าฮอตติดเทรนด์ X ทุก EP ทั้งในประเทศไทย และอีกหลายพื้นที่ทั่วโลก สำหรับซีรีส์ “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” ที่เปิดรั้วมห

สายรหัสนี้…เต็มสิบไม่หัก ซีรีส์ที่แฟนๆ ทั้งอินและฟินหนักมาก จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำ ของเมืองไทย ที่เรื่องราวเดินทางมาถึงครึ่งเรื่องแล้ว กับความรักวุ่นๆ ในรั้ววิศวะที่สนุกสนานกลมกล่อมครบรส และเพื่อขอบคุณเสียงตอบรับแบบถล่มทลายจากแฟนๆ ล่าสุดทีมนักแสดงสุดฮอต “ฟอส จิรัชพงศ์ ศรีแสง, บุ๊ค กษิดิ์เดช ปลูกผล, เพิร์ธ ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร, แซนต้า พงศภัค อุดมโภชน์, จูเนียร์ ปณชัย ศรีอาริยะรุ่งเรือง, มาร์ค จิรันธนิน ตรัยรัตนยนต์” จัดให้แบบหนักๆ เปิดเวทีความสนุกอีกครั้ง ชวนแฟนๆ มาร่วมชม “สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” EP.14 ในงาน “Perfect 10 Liners Mid Term” พร้อมด้วยแก๊งค์เพื่อนสุดซี้อย่าง “อู๋ ธนบูรณ์ เกียรตินิรันดร์, บูม ธราธร จันทรวรกาญจน์, มาร์ค ณฐริศร์ วรกรเลิศสิทธิ์, ปูน มิตรภักดี” ที่กอดคอมาร่วมสร้างสีสัน และพูดคุยกับผู้กำกับฯ คนเก่ง “นิว ศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล” พิเศษสุดๆ พร้อมรับชมสเปเชียลโชว์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเหล่านักแสดง ที่รับรองว่าแฟนๆ จะประทับใจไม่รู้ลืม ในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 เวลา 19.30 น. ณ ชั้น 6 สยามพารากอน โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย Paragon Cineplex

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองบัตรเข้าร่วมงาน “Perfect 10 Liners Mid Term” เปิดจำหน่ายบัตร วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 เริ่มเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป บัตรราคา 2,500 / 2,000 / 1,500 บาท ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา, www.thaiticketmajor.com และ Call center โทร 0-2262-3456 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com และ Facebook / Instagram / X / TikTok / YouTube / Weibo: GMMTV

ปิดเทอมเจอกัน! Disney On Ice presents Find Your Hero ตามหาฮีโร่ในตัวเรา 27 – 30 มี.ค. ที่อิมแพ็ค อารีน่า

9 ม.ค. 2568, 13:00 น.

กลับมาอีกครั้ง “Disney On Ice presents Find Your Hero” (ดิสนีย์ ออน ไอซ์ พรีเซ้นทส์ ไฟนด์ ยัวร์ ฮีโร่) โชว์มหัศจรรย์ที่พร้อมมอบควา

การแสดง “Disney On Ice presents Find Your Hero” จะเปิดจำหน่ายบัตรรอบทั่วไป 1 กุมภาพันธ์ 2568 ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ พิเศษเพียงลงทะเบียนสำหรับซื้อบัตร Early Bird ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2568 รับสิทธิ์ซื้อบัตร Early Bird ลดสูงสุด 30% ระหว่างวันที่ 18 – 31 มกราคมนี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางโซเชียลมีเดียของไลฟ์ เนชั่น เทโร และเว็บไซต์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์

NCT 127 กับเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต NCT 127 4TH TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE MOMENTUM’ ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม

7 ม.ค. 2568, 14:20 น.

SM True ก้าวต่อไปสู่การสร้างปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ในปี 2568 พร้อมมุ่งไปข้างหน้าด้วยแรงขับเคลื่อนแบบไร้ขีดจำกัดของ NCT 127

NCT 127 เจ้าของสถิติศิลปินวงแรกของค่าย SM ENTERTAINMENT ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมในประเทศไทย และวงที่คว้ารางวัลใหญ่ Overall Grand Prize (Daesang) และ the Best Prize (Choewoosoosang) สำหรับสาขาคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดจากงาน EDAILY Culture Awards ด้วยเวิลด์ทัวร์ครั้งก่อนหน้านี้อย่าง ‘NEO CITY – THE UNITY’ โดยพวกเขาจะกลับมาเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์พร้อมกำหนดความสนุกครั้งใหม่ตามแบบฉบับของตัวเอง ด้วยเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 4 ในประเทศไทย NCT 127 4TH TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE MOMENTUM’ (เอ็นซีที วันทูเซเว่น โฟร์ท ทัวร์ ‘นีโอ ซิตี้ : แบงค็อก – เดอะ โมเมนตัม’) ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 19:00 น. และวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 19:00 น. ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม (THUNDERDOME STADIUM)

สำหรับชื่อทัวร์ ‘THE MOMENTUM’ (เดอะ โมเมนตัม) สื่อถึงพลังหรือแรงขับเคลื่อนของบางสิ่งที่กำลังมุ่งไปข้างหน้า และสะท้อนถึงพลังงานอันไร้ขีดจำกัดของ NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ในการสานต่อเพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง รวมถึงความทะเยอทะยานที่จะก้าวไปสู่เวทีที่ยิ่งใหญ่ขึ้นผ่านเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 4 นี้ เตรียมพุ่งชนเป้าหมายแรกด้วยความร้อนแรงที่เกินต้านจนบัตรหมดเกลี้ยง ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 18 และ 19 มกราคมนี้ พร้อมเร่งเครื่องเต็มกำลังไปสู่ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 14 ภูมิภาคในเอเชีย และอเมริกา

NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ถือเป็นศิลปินผู้บุกเบิกนวัตกรรมดนตรีแนว Neo (นีโอ) หรือแนวใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมแผ่ขยายอิทธิพลให้กับเค-ป๊อป ผ่านคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนและสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ ที่เพียงแค่ฟังก็จะรู้ได้ทันทีว่าคือ เพลงของ NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) เช่น เพลงแดนซ์ ฮิปฮอปนำสมัย ‘영웅 (英雄; Kick It)’, เพลงเออร์เบิน โซล ฮิปฮอปกับจังหวะหนักหน่วงที่ติดหู ‘Punch’, เพลงฮิปฮอป แดนซ์ที่มีเสียงขลุ่ยสุดอิมแพ็ค ‘Sticker’, เพลงอาร์แอนด์บี แดนซ์แสนเศร้า ถ่ายทอดการประสานเสียงและเสียงผิวปาก ‘Favorite (Vampire)’, เพลงฮิปฮอป แดนซ์อันทรงพลัง ‘질주 (2 Baddies)’, เพลงฮิปฮอป แดนซ์สุดดุดัน ‘Ay-Yo’, เพลงแดนซ์จังหวะแอโฟร ‘Fact Check (불가사의; 不可思議)’ ฯลฯ ล่าสุดกับเพลงแนวโอลด์สคูล ฮิปฮอป ‘삐그덕 (Walk)’ ที่สื่อถึงความมั่นใจว่า “พวกเขาจะก้าวไปข้างหน้าโดยไม่เดินตามรอยใคร” ยืนยันถึงจุดยืนที่ไม่มีใครเทียบได้

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ได้พิสูจน์ศักยภาพผ่านกิจกรรมระดับโลกมากมาย รวมถึงการทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลกภายใต้แบรนด์ ‘NEO CITY’ (นีโอ ซิตี้) ที่ตอกย้ำถึงเอกลักษณ์ของพวกเขาอย่างโดดเด่นและประสบความสำเร็จถล่มทลาย โดยเฉพาะเวิลด์ทัวร์ครั้งก่อนหน้านี้ ‘NEO CITY – THE UNITY’ (นีโอ ซิตี้ – เดอะ ยูนิตี้) ที่ผนวกทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการแสดงอันทรงพลัง การกำกับที่ยอดเยี่ยม และเวทีสุดตระการตา จนคว้ารางวัลใหญ่ Overall Grand Prize (Daesang) และ the Best Prize (Choewoosoosang) สำหรับสาขาคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดจากงาน EDAILY Culture Awards อีกทั้งยังได้รับการยกย่องในฐานะ ‘God of Performance’ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสร้างสถิติอันน่าภาคภูมิใจ กับการขึ้นแท่นเป็นศิลปินวงแรกของค่าย SM ENTERTAINMENT (เอสเอ็ม เอนเทอร์เทนเมนต์) ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตสเกลสเตเดียมในประเทศไทย โดยเวิลด์ทัวร์ครั้งนี้ ‘NEO CITY – THE MOMENTUM’ (นีโอ ซิตี้ – เดอะ โมเมนตัม) กำลังมุ่งหน้ามามอบประสบการณ์สุดพิเศษแบบไม่เหมือนใคร พาทุกคนทะยานสู่จุดสูงสุดของความสนุก พร้อมร่วมสร้างเส้นทางแห่งตำนานบทใหม่ จารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของพวกเขา

เปิดจำหน่ายบัตรรอบสมาชิก “NCTzen 127” Membership (GL) Pre-Sale ในวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568 เวลา 19:00 น. – 23:59 น. เท่านั้น และรอบบุคคลทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 11:00 น. เป็นต้นไป ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ www.allticket.com/event/NCT127_NEOCITY_THE_MOMENTUMinBKK บัตรราคา 7,900 NEO CITY PACKAGE (บัตรยืน) / 6,800 / 6,500 (บัตรยืน) / 6,200 / 5,600 / 5,500 / 5,200 / 4,200 / 3,600 / 2,600 บาท พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับผู้ซื้อบัตร ติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางบัญชีโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ SM True : Facebook (เฟซบุ๊ก) facebook.com/smtruethailand, Instagram (อินสตาแกรม) instagram.com/smtruethailand, X (เอ็กซ์) x.com/SMTrueThailand และ TikTok (ติ๊กต๊อก) tiktok.com/@smtruethailand สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อบัตรได้ทาง Counter Service : อีเมล support@allticket.com และไลน์ออฟฟิเชียล @counterservice

ทัชใจแฟนๆ ตั้งแต่ EP แรก ประมวลภาพงาน “Ossan’s Love : First-Eye-View” เอิร์ท-มิกซ์-ชาคริต เปิดศึกรักครั้งใหญ่

7 ม.ค. 2568, 12:00 น.

เปิดศึกรักครั้งใหญ่ให้แฟนๆ ฟีลกู๊ดในการมาพบกันอีกครั้งของคู่จิ้นคู่ฮอตสุดปัง “เอิร์ท พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ” และ “มิกซ์ สหภาพ วงศ์ร

บทบาทสุดท้าทายครั้งแรก ในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ ที่ทุกคนรอคอย “Ossan’s Love Thailand รักนี้ให้ “นาย”” ฉบับเวอร์ชั่นไทย จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย ที่จับมือแท็คทีมกันมาชวนแฟนๆ ดูตอนแรกพร้อมกัน ในงาน “Ossan’s Love : First-Eye-View” ซึ่งได้เสียงตอบรับสุดอบอุ่นจากแฟนๆ บัตร Sold Out หลังเปิดขายเพียงไม่นาน กับเรื่องราวความรัก สุดวุ่นวายของหนุ่มโสดนายหน้าจัดหาบ้านที่ไม่เคยมีดวงเรื่องความรัก กลับต้องมากลายเป็นหนุ่มเนื้อหอม เมื่อเจ้านายและเพื่อนร่วมงานพ่วงตำแหน่งเพื่อนร่วมบ้าน ดันมาตกหลุมรักเขาพร้อมกัน ที่ CINEMA 15, SF WORLD CINEMA, CENTRAL WORLD ชั้น 9 เมื่อวันจันทร์ที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา

ต้อนรับแฟนๆ เข้าสู่งาน “Ossan’s Love : First-Eye-View” ด้วยโชว์เอ็กซ์คลูซีฟสุดพิเศษจาก “เอิร์ท-มิกซ์” 3 เพลงรวด เริ่มจากเพลงแรก “เอาเลยมั้ย (Let’s Try)” จาก “เอิร์ท” และส่งต่อให้ “มิกซ์” กับเพลง “สิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่มีรูปแบบ (Unidentified Wonder)” ตามด้วยเพลงจังหวะโจ๊ะน่ารักๆ สนุกๆ “สะมะกึ๊กสะมะกั๊ก (Stucking)” ประกอบซีรีส์ “Ossan’s Love Thailand รักนี้ให้ “นาย”” ที่ทั้งคู่เรียกเสียงกรี๊ด และเสียงปรบมือจากแฟนๆ ดังลั่นโรงภาพยนตร์ จากนั้น “เลโอ โซสเซย์” พิธีกรอารมณ์ดีกล่าวเปิดงานอย่างเป็น ทางการและเชิญนักแสดงนำ “เอิร์ท-มิกซ์-ชาคริต” ขึ้นเวทีพูดถึงคาแรกเตอร์ที่ได้รับของแต่ละคน โดยเฉพาะการ พลิกบทบาทครั้งสำคัญกับการแสดงซีรีส์วายเรื่องแรกของ “ชาคริต” พร้อมสัมภาษณ์พิเศษด้วย 6 ซองคำถาม ให้ตอบแบบเปิดใจสุดๆ ก่อนที่จะเชิญผู้กำกับฯ คนเก่ง “อู๋ กรพรหม นิยมศิลป์” บอสใหญ่ผู้สร้างสรรค์เรื่องราว ความรักอลเวงนี้ ขึ้นมาพูดคุยถึงบรรยากาศการทำงานเบื้องลึกเบื้องหลังสนุกๆ และความท้าทายในการกำกับ ซีรีส์เรื่องนี้ ปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพร่วมกันกับแฟนๆ ที่มาให้กำลังใจแน่นโรงภาพยนตร์เก็บเป็นความประทับใจ

จากนั้นเข้าสู่ช่วงไฮไลท์กับการดู “Ossan’s Love Thailand รักนี้ให้ “นาย”” EP แรก ไปพร้อมๆ กันด้วย ความสุขสนุกสนานท่ามกลางเสียงหัวเราะและรอยยิ้มตลอดทั้ง EP เรียกว่าทำถึงทำเอาแฟนๆ ฟินสุดๆ ตามด้วยโชว์จาก “เอิร์ท-มิกซ์” กับเพลง “เหนื่อยหน่อยนะ” ก่อนปิดท้ายด้วยการกล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่มาร่วมสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกันในวันนี้ พร้อมฝากติดตามซีรีส์ใน EP ต่อๆ ไปที่จะเพิ่มดีกรีความสนุกมากขึ้นไปอีก

ติดตามชมซีรีส์ “Ossan’s Love Thailand รักนี้ให้ “นาย”” ทุกวันจันทร์ เวลา 20:30 น. ทางช่อง GMM25 และรับชมย้อนหลังทาง Viu เวลา 22:30 น. และอัพเดททุกความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/gmmtvofficial & IG & YouTube & X & Weibo : GMMTV

LANDOKMAI x kanekoayano คอนเสิร์ตศิลปินอินดี้ 2 สัญชาติ เจอกัน 15 มี.ค. นี้ ที่สเฟียร์ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์

7 ม.ค. 2568, 10:30 น.

ชวนแฟนๆ ล่องลอยไกลจากกรุงเทพฯ ถึงโตเกียวกับคอนเสิร์ต ‘Live Nation Tero presents LANDOKMAI x kanekoayano’ รอบการแสดงกรุงเทพฯ เปิดจำ

ศิลปินอินดี้ 2 สัญชาติ ‘LANDOKMAI’ (ลานดอกไม้) และ ‘kanekoayano’ (คาเนโกะ อายาโนะ) ชวนแฟนๆ เปิดประสบการณ์ทางดนตรีแบบต่างขั้ว กับคอนเสิร์ต 2 สไตล์ ‘Live Nation Tero presents LANDOKMAI x kanekoayano’ ปักหมุด 2 ประเทศบ้านเกิด เริ่มที่ประเทศไทย วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568 ที่สเฟียร์ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ต่อด้วยญี่ปุ่น วันพฤหัสบดีที่ 20 มี.ค. 68 ที่เดอะ การ์เด้น ฮอลล์ โตเกียว บัตรราคา 1,800 บาท เปิดจำหน่ายบัตรรอบการแสดงกรุงเทพฯ 15 มกราคมเป็นต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติมที่ livenationtero.co.th

‘LANDOKMAI’ ดูโอ้มาแรงแห่งยุค เจ้าของแนวเพลงดรีมป็อปที่มีเสียงร้องหวานใสฟังสบายของ ‘อูปิม-ลานดอกไม้ ศรีป่าซาง’ กับเสียงกีต้าร์โปร่งชวนฝันของ ‘แอนท์-มนัสนันท์ กิ่งเกษม’ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว LANDOKMAI เปิดตัวในฐานะศิลปินภายใต้สังกัดค่ายเพลง ‘What The Duck’ ในปี 2563 มีผลงานเพลงติดหูในช่วงแรกอย่าง ‘Please Be True’, ‘Tsuki’ (พระจันทร์) และ ‘ด้วยใจยินดี’ ซึ่งมียอดฟังบนยูทูบมากกว่า 3 ล้านครั้ง กระทั่งในปี 2566 LANDOKMAI ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 “All my purple feelings” โดยมีเพลงฮิตอย่าง “เพลงรักเพลงแรก” ที่กวาดยอดวิวบนยูทูปไปมากกว่า 30 ล้านครั้ง นอกจากนั้นยังมีเพลง “ยอม” ที่สร้างปรากฎการณ์ฟีเวอร์ทั้งโลกออนไลน์ รวมถึงปี 2567 การันตีความมาแรงมากที่สุด ด้วยคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบครั้งแรก “ฤดูฝัน Concert” ที่กระตอบรับจากแฟน ๆ ล้นหลาม ทำให้บัตรชมการแสดงกว่า 4,000 ที่นั่งโซลเอาท์ทั้ง 2 รอบการแสดง

‘kanekoayano’ อินดี้ร็อคแบนด์จากแดนปลาดิบ นำโดย ‘Kaneko Ayano’ นักร้อง-นักแต่งเพลงเจ้าของเพลง Lucky” และ “I’m not sad (Sabishikunai) และสถิติโซลเอาท์คอนเสิร์ตเดี่ยว 10,000 ที่นั่งเมื่อปี 2564 รวมทั้งเป็นหนึ่งในศิลปินซับเฮดไลน์บนเวที WHITE STAGE ในเทศกาลดนตรีร็อคที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอย่าง Fuji Rock Festival 2023 โดยในโชว์พิเศษที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ นอกจากแฟนๆ จะได้ล่องลอยไปกับพลังเสียงของ ‘Kaneko Ayano’ แล้ว ยังร่วมด้วยอีก 3 สมาชิกอย่าง ‘Hirotoshi Hayashi’ (ฮิโรโทชิ ฮายาชิ) - กีต้าร์, ‘takuyaiizuka’ (ทาคุยาอิซึกะ) - เบส, ‘Hikari Sakashita’ (ฮิคาริ ซาคาชิตะ) - กลอง ที่พร้อมจะมาปล่อยพลังให้แฟนชาวไทยได้สนุกด้วยกันเป็นครั้งแรก

โดยในคอนเสิร์ต ‘Live Nation Tero presents LANDOKMAI x kanekoayano’ แฟนๆ จะได้เต็มอิ่มกับ 2 โชว์ 2 สไตล์จาก 2 ศิลปิน เป็นประสบการณ์ทางดนตรีครั้งใหม่ที่คอเพลงอินดี้ไม่ต้องไม่พลาด สำหรับรอบการแสดงกรุงเทพฯ ในวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568 ที่สเฟียร์ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ บัตรราคา 1,800 บาท สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ด รับสิทธิซื้อบัตรคอนเสิร์ตรอบพรีเซลส์ ได้ในวันพุธที่ 15 มกราคม เวลา 10.00 น. ถึงวันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก http://priceless.com/music

สมาชิกไลฟ์ เนชั่น เทโร รับสิทธิ์ซื้อบัตรรอบพรีเซลส์ในวันศุกร์ที่ 17 มกราคม (12.00 – 22.00 น.) ทาง livenationtero.co.th เริ่มจำหน่ายบัตรรอบทั่วไป วันเสาร์ที่ 18 มกราคม เวลา 10.00 น. เป็นต้นไปทาง thaiticketmajor.com

โปรดักชั่นระดับเวิลด์คลาส แสง สี อลังการ! เก็บตกภาพคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิต “ดีแลน หวัง”

6 ม.ค. 2568, 12:00 น.

สะใจบวกมันส์สุดขีด! คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของพระเอกหนุ่มตี๋ซุปเปอร์สตาร์จีน “หวังเฮ่อตี้” (Wang He Di) หรือ “ดีแลน หวัง” (Dy

พร้อมชวนผองเพื่อนมาร่วมโชว์บนเวที ในงาน “2024-2025 Dylan Wang D.PARTY CONCERT IN BANGKOK” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี ทำถึง! ทำจึ้ง! จัดเต็ม! ทั้งโปรดักชั่นระดับเวิลด์คลาส แสง สี อลังการทุกเพลง รวมถึงจอ LED ขนาดยักษ์ และจอ LED วางเรียงเป็นตัวยูตามรูปแบบเวทีที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็เห็นชัดแบบฟูลเฮชดี กวาดเสียงชมจนถูกยกให้เป็นคอนเสิร์ตส่งท้ายปีที่ดี และยิ่งใหญ่ที่สุด โดยผู้จัด “ไอมี่ไทยแลนด์” (iMe Thailand) เสิร์ฟเป็นของขวัญให้ผู้ชม

เปิดเวทีมาทุกคนในฮอลล์ก็ได้สัมผัสกับความร้อนระอุตั้งแต่วินาทีแรก บัตรยืนได้มันส์ตั้งแต่เริ่ม ส่วนบัตรนั่งก็แทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้! ไม่ใช่แค่ความฮอตของหนุ่ม “ดีแลน” ที่ปรากฏตัวด้วยลุคหล่อเท่สะท้านเวที แต่ยังได้เพื่อนพ้องสมาชิกทีม ‘SEEWE’ อย่าง “VPS” และ “WATCHME” แท็กทีมมาสาดความมันส์แร็ปไฟลุกเวที ทำเอา “ชงตี้ฮั่ว” (ชื่อแฟนคลับของ ดีแลน หวัง) ถึงกับกรี๊ดถล่มทลายกับทั้งเพลง ‘烧’ , ‘no fly zone’ , ‘爬坡上坎’ ต่อเนื่องแบบไม่พักแถมยังได้แร็ปเปอร์หนุ่ม ‘BRIDGE’ เพื่อนในก๊วนมาทวีความเดือดเพิ่มอีกในเพลง ‘老大’ จากนั้นหนุ่มดีแลนได้ทักทายแฟนๆ ในฮอลล์ และบอกว่าเขามีความสุขมากที่ได้ร้องเพลงกับทุกคน และได้ปลุกเอนเจอร์จี้ทุกคนในวนนี้ หลังจากนั้นคอนทีนิวฟีลลิ่งสุดจอยไปด้วยกันในเพลง ‘小霸王’ ก่อนจะส่งต่อเวทีให้อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ของค่ำคืนนี้ แร็ปเปอร์ชื่อดัง “24KGOLDN” กระโดดขึ้นมาพร้อมเพลง ‘Mood’ ตามด้วย “TRIP TO LA” ที่พาดีแลนกลับขึ้นสเตจร่วมแจมเพลงนี้ด้วยกัน

มาถึงช่วงคืนกำไรความฟินให้แฟนๆ ดีแลนเล่นเกม ‘เป่ายิงฉุบ’ กับลัคกี้แฟนด้านล่าง 3 คน ผลออกมาแพ้รวดทำให้เจอบทลงโทษ ‘ถ่ายภาพน่ารัก 5 ท่า’ , ‘ถ่ายภาพทำมือรูปหัวใจ 5 ท่า’ และ ‘ถ่ายภาพด้วยท่าทางตลกๆ’โดนใจแฟนคลับได้เก็บภาพกันรัวๆ ส่วนพาร์ทต่อมาเอนจอยต่อกับเพลงสนุกๆ อย่างเพลง ‘如果哪天我不帅了’, ‘湖边迪斯科’ , ‘避风塘’ แถมยังได้หนุ่มมาดคูล ‘LSGCsikoriot’ มาร่วมแจม แถมยังเห็นทักษะการเล่นบาสกีฬาโปรดของดีแลนแอนด์เดอะแก๊งโบร๊วบนเวทีทำชาเลนจ์โยนลูกบาสลงถังเพื่อแจกรางวัลพิเศษให้แฟนคลับผู้โชคดี สเปเชียลโมเมนต์ยังไม่หมดแค่นั้น หนุ่มดีแลนยังแจกความคุ้มให้เอฟซีแบบดับเบิ้ลด้วยการเดินลงมาหาด้านล่างแบบใกล้ชิดพร้อมแจกของขวัญให้กับมือ

เสียงกรี๊ดดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อหนุ่มดีแลนขึ้นโชว์ทักษะเต้น Solo Dance สุดกร้าวใจ ส่วนแก๊งโบร๊ว! ‘WATCHME’ กับ ‘VPS’ ก็ตามขึ้นเวทีมาเสริมทัพในเพลง 安全感 , ‘Dream car’ ท่ามกลางแสงสว่างของแสงแฟลชจากมือถือของคนในฮอลล์ตามคำขอจาก 3 หนุ่ม ปรับโหมดกลับมาเวทีเดือดอีก! เมื่อได้ชาวแก๊ง ‘L4WUDU’ มาเป็นกำลังเสริมเพิ่มความมันส์โดดยับ 2 เพลง ‘命’ และ ‘With My Gang’ ที่เหมือนเป็นการเรียกน้ำย่อยให้แฟนๆ ได้ไปเต้นจนฮอลล์สะเทือน กับ DJ ที่ออกมาเปิดแผ่นมันส์เว่อร์ แต่ดีแลนไม่ปล่อยให้ทุกคนอารมณ์ค้าง ขนเพลงมาโชว์ทั้งพาร์ทเดี่ยว และพาร์ทรวมเพื่อนพ้องน้องพี่มามอบความสนุกต่อส่งท้ายคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะเป็น ‘极乐迪斯科’ , ‘MISS ME’ , ‘海边探戈’ และอังกอร์กับ ‘烧’ ที่ถูกเลือกเป็นเพลงเปิดและปิดคอนเสิร์ตครั้งนี้ แต่..!! เซอร์ไพรส์ยังไม่จบ “ดีแลน หวัง” ให้ทุกคนกลับบ้านง่ายๆ ไม่ได้ สร้างมิติใหม่ชวนแฟนคลับในฮอลล์ดูซีรีส์เรื่องใหม่ของเขา “ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าเฟิ่ง” ที่ออนแอร์วันแรก (28 ธ.ค.67) ด้วยกันกลางคอนเสิร์ตไปเลย!! เรียกว่าตลอดกว่า 3 ชั่วโมง แฟนๆ ได้ตื่นตาตื่นใจกับโปรดักชั่นสุดอลังการ โกยความสนุก ความประทับ และโมเมนต์พิเศษไปแบบเต็มอิ่มเลยทีเดียว!!

ผู้จัด ไอมี่ไทยแลนด์ ยังเตรียมเสิร์ฟความสนุกแบบจัดเต็มรอให้แฟนๆ ชาวไทยได้มาร่วมเสพความสุขไปด้วยกันอีกมากมาย...รอติดตามความเคลื่อนไหวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook @imethailand, IG และ Twitter @ime_th

THE CORRS ตำนานป็อปร็อกจากไอริช พร้อมเจอแฟนชาวไทย 11 ก.พ. 2568 ที่ พารากอน ฮอลล์

24 ธ.ค. 2567, 17:00 น.

ความสุขจากบทเพลงที่คุ้นเคยจากยุค 90s และ 2000 กำลังหวนกลับมาทำให้หัวใจคุณชื่นฉ่ำอีกครั้งในคอนเสิร์ตของ THE CORRS ตำนานป็อปจากไอริช

THE CORRS เป็นวงป็อปร็อกมากฝีมือจากประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยสี่พี่น้องตระกูล Corr ประกอบด้วย Andrea, Sharon, Caroline และ Jim ผลงานของพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างสูง มียอดขายกว่า 40 ล้านก็อปปี้ โดยเฉพาะอัลบั้ม 'Talk on Corners' ถือเป็นผลงานคลาสสิก เต็มไปด้วยเพลงฮิต ไม่ว่าจะเป็น "What Can I Do" "So Young" รวมถึงซิงเกิลอื่นๆ จนถูกใช้เป็นชื่อในการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งล่าสุด นอกจากนั้น THE CORRS ยังมีเพลงฮิตที่แฟนเพลงทั่วโลก ตลอดจนเพลงที่ชาวไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เช่น "Breathless" "Runaway" "All the Love in the World" และอีกมากมาย ซึ่งจะถูกหยิบมามอบความสุขให้แฟนๆในคอนเสิร์ตครั้งนี้ของพวกเขา

THE CORRS LIVE IN BANGKOK

วันที่ : 11 กุมภาพันธ์ 2568

สถานที่ : พารากอน ฮอลล์, สยามพารากอน

บัตร : 2,000 / 3,500 / 4,000 / 5,000 / 6,500 บาท

ซื้อบัตรได้ที่เว็บไซต์ Thaiticketmajor ตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2567 เวลา 12:00 น

จัดโดย Midas Promotions

เท่มาก! “แจ็คสัน หวัง” ขึ้นแท่นพันธมิตรระดับโลกคนล่าสุดของ Nike และ Jordan

24 ธ.ค. 2567, 12:30 น.

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ครอบครัว Nike และ Jordan ได้ประกาศต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างเป็นทางการ “แจ็คสัน หวัง” ในฐานะพันธมิตรระ

“แจ็คสัน หวัง” จะนำพลังและมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของเขามาเติมเต็มให้กับแบรนด์ โดยทั้งสองแบรนด์จะร่วมกันสำรวจการผสานรวมระหว่างกีฬาแฟชั่นและวัฒนธรรม พร้อมเปิดบทใหม่ที่ผสมผสานจิตวิญญาณของกีฬาและความคิดสร้างสรรค์

สำหรับ “แจ็คสัน หวัง” นั้นเคยเป็นนักกีฬาที่แข่งขันในเวทีระดับโลกในฐานะตัวแทนทีมฟันดาบฮ่องกงของจีน ซึ่งจิตวิญญาณและความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬา ได้ฝังลึกอยู่ในเส้นทางชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นในสนามกีฬาในฐานะนักกีฬา หรือบนเวทีในฐานะศิลปิน คำขวัญ “JUST DO IT” กลายเป็นแนวคิดสำคัญที่ “แจ็คสัน หวัง” ยึดถือเสมอมา ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของแบรนด์ Nike และ Jordan

ซึ่งก่อนหน้านี้ ในฐานะผู้อำนวยการสร้างสรรค์ “แจ็คสัน” ได้สร้างโชว์การแสดงพิเศษสำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของ Cartier Trinity และจัดการประมูลงานศิลปะส่วนตัวร่วมกับ Joopiter แพลตฟอร์มประมูลของ Pharrell ในฐานะผู้บุกเบิก เขาจะนำการผสมผสานระหว่างกีฬาและความคิดสร้างสรรค์ไปสู่อีกระดับ มาร่วมติดตามการเดินทางอันสร้างสรรค์ที่น่าตื่นเต้นนี้ไปพร้อมกัน

3 หนุ่ม DPR จัดเต็มส่งท้ายปี! ประมวลภาพ “THE DREAM REBORN WORLD TOUR 2024 IN BANGKOK” ร้อนแรงฮอลล์ลุกเป็นไฟ

24 ธ.ค. 2567, 10:00 น.

จบลงไปแล้วแบบสมการรอคอย กับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 2 ปีของศิลปินคุณภาพ อย่าง “DPR” (Dream Perfect Regime) กับงาน “THE DREAM REBORN WORL

โดยงานนี้ถูกจัดขึ้นไปเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 DREAMers (ดรีมเมอร์: ชื่อกลุ่มแฟนคลับ) ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้การตอบรับเป็นอย่างดีเต็มพื้นที่จัดการแสดง โดยทีมผู้จัดอย่าง “BEX” บริษัทอีเว้นท์ออกาไนเซอร์ในเครือเวิร์คพอยท์กรุ๊ป ร่วมกับ “YJ PARTNERS” และ “PROUD2” ก็จัดเต็มโปรดักชั่น แสง สี เสียง พร้อมให้แฟนคลับได้สัมผัสกับ “ความพิเศษ” ของตัวพ่อแห่งยุค ในบรรยากาศส่งท้ายปีแบบสุดเดือดตั้งแต่ต้นจนจบ

เปิดเวทีด้วยโชว์จาก “DPR ARTIC” (ศิลปินแนว House, Electronic และ Techno) กับบทเพลง “Dawning” / “SONIC” / “ESCAPE” และ “DREAM” ก่อนแวะพูดคุยทักทายแฟน ๆ ชาวไทย และก็เรียกเสียงกรี๊ดได้ทั้งฮอลล์กับสเตจเพลงที่แฟน ๆ อยากฟังมากที่สุดอย่าง “DO OR DIE” ในเวอร์ชั่น REMIX ถือเป็นการวอร์มเครื่องให้กับเหล่าดรีมเมอร์ได้เป็นอย่างดี

ก่อนส่งต่อเวทีให้กับอีกหนึ่งศิลปินคุณภาพอย่าง “DPR CREAM” (ศิลปินแนว Hiphop) ซึ่งก็จัดหนักจัดเต็มไม่แพ้กัน กับหลากหลายบทเพลงที่แฟน ๆ ร้องตามกันได้ อาทิ “HOW MANY DRINKS?” / “TEST DRIVE” / “UZUZ” / “DARLING” / “I MISS U (TOO BAD)” / “PUBERTY” และ “SAVAGE” เป็นต้น เรียกว่าจัดเต็มกันแบบนอนสต็อป ถือว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินคุณภาพที่ไม่ว่าจะอยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลังก็ยังคงคุณภาพเช่นเดิม

และก็ถึงคิวของหนุ่มคนสุดท้ายกับตัวพ่อที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง “DPR IAN” (ศิลปินแนว Pop, R&B, Rock และ Electronica) เจ้าของบทเพลงฮิตมากมาย ซึ่งงานคอนเสิร์ตในครั้งนี้ก็ไม่ทำให้แฟนชาวไทยต้องผิดหวัง จัดเต็มด้วย SETLIST คุณภาพที่ผ่านการร้อยเรียงมาเป็นอย่างดี อาทิ “Welcome to the Otherside” และเพลงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากอย่าง “Don't go Insane” ต่อด้วย “BAD COLD” / “Peanut Butter & Tears” / “So Beautiful” ที่แฟน ๆ ร้องตามกันได้ทั้งฮอลล์ และก็ไม่ปล่อยให้ได้พัก จัดเต็มกับเพลงคุณภาพอีกมากมาย ทั้ง “Scaredy Cat” / “Nerves” และ “Ballroom Extravaganza” เป็นต้น

ก่อนเข้าสู่ช่วงท้ายของคอนเสิร์ตกับพาร์ทที่แฟน ๆ ทุกคนรอคอยกันมากที่สุด กับการแสดงร่วมกันของทั้ง 3 คนกับบทเพลงสุดฮิตอย่าง “DO OR DIE (DPR CREAM REMIX)” เรียกได้ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ฟินและเต็มอิ่มกันถ้วนหน้า สมมงกับชื่อคอนเสิร์ตอย่าง REBORN เพราะการกลับมาประเทศไทยในครั้งนี้ DPR เกิดใหม่อย่างแข็งแรงและเต็มไปด้วยคุณภาพจริง ๆ โดยตลอดทั้งคอนเสิร์ตได้มีวงแบนด์ และ บูธดีเจร่วมสร้างสรรค์ดนตรีสดตลอดทั้งงาน ส่งผลให้เวลาของคอนเสิร์ตได้จบลงไปอย่างรวดเร็ว ขอบคุณดรีมเมอร์ทุกคนที่ได้มาร่วมสร้างความทรงจำดี ๆ ส่งท้ายปีด้วยกัน สามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมและข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ X: @BEX_Concert จนกว่าจะพบกันใหม่

ปรากฏการณ์มิตรภาพระหว่าง 2 เพื่อนรัก “สกาย-นานิ” ชวนแฟนๆ เก็บเกี่ยวโมเมนต์น่ารักในงาน “SKY-NANI FRIENOMENON FANCON” จำหน่ายบัตร 28 ธ.ค.นี้

23 ธ.ค. 2567, 11:00 น.

หลังได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ในซีรีส์สุดปัง “High School Frenemy มิตรภาพ คราบศัตรู” จาก “GMMTV” คอนเทนโพรไวเดอร์ชั้นนำของเมื

จนเกิดปรากฏการณ์แห่งมิตรภาพระหว่าง 2 เพื่อนรักที่ทำเอาหลายคนตกหลุมรักแบบไม่รู้ตัว กับความซี้ของ 2 หนุ่มมากความสามารถ “สกาย วงศ์รวี นทีธร” และ “นานิ หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ” เพื่อตอกย้ำกระแสความฮอตของคู่นี้ที่จะทำให้คนดูทั้งฟันทั้งฟินกันสุดๆ กับงาน “SKY-NANI FRIENOMENON FANCON” เรียกว่าแฟนๆ จะได้ชาร์จพลังงานความสุขเก็บเกี่ยวโมเมนต์น่ารักๆ

ในมุมที่ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่มาก่อน รวมไปถึงความสนุกสนานต่างๆ มากมายที่จะทำให้คนดูได้รู้จักแล้วตกหลุมรักทั้งสองหนุ่มเพิ่มมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังมีเซอร์ไพรส์อีกมากมายที่ “สกาย-นานิ” เตรียมมามอบให้ทุกคนได้เห็นถึงมิตรภาพอันเหนียวแน่นของพวกเขา ท่ามกลางบรรยากาศแสง สี เสียง จัดเต็ม เตรียมกดบัตรพร้อมกัน

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคมนี้ เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป แล้วไปเอ็นจอยแบบสุดใจด้วยกัน ในวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ยูเนี่ยน ฮอลล์ ชั้น F6 ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์ เวลา 17.00 น. โดยแฟนคลับทั่วโลกยังสามารถฟินทะลุจอได้แบบเรียลไทม์ ไปกับการรับชมแบบ Live Streaming ผ่านทาง “TTM LIVE” ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ครอบคลุมทั่วโลก สนุกสนานหรรษากันจุใจแน่นอน

สามารถจับจองบัตรได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคมนี้ เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป บัตร 6,500 / 6,000 / 5,000 / 4,500 / 4,000 / 3,500 / 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,500 และดูสดผ่าน “TTM LIVE” บัตรราคา 1,500 / 1,200 บาท (ลิ้งค์และโค้ดรับชม) กรณีต้องการรับบัตรพลาสติกที่ระลึก ชำระเพิ่ม 30/ใบ ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.com และ Call center โทร 0-2262-3456 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com หรือ www.facebook.com/gmmtvofficial & Instagram & X & TikTok & YouTube & Weibo : GMMTV

สนุกสุดเหวี่ยงทุกวินาที! ประมวลภาพจัดเต็มทัพศิลปินกว่า 100 ในมหกรรมกีฬาแห่งปี “GMMTV STARLYMPICS 2024”

23 ธ.ค. 2567, 10:00 น.

มหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่แห่งปี งาน “GMMTV STARLYMPICS 2024” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย ที

ผ่านการแข่งขันกีฬาสุดมันอย่าง บาสเก็ตบอล, วิ่งผลัด และ ฟุตซอล พร้อมโชว์ เอ็กซ์คลูซีฟสุดพิเศษกับ Star Concert บนเวทีแสงสีเสียงสุดอลังการ ที่ใส่ไม่ยั้งให้แฟนๆ ได้เต็มอิ่มกันแบบฉ่ำๆ ท่ามกลางทัพศิลปินของ “GMMTV” กว่า 100 ชีวิต จากทั้ง 2 ทีม ได้แก่

ทีม “Lightning Cheetah” ประกอบด้วย (เรียงลำดับรายชื่อตามตัวอักษร) “ก๊อตจิ-ทัชชกร, กีตาร์-ศุภกร, เกรท-สพล, ข้าวตัง-ธนวัฒน์, คริส-พีรวัส, คีน-สุวิจักขณ์, เคน-กันต์ธีร์, จิงจิง-ปริยพิชญ์, จิมมี่-จิตรพล, จูน-วรรณวิมล, เจเจ-ชยกร, เจนนี่ ปาหนัน, เจมี่-จุฑาพิชญ์, เจมีไนน์-นรวิชญ์, เจ้าหญิง-ครองขวัญ, แจน-พลอยชมพู, ชิม่อน-วชิรวิชญ์, เชลซี-ณปภัช, ซิง-หฤษฎ์, ซี-เดชชาติ, ซี-ทวินันท์, แซนต้า-พงศภัค, แซมมี่-ซาแมนท่า, ไซซี-รัตท์ริชา, ตุ้ย-ชยธร, นัท-ธนัท, น้ำตาล-ทิพนารี, ป๊อด-ศุภกร, ปอนด์-ณราวิชญ์, ป่าน-ปทิตตา, ปาแปง-พรหมพิริยะ, ปูน มิตรภักดี, พลอยภัช-ภัชธร, พอล-ธนัน, เพิร์ธ-ธนพนธ์, ฟลุ๊ค-จีรัสณ์, ฟลุ๊ค- ณัฐนนท์, ฟิล์ม-รชานันท์, เฟิร์ส-คณพันธ์, โฟร์ท-ณัฐวรรธน์, ภวิน-ธนิก, ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน, ม่อน-ธนัชชัย, มาร์ค-ณฐริศร์, มิกซ์-สหภาพ, มิ้ม-รัตนวดี, มุก-วรนิษฐ์, ลุค-อิชิคาว่า, ลูกจัน-ภาสิดี, เลโก้-รพีพงศ์, เล้ง-ธนพล, เลโอ โซสเซย์, วิลเลี่ยม-จักรภัทร, วิว-เบญญาภา, สกาย-วงศ์รวี, สิงโต-ปราชญา, สุดยอด-พัฐสิฏ, แสตมป์-พนัชษ์กรณ์, หลุยส์-ธณวิน, อ้าย-สรัลชนา, อาร์ม-วีรยุทธ, อิน-สาริน, เอแคร์-ชมพูพันธุ์ทิพย์, เอเจ-ชยพล, เอส-ศุภ, เอิร์ท-พิรพัฒน์, โอม-ภวัต, โอห์ม-ฐิติวัฒน์, ฮง-พิเชฐพงศ์”

ทีม “Shadow Eagle” ประกอบด้วย (เรียงลำดับรายชื่อตามตัวอักษร) “กระปุก-พลอยนิรา, กวิน แคสกี้, กอล์ฟ-กิตติพัทธ์, กัน-อรรถพันธ์, กัปตัน-พีระวิชญ์, กาย-ศิวกร, เค เลิศสิทธิชัย, จอส-เวอาห์, จาว่า-พบธรรม, จุง- อาเชน, จูเนียร์-ปณชัย, ชาริ-ชาริสา, โชกุน-พุทธิพงษ์, ดัง-ณัฎฐ์ฐชัย, ดิว-จิรวรรตน์, เดรก-สัตบุตร, ตู-ต้นตะวัน, เต-ตะวัน, เตโช พรหมสาขา ณ สกลนคร, โต๋-ทินพันธ์, ไตเติ้ล-กีรติ, ธี-ธีรเดช, นนน-กรภัทร์, นานิ-หิรัญกฤษฎิ์, นิว-ฐิติภูมิ, นีโอ-ตรัย, บอนนี่-ภัสรสรณ์, บุ๊ค-กษิดิ์เดช, บุ๋น-นพณัฐ, บูม-ธราธร, ป๋อมแป๋ม-นิติ, เปปเปอร์-ภานุโรจน์, เปรม-วรุศ, พร้อม-ทีปกร, พรีม-ชนิกานต์, พรีม-ณัฐณิชา, พิพลอย-กัญญรัตน์, ฟรัง-นรุทธ์, ฟอร์ด-อรัญญ์, ฟอส-จิรัชพงศ์, เฟย-ภัทร, มายเม่-ณิชาภา, มาร์ค-จิรันธนิน, มาร์ค-ภาคิน, มิค-เมธัส, มิ้นท์-ธิฌาน์, มิ้ลค์-พรรษา, มิวนิค-นันท์นภัส, ริว-พุติพัฒน์, ลูค-ภีมสรรค์, เลิฟ-ภัทรานิษฐ์, วิน-เมธวิน, วินนี่-ธนวินท์, สตางค์-กิตติภพ, อชิ-พีระกานต์, ออฟ-จุมพล, อังเปา-โอชิริส, อั๋น-ณภัทร, อินดี้-ธนทัต, อู๋-ธนบูรณ์, เอมี่-ทสร, เอิร์น-ปรียาภัทย์, แอสตัน-รติภัทร, โอม-ฐิภากร”

ซึ่งงานมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “GMMTV STARLYMPICS 2024” ครั้งนี้ เป็นการเอ็นเตอร์เทน แฟนๆ ให้ได้ชมกันแบบจุใจเต็มอิ่มเต็มอารมณ์ครบทุกโมเมนต์กว่า 8 ชั่วโมงเต็ม และพิเศษสุดๆ สำหรับแฟนๆ ทั่วโลกยังสามารถฟินทะลุจอแบบเรียลไทม์ ไปกับการรับชมแบบ Live Streaming ผ่านทาง “TTM LIVE” (Thaiticketmajor Live) ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ครอบคลุมทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งกระแสแรงเกินต้านสนั่นโซเชียล จนทำให้ #GMMTVStarlympics2024 พุ่งขึ้น X Trends “อันดับ 1” ของโลก และประเทศไทย รวมถึงติด เทรนด์ในอีกมากกว่า 25 พื้นที่ทั่วโลก ยอดรวมในการโพสต์กว่า 7.7 ล้านครั้ง เรียกได้ว่าเป็นของขวัญส่งท้าย ปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้แฟนๆ ได้รับทั้งความสุขสนุกสนาน และเก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆ ไปพร้อมๆ กัน เมื่อวัน เสาร์ที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

เปิดงานด้วยทีมพิธีกรอารมณ์ดี “ก๊อตจิ, เลโอ, เจนนี่, ป๋อมแป๋ม” กล่าวต้อนรับเข้าสู่มหกรรมกีฬา และความบันเทิงอย่างเป็นทางการ กับขบวนพาเหรดจัดเต็มสุดอลังการและวงโยธวาทิตสุดตื่นตาตื่นใจ โดยหนุ่มหล่อสาวสวยดีกรีคฑากรของรั้วมหาวิทยาลัยอย่าง “ดัง, เอิร์น, เต, บุ๊ค, เจมี่, โอม ฐิภากร” และ Mascot ประจำงานสุดคิ้วท์ “โคเม่” นำนักกีฬาทั้ง 2 ทีม “Lightning Cheetah” และ “Shadow Eagle” เชียร์ลีดเดอร์ประจำทีม และแฟนๆ ผู้โชคดีทยอยเข้าสู่สนาม ท่ามกลางเสียงกรี๊ดต้อนรับของแฟนๆ กระหึ่มฮอลล์ โดยมี 4 ตัวตึงฝีปากกล้า “ต้าร์ Mr.Team (สุรชัย วงษ์บัวขาว), ป๋อมแป๋ม, มาร์ค ภาคิน, เฟย” รับหน้าที่พิธีกร ภาคสนาม ก่อนจะไปร่วมลุ้นใจระทึกกันทุกวินาทีกับการแข่งขันกีฬาทั้ง 3 ประเภท

เริ่มต้นเปิดสนามกับการแข่งกีฬาประเภทแรก “บาสเก็ตบอล” โดยนักกีฬาจากทั้ง 2 ทีม “Lightning Cheetah” ประกอบด้วย “ลุค, จิมมี่, ปอนด์, ภูวิน, มาร์ค ณฐริศร์, หลุยส์, คีน, เอเจ, เจเจ, ภวิน, สุดยอด” และ “Shadow Eagle” ประกอบด้วย “จอส, กวิน, นีโอ, นิว, บุ๊ค, อู๋, ริว, แอสตัน, ไตเติ้ล, อชิ, ธี, เตโช” ที่เตรียมความพร้อมมาอย่างดี งัดฝีมือกันมาขับเคี่ยวทำคะแนนกันอย่างดุเดือด จบ 2 Quarter แรกแฟนๆ ได้ผ่อนคลาย และเพลิดเพลินกับช่วงเวลาใกล้ชิดกับศิลปินคนโปรด ในกิจกรรม Mini Match ร่วมเล่นเกม “ยอดนักโยน Hoop Hunter” ที่ต่างก็โชว์ลีลาการโยนลูกบอลลงตระกร้าแบบเด็ดๆ ไม่ซ้ำกัน ก่อนเข้าสู่ครึ่งหลัง 2 Quarter ทั้ง 2 ทีมผลัดกันทำคะแนนสูสี สุดท้ายทีม “Shadow Eagle” ก็คว้าชัยชนะไปด้วยคะแนน 54:38

เข้าสู่การแข่งขันกีฬาประเภทที่ 2 “วิ่งผลัด 4 X 100 เมตร” เปิดตัวนักกีฬาจาก 2 ทีม Lightning Cheetah ฝ่ายชายได้แก่ “สิงโต, ซี ทวินันท์, ซี เดชชาติ, แซนต้า, เลโก้, ซิง, ม่อน, ฟลุ๊ค ณัฐนนท์” ฝ่ายหญิงประกอบด้วย “น้ำตาล, จูน, ป่าน ปทิตตา, แซมมี่, เจมี่, เซลซี, เอแคร์, เจนนี่” ส่วนทีม “Shadow Eagle” ฝ่ายชายประกอบด้วย “ฟอส, บุ๋น, มาร์ค ภาคิน, โอม ฐิภากร, อั่งเปา, เฟย, อั๋น, กัปตัน” ฝ่ายหญิงประกอบด้วย “มิ้ลค์, เอมี่, บอนนี่, มิวนิค, มิ้นท์, พิพลอย, มายเม่, พรีม ณัฐณิชา” งานนี้ทั้งสองทีม ชาย-หญิง ที่ซุ่มฟิตซ้อมมาอย่างดี ตั้งหน้าตั้งตาใส่เกียร์เบอร์แรงสุดวิ่งกันฝุ่นตลบ ส่วนกองเชียร์ก็ลุ้นกันชนิด นั่งไม่ติด โดยวิ่งผลัดชาย ทีมที่ชนะได้แก่ทีม “Shadow Eagle” วิ่งผลัดหญิงทีมที่ชนะได้แก่ทีม “Lightning Cheetah” ส่วนช่วงใกล้ชิดกับศิลปินคนโปรด Mini Match “ทลายประตูคู่ Double Goal” แข่งกันยิงประตู ก็ลุ้นตัวโก่ง สนุกสนานไม่แพ้กัน

ส่งไม้ต่อให้การแข่งขันกีฬาประเภทสุดท้าย “ฟุตซอล” ทั้ง 2 ทีมต่างก็ส่งนักกีฬาตัวเด็ดๆ ลงสนาม ทีม “Lightning Cheetah” ประกอบด้วย “เจมีไนน์, โฟร์ท, สกาย, เพิร์ธ, โอม ภวัต, เล้ง, เฟิร์ส, ข้าวตัง, ชิม่อน, วิลเลี่ยม, นัท, ฮง, ตุ้ย, โอห์ม ฐิติวัฒน์, ฟลุ๊ค จีรัสณ์, ปาแปง, เคน, พอล, แสตมป์” ทีม “Shadow Eagle” ประกอบด้วย “วิน, ออฟ, นนน, ดิว, นานิ, มิค, จุง, ดัง, วินนี่, สตางค์, เปรม, บูม, จาว่า, พร้อม, โชกุน, โต๋, ลูค ภีมสรรค์, ฟรัง, เซิร์ฟ” โดยทั้ง 2 ทีมเอาจริงเอาจังขั้นสุดใส่กันไม่ยั้งตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนจะพักหายใจด้วย Mini Match “ศึกชักธง Tug Of War” แข่งกีฬาใกล้ชิดกับศิลปินคนโปรด ให้คนที่อยู่ท้ายแถวไปปลดธงของตัวเองให้ได้ ก็เชียร์กันเสียงดังกระหึ่มลุ้นกันจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ มาถึงครึ่งหลังก็ผลัดกันรุกผลัดกันรับ แฟนๆ ก็เชียร์กันแรงไม่แผ่ว ลืมคำว่าเหนื่อยกันเลยทีเดียว จบเกมด้วยคะแนนเสมอกัน 3:3 โดยทีม “Lightning Cheetah” ได้คะแนนจากการยิงของ “โฟร์ท” ที่ทำแฮทริกติดต่อกัน 3 ประตูรวด งานนี้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษฝั่งละ 5 ประตู และทีมที่คว้าชัยชนะไป ได้แก่ “Shadow Eagle” ด้วยคะแนน “7:5”

หลังจบการแข่งขันกีฬาทั้ง 3 ประเภท “พี่ถา-สถาพร พานิชรักษาพงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด มอบรางวัลเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักกีฬา เริ่มจากกีฬาแรก “บาสเกตบอล” ทีมที่ได้เหรียญเงิน ได้แก่ทีม “Lightning Cheetah” และทีมที่ชนะเหรียญทองพร้อมถ้วยรางวัล กีฬาบาสเกตบอล GMMTV STARLYMPICS 2024 ได้แก่ทีม “Shadow Eagle” รางวัลถัดมา “วิ่งผลัด 4x100 เมตร” ทีมหญิงที่ได้เหรียญเงิน ได้แก่ทีม “Shadow Eagle” และทีมหญิงที่ชนะเหรียญทองพร้อมถ้วยรางวัล กีฬาวิ่งผลัด 4x100 เมตร GMMTV STARLYMPICS 2024 ได้แก่ทีม “Lightning Cheetah” ส่วนทีมชายที่ได้เหรียญเงิน ได้แก่ทีม “Lightning Cheetah” และทีมชายที่ชนะเหรียญทองพร้อมถ้วยรางวัล กีฬาวิ่งผลัด 4x100 เมตร GMMTV STARLYMPICS 2024 ได้แก่ทีม “Shadow Eagle” และสุดท้ายกีฬา “ฟุตซอล” ทีมที่ได้เหรียญเงิน ได้แก่ทีม “Lightning Cheetah” และทีมที่ชนะเหรียญทองพร้อมรับถ้วยรางวัล กีฬาฟุตซอล GMMTV STARLYMPICS 2024 ได้แก่ทีม “Shadow Eagle”

จากนั้นเข้าสู่ช่วง Star Concert ความบันเทิงจากโชว์สุดยิ่งใหญ่จัดเต็มแสงสีเสียงกระหึ่ม ด้วยโชว์เปิด เวทีพาร์ทแรก ที่แฟนๆ กรี๊ดกันสุดเสียงกับเพลง “แรงอีกนิด (Sadistic)” ซิงเกิลเดบิวต์สุดเซ็กซี่จาก 4 หนุ่มมากความสามารถ “จุง-อู๋-แซนต้า-ปอนด์” จาก “PROJECT JASP.ER” (โปรเจกต์ แจสเปอร์) โชว์พลังเสียงและ Performance สุดเป๊ะ ส่งต่อแบบไม่พักหายใจกับเมดเล่ย์ 5 เพลงรวด “แอบรักไม่ทำให้ใครตาย (No Worries) มุก-อ้าย-เอมี่, โลกเอียง (Tilt) ตู-พรีม-นนน, Who Am I ดิว, เก็บความรู้สึกเก่ง (Invisible Tear) ฟอร์ด-หลุยส์-ฟลุ๊ค ณัฐนนท์, ไม่ทิ้งกัน สกาย-นานิ” ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ สนั่นฮอลล์

พาร์ทที่สองกับโชว์ชุดใหญ่เต็มอิ่มจุกๆ กับศิลปินคู่จิ้นสุดฮอตที่กอดคอกันมาแบบครบทุกโมเมนต์ครบ ทุกอารมณ์ “พลูโต น้ำตาล-ฟิล์ม, ช็อตฟีล มิ้ลค์-เลิฟ, แค่ที่แกง ซี เดชชาติ-คีน, Sweet but Naughty จอส-กวิน, ไม่ใช่บังเอิญ วิลเลี่ยม-เอส, จะไม่บอกใครละกันว่าเธอชอบฉันก่อน (Secret) มาร์ค ภาคิน-โอม ฐิภากร, แอบเพื่อน มาร์ค-ปูน, หมดมุก อู๋-บูม, PWB (Fan With Benefit) เกรท-อิน, รักพา โอม-เล้ง, ไม่รู้ว่ามันเรียกรักหรือเปล่า จูเนียร์-มาร์ค จิรันธนิน, แค่เธอเท่านั้น เพิร์ธ-แซนต้า, ขั้วตรงข้าม วินนี่-สตางค์, ผู้ร้ายปากแข็ง ฟอส-บุ๊ค, สะมะกึ๊ก สะมะกั๊ก เอิร์ท-มิกซ์, Destroy Love เฟิร์ส-ข้าวตัง, รักแรงทะลุนรก (Fast Love) จุง-ดัง, กว่าจะรักกันขนาดนี้ บุ๋น-เปรม, Love is You จิมมี่-ซี, แค่ในวันนั้น ปอนด์-ภูวินทร์, เหนื่อยหน่อยนะ-ไหล่เธอ เจมีไนน์-โฟร์ท” เรียกว่าเคมีเคใจเข้ากันสุดๆ จนแฟนๆ ฟูลฟิลขั้นสุด

ส่งต่อเวทีให้พาร์ทที่สามจากคู่ฮอตสุดฮิตตลอดกาลที่แฟนๆ เรียกร้องอยากให้รวมตัวกันมากที่สุด “ข้างๆ ยังว่าง ออฟ-กัน, ถ้าเธอได้ยิน เต-นิว, เสียงจากสายตา คริส-สิงโต” จากนั้นเข้าสู่พาร์ทที่ 4 รวมศิลปิน คุณภาพเบอร์แรงกับความมันส์เกินต้านจัดเต็มให้แฟนๆ ได้อินทั้งโหมดซึ้งและสนุกไปพร้อมกัน กับเพลง “โฮ่ง วิลเลี่ยม-เลโก้-นัท-ฮง-ตุ้ย LYKN, เทคะแนน แซงต์-เชลซี-เอแคร์-พรีม-ชาริ-เจ้าหญิง Rookies, วันเกิดเธอ ภูวินทร์, Secret เพิร์ธ, ทำไมต้องเป็นฉัน (Why Always Me?) นนน, นอนไม่พอ คริส, ดึกมากแล้ว วิน, ค้าง เจมีไนน์, ง้อ โฟร์ท” และส่งท้ายด้วยโชว์สุดปังกับเพลงฮิตเพลงดัง “ฉ่ำ วิลเลี่ยม-เลโก้-นัท-ฮง-ตุ้ย-จุง-ปอนด์, ลบยัง เจมีไนน์-โฟร์ท, ภาพสุดท้าย เพิร์ธ-ซี ทวินันท์-วิลเลี่ยม-กวิน และเพลงสุดท้าย “ฉ่ำ” ที่รวมศิลปินทุกคนบนเวทีปิดท้ายโชว์ด้วยความยิ่งใหญ่สุดประทับใจ ที่ทุกคนต่างก็ปล่อยพลัง หมดแม็กซ์เป็นของขวัญให้แฟนๆ สร้างความสุขความทรงจำดีๆ ร่วมกัน ส่งท้ายปีเก่า 2024 ต้อนรับปีใหม่ 2025 อย่างเต็มอิ่มและอบอุ่นกันถ้วนหน้า

โดยแฟนๆ สามารถรับชมการแสดงย้อนหลังได้ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. (GMT+7)-17 มกราคม 2568 เวลา 23.59 น. (GMT+7) ซึ่งสามารถรับชมการแสดงย้อนหลังได้ 660 นาที ต่อ 1 รหัสการรับชม และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com หรือ www.facebook.com/gmmtvofficial & IG & YouTube & X & Weibo : GMMTV

Danny นักร้องนำ The Script ยอมรับว่า คิดหนักกว่าจะตัดสินใจให้ The Script เดินหน้ากันต่อ

20 ธ.ค. 2567, 17:01 น.

Danny O’Donoghue นักร้องนำ The Script เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากมากว่าจะทำวงกันต่อไปหลัง Mark Sheehan จากไปอย่างไ

อย่างที่แฟนๆ ทราบข่าวกันไปแล้วว่า Mark Sheehan มือกีตาร์ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ร่วมกันก่อตั้งวง The Script เสียชีวิตจากอาการป่วยไปเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว

หลังจากนั้น สองคนที่เหลือในวงอย่าง Danny O’Donoghue และ Glen Power (มือกลอง) ต้องขบคิดกันอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรกับวง The Script ต่อไป?

"ช่าย เมื่อข่าวร้ายแบบนั้นเกิดขึ้น คุณต้องประเมินชีวิตทั้งชีวิตของคุณใหม่ ผมและ Glen มานั่งคิดกันว่า Mark เขาอยากให้เราทำยังไง?" O’Donoghue เล่า

"และผมก็รู้ว่าเขาอยากผลักดันให้เราก้าวต่อไป เขาเป็นเหมือนพลังขับเคลื่อนของวงอยู่เสมอ เขาเป็นคนที่พิเศษมากๆ"

"2-3 เดือนแรกเราเสียศูนย์กันไปเลยหลังจากที่เขาไม่อยู่แล้ว สิ่งที่เราตัดสินใจกันก็คือ เราจะไม่เอาใครมาแทนที่เขาในวง แต่เราจะเริ่มต้นบทใหม่กัน"

"ดังนั้น สิ่งที่เราต้องการทำก็คือ แทนที่จะเป็นวงดนตรีสามชิ้น เราก็กลายเป็นวงดนตรีสี่ชิ้นมันซะเลย"

และบทใหม่ของ The Script ก็เริ่มต้นขึ้นด้วยการรับเอา Ben Sargeant และ Ben Weaver เข้ามาร่วมวง

ตามมาด้วยการออกอัลบั้มชุดใหม่ Satellites จากนั้นก็ประกาศเวิลด์ทัวร์รอบใหม่ Satellites World Tour นั่นเอง

เตรียมพบกับความใจฟู ฟีลกู๊ด “เอิร์ท-มิกซ์-ชาคริต” ชวนดูตอนแรกซีรีส์ Ossan’s Love Thailand รักนี้ให้ “นาย” กดบัตรพร้อมกัน 22 ธ.ค.นี้

20 ธ.ค. 2567, 10:00 น.

พร้อมเปิดศึกรักครั้งใหญ่ให้แฟนๆ ฟีลกู๊ดกับการพบกันของคู่จิ้นคู่ฮอตสุดปัง “เอิร์ท พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ” และ “มิกซ์ สหภาพ วงศ์ราษฎร

ที่จะมาประชันฝีมือกับนักแสดงรุ่นพี่มากประสบการณ์ “ชาคริต แย้มนาม” กับบทบาทสุดท้าทาย ในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ที่ทุกคนรอคอย “Ossan’s Love Thailand รักนี้ให้ “นาย”” ฉบับเวอร์ชั่นไทย จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย

ที่จับมือแท็คทีมกันมาชวนแฟนๆ ดูตอนแรกพร้อมกัน ในงาน “Ossan’s Love : First-Eye-View” กับเรื่องราวความรักสุดวุ่นวาย ของหนุ่มโสดนายหน้าจัดหาบ้านที่ไม่เคยมีดวงเรื่องความรัก กลับต้องมากลายเป็นหนุ่มเนื้อหอม เมื่อเจ้านาย และเพื่อนร่วมงานพ่วงตำแหน่งเพื่อนร่วมบ้าน ดันมาตกหลุมรักเขาพร้อมกัน แถมเพื่อนสนิทที่แอบรักมาตลอดก็ดันมาสารภาพอีก พร้อมด้วยผู้กำกับฯ มากฝีมือ “อู๋ กรพรหม นิยมศิลป์” ที่จะมาพูดคุยถึงเบื้องลึกเบื้องหลังสนุกๆ และพิเศษสุดๆ กับโชว์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเหล่านักแสดงที่เตรียมมามอบให้แฟนๆ ได้ฟูลฟิลขั้นสุดกับทุกโมเมนต์ ในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568 เวลา 19.30 น. ที่ CINEMA 15, SF WORLD CINEMA, CENTRAL WORLD ชั้น 9 งานนี้พลาดไม่ได้จริงๆ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองบัตรเข้าร่วมงาน “Ossan’s Love : First-Eye-View” เปิดจำหน่ายบัตร วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ เริ่มเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป บัตรราคา 2,500 / 2,000 บาท ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา, www.thaiticketmajor.com และ Call center โทร 0-2262-3456 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com และ Facebook / Instagram / X / TikTok / YouTube / Weibo: GMMTV

POW เฉิดฉายสร้างความประทับใจบนเวที Jingle Ball Tour ที่นิวยอร์กครั้งแรก

20 ธ.ค. 2567, 10:00 น.

POW ปิดฉาก Jingle Ball Tour ช่วงปลายปีในที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ท่ามกลางเสียงเชียร์และการร้องตามของแฟน ๆ ทั้งยังโชว์ศักยภาพในฐานะ

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งประกอบไปด้วย สมาชิก ได้แก่ Yorch, Hyun Bin, Jeong Bin, Dong Yeon และ Hong ประสบความสำเร็จในการแสดงครั้งแรกแสดงบนเวที Jingle Ball Tour ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ด้วยการแสดงที่เต็มไปด้วยพลังงานสดใส พร้อมท่าเต้นอันทรงพลัง และเสน่ห์ที่หลากหลาย ทำให้ดึงดูดผู้ชมในฮอลล์อย่างอยู่หมัด

POW ได้แสดงทั้งหมด 4 เพลง ได้แก่ Favorite, Slow Dancing, Dazzling และ Boyfriend โดยพวกเขาโชว์พลังเสียงสดที่แข็งแกร่งและเอกลักษณ์ที่สดใสตั้งแต่เพลงเปิดตัว Favorite ซึ่งได้รับการร้องตามจากผู้ชมอย่างล้นหลาม สมาชิกวงตอบรับด้วยการแสดงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น สร้างความประทับใจแบบไม่รู้ลืม

แม้จะเป็นการเข้าร่วม Jingle Ball Tour ครั้งแรก POW ก็สร้างความประทับใจด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมและเสียงเชียร์ที่ล้นหลามจากผู้ชม การสนับสนุนที่อบอุ่นของแฟนเพลงสะท้อนถึงการเติบโตของ POW ในระดับสากล พวกเขาได้กล่าวบนเวทีว่า “เราสัมผัสได้ถึงพลังงานของนิวยอร์ก พวกเรามีความสุขมาก มาร่วมสร้างความทรงจำที่สวยงามไปด้วยกัน” พร้อมสื่อสารกับผู้ชมด้วยภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว

ก่อนการแสดงเพลง Boyfriend หนุุ่มๆ POW ได้กล่าวว่า “เพลงนี้เป็นการรีเมคจากเพลงระดับตำนานของ Avril Lavigne อย่าง Girlfriend พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สร้างสรรค์เพลงนี้ในมุมมองใหม่” ซึ่งสร้างความรู้สึกคิดถึงให้กับแฟนเพลงชาวอเมริกัน ในขณะเดียวกันก็นำเสนอความแปลกใหม่ไปพร้อมกันด้วย

ในฐานะเทศกาลดนตรีส่งท้ายปีที่รวบรวมศิลปินชั้นนำระดับโลก Jingle Ball Tour ในนิวยอร์กได้รับความสนใจจากสื่อท้องถิ่น โดยสถานีวิทยุชื่อดัง Z100 New York ได้สัมภาษณ์ POW และเน้นย้ำถึงการเติบโตในระดับโลกของพวกเขา นอกจากนี้ สื่อระดับนานาชาติอย่าง Billboard และ NME เคยพูดถึง POW ในฐานะวง K-pop ที่กำลังเติบโตและมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยเพิ่มความคาดหวังต่อกิจกรรมในอนาคตของวงนี้

สำหรับ Jingle Ball Tour เป็นเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดย iHeartMedia กลุ่มสื่อที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยจัดการแสดงในเมืองสำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศ

เตรียมชมโมเมนต์หวานกับเคมีเกินต้าน “น้ำตาล-ฟิล์ม” ชวนลุ้นตอนจบซีรีส์ “Pluto นิทาน ดวงดาว ความรัก”เปิดขายบัตร 21 ธ.ค.นี้

19 ธ.ค. 2567, 12:00 น.

รอฟิน! “น้ำตาล-ฟิล์ม” ปิดโรงหนังชวนก๊วนเพื่อน ร่วมลุ้นตอนจบซีรีส์ “Pluto นิทาน ดวงดาว ความรัก” กับงาน “Pluto Final EP. Fan Meeting

เสิร์ฟโมเมนต์หวานละมุนใจรัวๆ จนแฟนๆ อินและเคลิ้มไปกับเคมีที่ลงตัวเกินต้าน ของ 2 นักแสดงสาวสวยมากความสามารถ “น้ำตาล-ทิพนารี วีรวัฒโนดม” ในบทฝาแฝดสุดหิน “ไออุ่น-โอบอุ้ม” และ “ฟิล์ม-รชานันท์ มหาวรรณ์” กับบททนายสาวตาบอด “เม” ที่ทั้งคู่มาประกบคู่กันเป็นครั้งแรก สาดความฟินจิ้นทะลุจออย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ EP.แรกที่ออกอากาศจนถึงตอนล่าสุด ในซีรีส์แนวโรแมนติก-ดราม่า “Pluto นิทาน ดวงดาว ความรัก” ความรักทำให้เรา โคจรมาเจอกัน จาก “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย และก่อนซีรีส์จะลาจอไป “น้ำตาล-ฟิล์ม” ได้กุมมือแท็คทีมก๊วนเพื่อนสุดปัง “ไซซี-รัตท์ริชา ประภากิติ, กระปุก-พลอยนิรา หิรัญทวีศิลป์, เอิร์น-ปรียาภัทย์ หล่อสุวรรณศิริ, อาร์ม-วีรยุทธ จันทร์สุข, โต๋-ทินพันธ์ ตันตุ้ย, ไตเติ้ล-กีรติ พวงมาลี, กาย-ศิวกร เลิศชูโชติ” และผู้กำกับฯ “Snap25 Team” ชวนแฟนๆ ร่วมลุ้นบทสรุปความสัมพันธ์ของทุกตัวแสดงไปพร้อมกัน ในงาน “Pluto Final EP. Fan Meeting” วันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2568 เวลา 19.30 น. ณ ชั้น 6 สยามพารากอน - โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย Paragon Cineplex และเตรียมรับความสนุกไปกับ Special Show สุด Exclusive จากเหล่านักแสดง และสัมภาษณ์พิเศษสุดอบอุ่น งานนี้รับรองว่าแฟนๆ ได้รับความฟินฉ่ำๆ กลับบ้านไปแน่นอน

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจับจองบัตรเข้าร่วมงาน “Pluto Final EP. Fan Meeting” โดยจะเปิดจำหน่ายบัตร ในวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคมนี้ เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป บัตรราคา 2,500 / 2,000 / 1,500 บาท ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา, www.thaiticketmajor.com และ Call Center โทร 0-2262-3456 พร้อมสิทธิ์รับ Pluto Photocard (size 5x7") with hand-signed autographs (Namtan,Film) ทุกที่นั่ง สามารถรับได้ที่จุดลงทะเบียนหน้างาน และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ : www.thaiticketmajor.com, Facebook / Instagram / X / TikTok / YouTube / Weibo: GMMTV

5 ชั่วโมงแห่งความฟิน ประมวลภาพความฟิน เต็มอิ่ม เต็มตา เติมเต็มใจ ใน DAN - BEAM DREAM 2 BE CONCERT 21ST CENTURY DADDY’S CLUB

17 ธ.ค. 2567, 17:30 น.

คอนเสิร์ตใหญ่ส่งท้ายปี 2024 ที่ RS SHOWBiZ ในเครือ RS Music จัดเซอร์ไพรส์ด้วยโชว์สุดพิเศษแบบลืมหายใจให้กับ สองพ่อพ่อ ‘แดน-บีม’ ไอด

โชว์ซิกซ์แพ็กร่างทอง อย่างที่ไม่เคยทำที่ไหนมาก่อน แต่ฝึกซ้อมฟอร์มกล้ามอย่างหนัก เพื่อให้ทุกคนที่อยู่ในอิมแพ็ค อารีน่า เมื่อคืนวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้ภาคภูมิใจในเมนคนแรกกับลุคใหม่แบบสับ! ฉบับ ‘แดน-บีม’

โดยความสนุกสนานเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ ‘คลับแด๊ดดี้’ เปิดตัวด้วยแสง สี สุดอลังการ พร้อมเสียงกรี๊ดดังลั่น ให้กับการปรากฏตัวของสองไอดอล และทีมแดนเซอร์ที่มาออกสเต็ปมันส์จนเต็มเวทีกับเพลง ‘Call Me Daddy’ ตามด้วย ‘ใช้เบอร์เดิม, โสด’

หลังพูดคุยทักทาย ก็ไปสู่ช่วง #โตมากับอาร์เอส หรือที่ทั้งคู่เรียกว่าช่วง #เพลงฮิตเฮียฮ้อ ประกอบด้วยเพลงดังที่สองหนุ่มชื่นชอบในช่วงเวลาเดียวกันอย่าง ‘ใจเกเร, รักไม่ได้หรือไม่ได้รัก, มีอะไรอีกมั้ยที่ลืมบอก(Top Secret)’ ก่อนจะข้ามจักรวาลมาพบกับหนุ่มหล่อสุดละมุน ‘โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร’ ที่นอกจากจะมาร้อยเรียงเพลง ‘คิดมาก’ ผ่านการบรรเลงเปียโนเวอร์ชันใหม่ ก็ยังมาเคลียร์ใจเรื่องนางเอกเอ็มวี ‘น้องแพตตี้’ ของ ‘แดน’ ใน ‘เพลงของหัวใจ’ ส่วนโจทก์อย่าง ‘บีม’ ก็ขอขุดอดีตที่เคยแพ้อันดับให้กับเพลงของ ‘โต๋’ แต่พอได้มาโชว์ร่วมกันในเพลง ‘แฟนใครไม่รู้’ และ ‘มั้ง’ ก็กลายเป็นเวอร์ชันที่น่าจดจำอีกครั้งหนึ่ง

เข้าสู่ช่วงเอาใจเหล่าสไนเปอร์ให้ได้กรี๊ดสุดเสียง เมื่อพ่อพ่อลงมาเสิร์ฟอ้อมกอด พร้อมกลิ่นอายให้แบบใกล้ชิดติดโซนมินิสเตจ ในเพลง ‘ใกล้, สายตายาว’ ก่อนจะถึงฉากสำคัญที่ทุกคนแอบหวัง จะได้ชมโชว์สุดพิเศษแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจากสองแด๊ดดี้ ที่ก็ไม่เกินคาดเพราะภาพร่างทองกล้ามแน่น พร้อมสเต็ปเต้นเตะน้ำกระจาย ก็ทำเอาสไนเปอร์เกือบหัวใจวาย กล้องมือถือสั่นไหวไปกับจังหวะเพลง ‘อยากให้เธอกัด’

พักหายใจหายคอ แล้วมาตามความสนุกกันต่อ กับแก๊งป่วนสุดฮา ‘โก๊ะตี๋ อารามบอย และ จตุรงค์’ ที่พาทุกคนย้อนความหลังเอาหนังดังที่ยังอยู่ในใจ มาให้แฟน ๆ หายคิดถึงในช่วง ‘มิวสิคัล แสบสนิทศิษย์คลื่นเหงา’ ที่ได้แขกรับเชิญอย่าง ‘เจนนี่ ปาหนัน’ มาเติมสีสันบนเวทีในเพลง ‘แช่แวบ (ไม่อยากเป็นพระ)’ กับ ‘แดน’ ก่อนที่สาวข้างบ้านอย่าง ‘พอลล่า เทเลอร์’ จะก้าวออกมาเซอร์ไพรส์สไนเปอร์ ด้วยชุดสีแดงสด สวยสะกดทุกสายตา จนทำให้เพลง ‘อยากให้รู้ว่ารักเธอ’ ในเวอร์ชันของ ‘บีม’ นั้นหวานโรแมนติกไปทั้งฮอลล์

กลับมาในช่วง 2020s ที่การันตีความเป็นไอดอลตัวพ่อที่อยู่มาทุกยุค ด้วยการเลือกโชว์เพลง ‘Seven’ ผลงานเดี่ยวของ ‘Jung Kook’ มักเน่ทองคำแห่งวง ‘BTS’ ก่อนจะนำเพลงป๊อปสมัยใหม่ มาผสมผสานกับผลงานของ ‘D2B’ จนเป็นเวอร์ชันที่ไพเราะลงตัว อย่าง ‘ดาวหางฮัลเลย์ (Halley's Comet) X ปาฏิหาริย์ครั้งสุดท้าย’ และ ‘ต่อจากนี้เพลงรักทุกเพลงจะเป็นของเธอเท่านั้น X นับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ’ พร้อม ๆ กับการโคจรมาพบกับ ‘วี วิโอเลต วอเทียร์’ สาวสวยมากความสามารถที่สารภาพว่าเป็นแฟนคลับตัวยง ‘D2B’ มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ จวบจนวันนี้ที่มิชชันคอมพลีท ได้มายืนบนเวทีเดียวกันเพื่อโชว์พลังเสียงแบบอินเนอร์มาเต็มกับเพลง ‘The Trouble is..ปัญหาของฉัน, จังหวะจะรัก, เวลาไม่เคยพอ’ พร้อมชวนพ่อพ่อโยกต่อกับเพลงฮิต ‘APT.’ เป็นที่แรก

การเดินทางมาถึงช่วงเวลาของ ‘D2B FAMILY’ เริ่มที่เพลง ‘ไม่มีเธอวันนั้น ไม่มีฉันวันนี้’ ที่ ‘แดน-บีม’ ตั้งใจถ่ายทอดในความรักความผูกพันให้กับสไนเปอร์ทุกคน จนมาถึงซีนน่ารักของภรรยาทั้ง ‘แพตตี้ อังศุมาลิน และ ออย อฏิพรณ์ จิตต์ธรรมวงศ์’ ที่พาสมาชิกตัวน้อยขึ้นมาจอยบนเวที งานนี้ ‘พี่ธีร์-ธีร์ทองธรรม, น้องพีร์-พีร์ทองธรรม และ อัยวา-อัยย์วาริน, อัญญา-อัญญ์ญาริน ตันจรารักษ์’ ก็ทำให้ทุกคนได้เห็นมิติใหม่จากเพลง ‘ไม่เปลี่ยนใจ(เธอคนเดียว)’ ในแบบป่วน และเปลี่ยนไปจากเดิม เพิ่มเติมฉากสำคัญที่เชิญ ‘คุณพ่ออุดม กิตติกรเจริญ’ คุณพ่อของ ‘บิ๊ก-ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ’ ขึ้นมาถ่ายภาพครอบครัว พร้อม ๆ กับฟังเพลง ‘คนใจอ่อน (อ่อนใจ)’ ที่ทำให้หลายคนมีน้ำตา

เวลาผ่านมาถึงช่วงท้ายที่พ่อพ่อ พาสไนเปอร์เต้นไปกับเมดเล่ย์เพลงฮิตประจำตัว ‘ไปน่ารักไกลๆหน่อย, ซ่าส์...(สั่นๆ)’ ก่อนจะส่งเพลงซึ้ง ‘แค่หนึ่งนาที, ต่อหน้าฉัน (เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร)’ ให้ความรู้สึกฟูลฟีล เติมเต็มความสุขความทรงจำสำหรับทุกคนตลอดไป

ซึ่งนอกจากจะเป็นการปิดฉากความรู้สึกอิ่มเอมใจให้กับชาวสไนเปอร์แล้ว ยังได้เติมเต็มประสบการณ์ใหม่ ให้กับ ‘กลุ่มพนักงานกวาด จากสำนักเขตจตุจักร’ จำนวน 40 คน ได้มาเข้าร่วมชมคอนเสิร์ตครั้งนี้ ในโครงการ ‘RS HAVE A SEAT’ ที่แบ่งปันพื้นที่พิเศษในกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ ของ ‘อาร์เอส กรุ๊ป’ เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงประสบการณ์ความบันเทิงเต็มรูปแบบ ช่วยสร้างความสุข รอยยิ้ม และปลุกแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตต่อไป

Bangkok Music City เทศกาลเพื่อคนรักดนตรี ชมฟรี! คอนเสิร์ต - โชว์เคส 1-2 มีนาคม 2568 ที่ย่านสร้างสรรค์เจริญกรุง

17 ธ.ค. 2567, 17:00 น.

งานประชุมด้านเทคโนโลยีบันเทิงและโชว์เคสดนตรีนานาชาติ “Bangkok Music City” กลับมาจัดอีกครั้งในรอบ 4 ปี คนรักและสนใจในธุรกิจดนตรีห้า

การันตีความหลากหลายทั้งไลน์อัปศิลปิน หัวข้อสัมมนา และกิจกรรมเพื่อคนรักดนตรี จัดโดย Live Nation Tero, ฟังใจ และ NYLON Thailand สนับสนุนโดย

Bangkok Music City หรือ BMC ก่อตั้งขึ้นเพื่อผลักดันและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดนตรีและบันเทิงไทยสู่ตลาดโลก ผ่านการจัดสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็น มีพื้นที่โชว์เคสให้ศิลปินไทยและศิลปินนานาชาติได้มาแสดงความสามารถ โดยมีการเชิญนักธุรกิจดนตรี (Delegates) จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อเฟ้นหาศิลปินที่เหมาะกับทัวร์การแสดงหรือเข้าร่วมเทศกาลดนตรี รวมทั้งตีตลาดเพลงในประเทศนั้น ๆ

โดยครั้งนี้ Bangkok Music City ได้เลือกสถานที่จัดงานที่ย่านสร้างสรรค์เจริญกรุง แหล่งรวมสถานที่และร้านค้าที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ปักหมุดไปรษณีย์กลางบางรักเป็นเวทีหลักสำหรับการแสดง นอกจากนี้ยังกระจายพื้นที่โชว์เคสทางดนตรีไปยังบริเวณรอบ ๆ สอดคล้องกับแนวคิด “Venue Hopping” ที่อยากให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคน ได้มีโอกาสสำรวจย่านเจริญกรุง - ตลาดน้อย ไปพร้อม ๆ กับการได้เสพผลงานทางดนตรีและศิลปะบันเทิงที่เหล่าศิลปินตั้งใจรังสรรค์มาเพื่องานนี้

นอกจากแฟนเพลงทั่วไปจะได้ดูการแสดงจาก 4 เวที รวมกว่า 50 ศิลปินแล้ว ภายในงานยังเป็นพื้นที่ของเหล่าผู้จัดเทศกาลดนตรีจากต่างประเทศได้ค้นพบศิลปินไทยและประเทศเพื่อนบ้านภายในงาน เพิ่มโอกาสได้รับเชิญไปขึ้นแสดงตามเทศกาลดนตรีและคอนเสิร์ตทั่วโลก สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่รัฐบาลพยายามผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้ไปยืนอยู่บนเวทีโลก

คนรักดนตรีห้ามพลาด! กับเทศกาล Bangkok Music City เปิดให้เข้าชมฟรีในส่วนของคอนเสิร์ตและโชว์เคส และมีค่าใช้จ่ายในส่วนของสัมมนา พิเศษ! สำหรับเหล่าศิลปิน ขณะนี้ Bangkok Music City เปิดรับสมัครศิลปินเพื่อเข้าร่วมแสดงภายในงาน (Open Call) สามารถสมัครได้ที่นี่ ตั้งแต่วันนี้ถึง 8 กุมภาพันธ์ 2568

สุดมันส์ส่งท้ายปี คืนพระจันทร์สวยที่สุด ‘Stray Kids World Tour ’ สุดยอดวงเพอร์ฟอร์แมนซ์ระดับโลก

17 ธ.ค. 2567, 11:40 น.

’ สุดยอดวงเพอร์ฟอร์แมนซ์ระดับโลก"/>

ปิดฉากไปอย่างงดงามสำหรับคอนเสิร์ต K-POP สุดมันส์ส่งท้ายปี 2024 ‘Stray Kids World Tour ’ ที่เหล่าเด็กหลง ‘Stray K

แสงเสียงดี เวทีปัง พลังศิลปินไม่มีอ่อม ทั้งยังรายล้อมด้วยนาชิมบงจากเหล่า STAY กว่า 20,000 คนทั่วสนามศุภชลาศัย เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา

‘Stray Kids’ เปิดตัวด้วยอินโทรสุดเท่ วอร์มอัปด้วย 3 เพลงแรก ‘MOUNTAINS’ , ‘Thunderous’ และ ‘JJAM’ ที่แม้จะมีสายฝนปรอย ๆ ในช่วงแรก แต่ก็สร้างบรรยากาศให้ ‘Thunderous’ ในเมืองไทยพิเศษกว่าสเตเดียมโชว์ที่ไหนในทัวร์ครั้งนี้ ก่อนที่เหล่าเด็กหลงจะแนะนำตัวกันแบบสั้น ๆ และจัดเต็มความสนุกกันต่อกับเพลง ‘District 9’ และ ‘Back Door’ ตามด้วยพาร์ทโซโล่เซ็ตแรกจาก ‘HAN’, ‘Lee Know’, ‘Seungmin’ และ ‘Hyunjin’

ฝนเริ่มซา ฟ้าเป็นใจปล่อยคิวลมให้เหล่า STAY ได้เต้นกันเพลิน ๆ ไปกับเซ็ตเพลงแดนซ์สุดจึ้งทั้ง ‘Chk Chk Boom’ , ‘TOPLINE’, ‘Super Bowl’, ‘COMFLEX’ และ ‘LA LA LA’ พักหายใจหายคอไปกับ ‘Twilight’, ‘Lonely St.’ และ ‘Social Path’ ปิดท้ายพาร์ทนี้ไปด้วยโซโล่จาก ‘Bang Chan’, ‘I,N’, ‘Felix’ และ ‘Changbin’

เดินทางเข้าสู่ครึ่งหลังของคอนเสิร์ตด้วยเพลงฮิตจัดเต็มเช่น ‘DOMINO’, ‘God’s Menu’, ‘S-Class’ รวมไปถึง ‘Maniac’ ให้ STAY เต้นใหญ่ใส่สุด สมกับที่รอคอยมาปีกว่า ๆ และในระหว่างการแสดงหนุ่ม ๆ ‘Stray Kids’ ยังร้องเพลงใหม่ที่เพลงปล่อยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอย่าง ‘Walkin On Water’ แบบสั้น ๆ ให้ STAY ไทยได้ฟังแบบสด ๆ กันเป็นที่แรกในโลกอีกด้วย

นอกจากความสนุกที่เหล่าเด็กหลงเสิร์ฟให้แล้ว STAY ไทยก็เสิร์ฟความฟินให้ศิลปินไม่แพ้กัน ด้วยการทำแฟนโปรเจ็กต์ทะเลดาว ท่ามกลางพระจันทร์บนท้องฟ้า สร้างความทรงจำสุดพิเศษระหว่าง ‘Stray Kids’ และเหล่า STAY ให้มีความหมายยิ่งขึ้น ด้วยประโยคสุดซึ้ง “ถ้าสเตรย์คิดส์และสเตย์อยู่ด้วยกัน พวกเราจะเปล่งประกายเสมอ ⭐️” ที่ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้แฟน ๆ ที่ไปชมคอนเสิร์ต แต่ยังไวรัลไปถึงเหล่า STAY ต่างประเทศที่คอยติดตามผ่านทางโซเชียลมีเดียอีกด้วย

การแสดงที่แข็งแรงและทรงพลัง ผสานกับวิชวลตาแตก แสง สี เสียงสุดอลังการ คำกล่าวที่ว่า ‘ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้ดู Stray Kids ที่สเตเดี้ยม’ นั้น คงไม่เกินความจริงแต่อย่างใด

Photo Courtesy of JYP Entertainment, Live Nation Tero, @Oatjiww, @MILQP_ntp

อีก 2 วีคเจอกันงานปาร์ตี้คอนเสิร์ต! “ดีแลน หวัง” ส่งคลิปทักทาย “ชงตี้ฮั่วไทย” ใครมีบัตรแล้วกำบัตรไว้ให้แน่น!

16 ธ.ค. 2567, 15:00 น.

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับงานคอนเสิร์ตปาร์ตี้ ที่นักแสดงหนุ่มตี๋ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร “หวังเฮ่อตี้” หรือ “ดีแลน หวัง” (Dylan Wang) ฟิตซ้อ

ทุกคนอย่างใกล้ชิดให้ได้ใจสั่นระรัวพร้อมกัน ที่งาน “2024-2025 Dylan Wang D.PARTY CONCERT IN BANGKOK” งานนี้หนุ่มดีแลนตอกย้ำความฮอตแรงสร้างปรากฏการณ์ บัตร SOLD OUT อย่างรวดเร็ว!! ใครที่มีบัตรไว้ในครอบครองเตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปสนุกด้วยกันได้เลยกับงานปาร์ตี้คอนเสิร์ตที่จะให้ทุกคนได้รับประสบการณ์ตื่นตาตื่นใจที่ครบอรรถรสมากที่สุด และเซอร์ไพรส์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแน่นอน!!

ก่อนที่จะได้พบกัน “ดีแลน หวัง” ได้ส่งตรงคลิปสุดเอ็กซ์คลูซีฟมาถึงแฟนๆ ให้ได้เตรียมตัว เตรียมหัวใจให้พร้อมก่อนมาเจอกัน “สวัสดีครับ ผม หวังเฮ่อตี้ ครับ ผมตื่นเต้นมากๆ อีก 2 สัปดาห์ D.PARTY ของเราก็กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว! พวกคุณพร้อมมาปาร์ตี้กับผมแล้วหรือยังครับ? แล้วพบกัน 28 ธันวาคมนี้ ที่ อิมแพ็ค อารีน่า! ผมรักคุณ! แล้วเจอกันครับ! บ๊าย บาย~”

แค่เห็นรอยยิ้มและความสดใสของดีแลนเข้าไป เชื่อว่าทุกคนอยากตะโกนถามดังๆ ว่า ขอคนเข้าใจกับสิ่งนี้ที่ทำให้ใจฟูและใจละลายยกด้อมแล้ว ถ้าใครเข้าใจก็กำบัตรไว้ดีๆ อีก 2 สัปดาห์ก็จะได้ไปพบเจอกับหนุ่มฮอตคนนี้ด้วยตาเนื้อแล้ว ได้โปรดเตรียมตัวให้ดี เพราะปาร์ตี้คอนเสิร์ตครั้งนี้ดีแลนไม่ได้มาคนเดียว เขายังพาสเปลเชียลเกสต์และเหล่าพ้องเพื่อนมาร่วมเสิร์ฟความมันส์ให้ทุกคนได้มาสนุกกันเต็มอัตรา นอกจากนั้นยังเตรียมความพิเศษอีกหลายโชว์เพื่องานนี้โดยเฉพาะอีกด้วย บอกได้เลยว่างานนี้มีแต่ความคุ้ม! ดีแลนพร้อมมาตอบแทนความรักที่ทุกคนมอบให้เสมอมาผ่านความสนุกและความสุขที่ทุกคนจะได้รับจากปาร์ตี้คอนเสิร์ตครั้งนี้

รวมถึงผู้จัด “ไอมี่ไทยแลนด์” ก็พร้อมซัพพอร์ตไม่อั้นกับโปรดักชั่นสุดอลังการ แสง สี เสียงจัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้ทุกคนในงานได้ดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกับดีแลนอย่างเต็มที่ ค่ำคืนนั้นจะเป็นค่ำคืนที่ดีแลนและเหล่าชงตี้ฮั่ว จะได้มาร่วมเก็บความประทับใจแบบไม่มีวันลืมไปด้วยกัน แล้วพบกันที่งาน 2024-2025 Dylan Wang D.PARTY CONCERT IN BANGKOK ในวันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 น. ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ติดตามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook @imethailand, IG และ Twitter @ime_th

Glass Animals ปล่อยวีดีโอแสดงสดเพลง A Tear In Space (มีคลิป)

16 ธ.ค. 2567, 14:18 น.

Glass Animals วงอินดี้จากอังกฤษจัดการปล่อยวีดีโอแสดงสดเพลง A Tear in Space (Airlock) ออกมาให้ได้ชมกัน

วีดีโอแสดงสดนี้ถ่ายทำกันในคอนเสิร์ตที่ The Gorge Amphitheatre, วอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาได้แสดงต่อหน้าแฟนๆ ที่เข้ามาชมถึง 30,000 คน โดยคอนเสิร์ตดังกล่าวเป็นหนึ่งในโชว์ของทัวร์คอนเสิร์ต Tour of Earth นั่นเอง

สำหรับ A Tear in Space (Airlock) คือหนึ่งในเพลงเอกจากอัลบั้มชุดใหม่ล่าสุด I Love You So F***ing Much

ซึ่งเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา A Tear in Space (Airlock) ก็เป็นเพลงที่ Glass Animals นำมาโชว์ในเทศกาลดนตรี Clockenflap 2024 ที่ฮ่องกงด้วยเช่นกัน

GRACIE ABRAMS ส่ง That's So True ยึดอันดับหนึ่ง UK Singles Chart ติดต่อกัน 5 สัปดาห์!

9 ธ.ค. 2567, 14:05 น.

อีกหนึ่งหลักฐานที่เป็นเครื่องการันตีถึงความฮิตของเพลง That's So True ซิงเกิ้ลที่ทำให้ใครหลายๆ คนตกหลุมรัก Gracie Abrams

โดยล่าสุด That's So True ยังคงยึดอันดับหนึ่งใน UK Singles Chart ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ซึ่งนั่นหมายความว่าเพลงดังกล่าวครองอันดับหนึ่งต่อเนื่องมา 1 เดือนเต็มๆ แล้วในตอนนี้!

สำหรับ That's So True ทะยานขึ้นถึงอันดับหนึ่งสัปดาห์แรกใน UK Singles Chart เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ซึ่งนั่นส่งให้ That's So True กลายเป็นเพลงอันดับหนึ่งเพลงแรกในเกาะอังกฤษของศิลปินสาวมากความสามารถคนนี้ด้วยนั่นเอง

ประทับใจเกินร้อยเปอร์เซ็นต์! เก็บตกคอนเสิร์ต N.Flying มันส์เวทีสะเทือน คุ้มเกินคุ้ม!

2 ธ.ค. 2567, 13:05 น.

สนุกสมการรอคอย สำหรับคอนเสิร์ตในรอบ 2 ปี ที่ประเทศไทยของวงดนตรีมากความสามารถ “N.Flying” โดยเมมเบอร์ทั้ง 4 คนที่มาร่วมเสิร์ฟความสนุ

นำโดยหัวหน้าวง “อีซึงฮยอบ” (Lee Seung Hyub) , ยูฮเวซึง (Yoo Hwe Seung) , ซอดงซอง (Seo Dong Sung) และ “ชาฮุน” (Cha Hun) ได้กลับมาหาเหล่า “เอ็นเฟีย” ชาวไทย (N.Fia : ชื่อแฟนคลับ) ตามคำสัญญา ในงาน “2024 N.Flying LIVE ‘HIDE-OUT’ in BANGKOK” ที่จัดเต็มโปรดักชั่น แสง สี เสียง โดยจัดขึ้น ณ MCC Hall เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค เมื่อเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา

ออกสตาร์ทเปิดเวทีก็ร้อนแรงเหนือคำบรรยายโดดกันยับ 3 เพลงรวด ‘Flowerwork’ , ‘Video Therapy’ , ‘Born to be (เพลงที่ยังไม่ถูกปล่อย)’ ก่อนจะพักเบรกให้ทุกคนได้พักเหนื่อย ทั้ง 4 หนุ่ม N.Flying พูดคุยทักทายเอ็นเฟียพร้อมรีเช็กเสียงความคิดถึงหลังไม่เจอกันมานาน 2 ปี และบอกแฟนๆ ว่าพวกเขาเองก็นับวันรอที่จะได้มาเจอกัน เพราะทุกครั้งที่มาประเทศไทยก็จะได้ความทรงจำดีๆ กลับไปเสมอ วันนี้เลยขอเปิดฐานลับต้อนรับทุกคนในฮอลล์ให้สนุกไปด้วยกันเต็มที่แบบไม่ต้องยั้ง

จากนั้นไปกันต่อที่เพลงฮิต ‘Star’ ซิงเกิลประกอบซีรีส์ดัง “Lovely Runner” ตามมาด้วยเพลงใหม่ล่าสุดของพวกเขาอย่าง ‘Into You’ ที่แฟนๆ ได้ทำโปรเจคเซอร์ไพรส์แรกชูป้ายสโลแกนคำว่า “엔플라잉 네가 내 마음에 자리 잡았다” (N.Flying พวกคุณได้เข้ามาครองหัวใจของฉันแล้ว) ทำเอาหนุ่มๆ เห็นแล้วยิ้มด้วยความปลื้มใจ แล้วได้พาทุกคนคอนทีนิวความสนุกต่อเนื่องพร้อมชวนออกสเต็ปเบาๆ กับเพลง ‘YOUTH’ , ‘Oh really’ ต่อด้วยเพลง ‘Blue Moon’ ที่เพียงแค่ดนตรีเริ่มขึ้น แฟนๆ ก็พร้อมใจกันเปิดแฟลชมือถือสว่างไสวเต็มไปด้วยแสงสีฟ้าทั้งฮอลล์จนจบเพลง

มาถึงช่วงที่เหล่าเอ็นเฟียได้นั่งพักออมแรง แต่กลายเป็นว่าทุกคนกลับเคลิ้มกับลิสต์เพลงช้าและเสียงร้องสายโวคอลของหนุ่ม “ยูฮเวซึง” ในเพลง ‘I Think I Did’ เพลงประกอบซีรีส์ “Lovely Runner” ที่ได้รับความนิยมจนคว้ารางวัล BEST OST. จากงานKorea Grand Music Awards 2024 มาหมาดๆ ต่อด้วยเพลง ‘FLOWER FANTASY’ ที่เพราะกินใจไม่แพ้กัน จากนั้นไต่ระดับความมันส์พุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ หนุ่มๆ ขนเพลง ‘Love you like that (เพลงที่ยังไม่ถูกปล่อย)’ , ‘GOOD BAM’ , ‘ANYWAY’ , ‘4242’ , ‘Autumn Dream’ , ‘Awesome’ , ‘Moonshot’ มาโชว์สกิลสายร้องและศักยภาพด้านดนตรีสมกับที่ถูกยกให้เป็นวงแสดงสดได้เยี่ยมยอดทุกสเตจ รวมไปถึงไม่พลาดหยิบเพลง ‘Monster’ มาร้อง ท่ามกลางแสงสวยๆ จากแท่งไฟเรืองแสงอีกหนึ่งโปรเจคพิเศษจากแฟนคลับ

เข้าสู่ช่วงสุดท้าย แต่ยังไม่ท้ายสุด หนุ่มๆ ยังคงแรงดีไม่มีแผ่ว ทั้งเซอร์วิส ทั้งเอ็นเตอร์เทนทุกคนในฮอลล์ เพื่ออัพเลเวลความสนุกเรียกแฟนๆ ลุกขึ้นมาโดด ลุกขึ้นเต้นไปกับ ‘The Real’ และ ‘Run’ เพลงที่มันส์เวทีเดือด ทำเอาเอ็นเฟียจอยกันเต็มสตรีมจนไม่ยอมปล่อยให้คอนเสิร์ตจบง่ายๆ ออกตัวว่าอย่าท้าทายระบบความคิดถึง!! ไม่เจอกัน 2 ปี ต้องใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า พร้อมใจกันตะโกนเรียก 4 หนุ่มให้กลับขึ้นเวทีมาสนุกกันต่อ งานนี้โดนรีเควสด้วยเสียงเรียกดังสนั่น หนุ่มๆ ก็รีบออกมาปรากฏตัวทันที ปิดท้ายช่วงอังกอร์กับลิสต์เพลงนั่งไม่ติดเก้าอี้ทั้งโดด ทั้งเต้นจนสะใจทั้งศิลปินและแฟนคลับอย่าง ‘The World Is Mine , Don't Forget This และเพลง ‘Stand By Me’ ที่พูดได้คำเดียวว่าคอนเสิร์ตของ “N.Flying” คุ้มเกินคุ้ม! เต็มอิ่ม! และมีแต่มวลความสุขทุกโมเมนต์จริงๆ!!

แล้วครั้งหน้าผู้จัด จะพาศิลปินคนไหนมามอบความสุขให้กับแฟนๆ อีก รอติดตามได้ที่ Facebook และ IG @starfun.global หรือ Twitter @StarfunGlobal

ครั้งแรกในโลก! ป๊อปอัปสเปซของ CANELE คาแรกเตอร์แมวที่ออกแบบโดย TEN วันที่ 4-15 ธันวาคมนี้ ณ สยามเซ็นเตอร์ ชั้น G

28 พ.ย. 2567, 18:00 น.

TEN ‘ศิลปินผู้เป็นหนึ่งรอบด้าน’ จากค่ายที่บุกเบิกเค-ป๊อป SM ENTERTAINMENT ด้วยการประกาศจัด “TEN's CANELE 'THE WONDER WINTE

ป๊อปอัปสเปซอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกของคาแรกเตอร์แมวที่มีเพียงหนึ่งเดียว CANELE (กานูเล่) ผลงานการออกแบบโดย TEN (เตนล์) ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามในฐานะ ‘Artistic Performer’ (หรือ ‘ผู้แสดงที่มีศิลปะ’) ผ่านการนำเสนอเวทีที่ถ่ายทอดเสน่ห์เฉพาะตัวออกมาอย่างสง่างามทุกท่วงท่าจนสร้างความประทับใจให้แฟนคลับทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของความสามารถด้านศิลปะที่โดดเด่น

สำหรับป๊อปอัปสเปซครั้งนี้ ผู้จัดและต้นสังกัดในประเทศไทย SM True (เอสเอ็ม ทรู) ร่วมกับ SM ENTERTAINMENT (เอสเอ็ม เอนเทอร์เทนเมนต์) นำลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ CANELE (กานูเล่) มาเนรมิตเป็นพื้นที่สุดมหัศจรรย์กว่า 100 ตารางเมตร เพื่อมอบประสบการณ์แบบหาที่ไหนในโลกไม่ได้อีกแล้วนอกจากประเทศไทย ดังนั้น ทุกคนเตรียมพบกับสินค้าคอลเล็กชันพิเศษสุดพรีเมียม (THAILAND PREMIUM LIMITED EDITION MD) ซึ่งจะวางจำหน่ายที่ป๊อปอัปสเปซในประเทศไทยที่แรก รวมถึงเปิด Pre-Order ทางออนไลน์ตั้งแต่วันแรก ผ่านร้านค้า SM True Store @ Shopee (https://shopee.co.th/SMTrue) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้ารายการทัมเบลอร์และเสื้อฮู้ด ที่มีลายมือของ TEN (เตนล์) ซึ่งเจ้าตัวออกแบบมาให้เป็นพิเศษ ‘สำหรับคอลเล็กชันนี้’ ไม่เพียงเท่านี้ ยังมาพร้อมบูทถ่ายภาพ บวกเฟรมเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับงานนี้ที่แรกที่เดียว, คาเฟ่ ที่จะเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขให้ถึงระดับสิบล์ ด้วยหลากหลายเมนูสุดสร้างสรรค์ทั้งเครื่องดื่มและขนม ตลอดจนมุมถ่ายภาพ ท่ามกลางบรรยากาศที่มีการตกแต่งน่ารัก ๆ มากมาย

TEN's CANELE 'THE WONDER WINTER' POP-UP SPACE by SM True

วันและเวลา : 4 ธันวาคม 2567 (พุธ) ~ 15 ธันวาคม 2567 (อาทิตย์) เวลา 10:20~21:40 น. ของทุกวันทำการ (*เฉพาะวันแรก 4 ธันวาคม 2567 เปิดทำการเวลา 11:00~21:40 น.)

สถานที่ : ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ (Siam Center)

ค่าเข้าชม : ไม่คิดค่าบริการเข้าชมใด ๆ

นอกจากนี้ TEN (เตนล์) ส่งคลิปเซอร์ไพรส์เชิญชวนทุกคนให้มาสร้างความทรงจำดี ๆ กับเขาและ CANELE (กานูเล่) ในงานครั้งนี้

“สวัสดีครับทุกคน ผม TEN เองนะครับ วันนี้ตื่นเต้นมากที่จะได้ชวนทุกคนมาร่วมงาน TEN's CANELE 'THE WONDER WINTER' POP-UP SPACE by SM True ที่ Siam Center ชั้น G นะครับ ทุกคนจะได้เจอกับ Special Version ของ CANELE และสินค้าใหม่ ๆ หลาย ๆ อันเลยครับ พร้อมกับมีทั้ง Photo Booth และ Cafe ครับ อยากให้ทุกคนมาร่วมถ่ายรูปกันเยอะ ๆ และมาสร้างความทรงจำดี ๆ กับ TEN และ CANELE นะครับ วันที่ 4-15 ธันวาคมนี้ เดี๋ยวเราเจอกันครับ บ๊ายบาย”

ทั้งนี้ TEN (เตนล์) ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ผ่านการทำกิจกรรมโปรโมตในฐานะวง NCT (เอ็นซีที) และ WayV (เวย์วี) รวมถึงในฐานะศิลปินเดี่ยว ซึ่งเขาสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงตัวตนอันเปล่งประกายอย่างสมบูรณ์แบบเต็มสิบล์ โดยเฉพาะในปี 2567 เริ่มจากมินิอัลบั้มชุดแรก ‘TEN’ (เตนล์) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กับการคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต iTunes Top Albums ใน 28 ภูมิภาคทั่วโลก, อันดับ 1 บนชาร์ต iTunes Worldwide Album, อันดับ 1 บนชาร์ต Digital Album Sales ของ QQ Music แพลตฟอร์มเพลงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน, อันดับ 1 บนชาร์ต Real-time rising ของ AWA แพลตฟอร์มท้องถิ่นในประเทศญี่ปุ่น, อันดับ 1 บนชาร์ตอัลบั้มในประเทศเกาหลีใต้ ฯลฯ ต่อด้วยการเดินสายทัวร์แฟนคอนเดี่ยว ‘2024 TEN FIRST FAN-CON [1001]’ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน รวม 6 ภูมิภาคในเอเชีย กระแสตอบรับท่วมท้นบัตรขายหมดทุกรอบการแสดง พร้อมสร้างสถิติใหม่ขึ้นแท่นเป็น ‘ศิลปินชายเดี่ยวคนแรกของ SM ENTERTAINMENT ที่จัดแฟนคอนเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่าได้สำเร็จ 2 รอบ และบัตรหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง’ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผลงานด้านอื่น อาทิ เมนเทอร์ พิธีกร ไปจนถึงการเปิดตัวในฐานะ Presenter, Ambassador และ Brand Spokesperson ของแบรนด์ระดับโลกต่าง ๆ

คอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 7 ปี! “แทยัง” พร้อมมาหาแฟนชาวไทยแล้ว 8 ก.พ. 2568 ที่ อิมแพค อารีน่า

28 พ.ย. 2567, 11:35 น.

ศิลปินเคป๊อปขวัญใจไอดอล “TAEYANG” (แทยัง) ประกาศเอเชียทัวร์เลกใหม่ “TAEYANG 2025 TOUR [THE LIGHT YEAR] IN BANGKOK” (แทยัง 2025 ทัว

เจอกัน 8 กุมภาพันธ์ 2568 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แฟน ๆ ชาวไทยเตรียมตัวรับความฟินแสงออกหูไว้ให้ดี เพราะนี่คือคอนเสิร์ตเดี่ยวในรอบ 7 ปีของ TAEYANG รับประกันความปังทั้งไลน์ร้อง ไลน์เต้นสมกับเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ

TAEYANG เมนโวคอลประจำ “BIGBANG” (บิ๊กแบง) ศิลปินเกาหลีเจ้าของฉายา “King of K-Pop” ผู้จุดกระแสให้เพลง K-Pop ได้รับความนิยมระดับโลก ได้รับรางวัลด้านผลงานเพลงกว่า 100 รางวัล และเป็นหนึ่งในศิลปินที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล TAEYANG สมาชิกคนแรกของวงที่มีผลงานโซโล่ เดบิวต์ด้วยอัลบั้ม “Hot” (ฮอต) ด้วยแนวเพลงโซลและอาร์แอนด์บี ตามด้วยอัลบั้มชุดที่ 2 “Solar” (โซล่าร์) ที่ติดอันดับอัลบั้มอาร์แอนด์บีและโซลยอดนิยมบน iTunes อันดับ 1 ในแคนาดา และ 2 ในสหรัฐอเมริกา

ตามมาด้วยอัลบั้มสร้างชื่อ “Rise” (ไรส์) ที่มีเพลงฮิตอย่าง “Eyes, Nose, Lips” (อายส์, โนส, ลิปส์) ที่ขึ้นอันดับ 1 ติดกันกว่า 5 สัปดาห์บนชาร์ตเพลงเกาหลีใต้ รวมไปถึงการคว้ารางวัลเพลงแห่งปี (แดซัง) จากงานประกาศรางวัลใหญ่ 3 เวทีของเกาหลีใต้ในปีนั้น หลังจากนั้นได้ออกลบั้มชุดที่ 4 “White Night” (ไวท์ ไนท์) ขึ้นอันดับ 1 บน Global Chart ของ Bill-board และจากอัลบั้มนั้นทำให้ TAEYANG ประกาศเวิลด์ทัวร์กว่า 19 เมืองทั่วโลก

TAEYANG กลับมาพร้อมผลงานเพลงใหม่ในรอบ 6 ปี ด้วยซิงเกิ้ล “VIBE” (ไวบ์) ที่ได้ Jimin (จีมิน) จาก BTS (บีทีเอส) มาร่วมร้องด้วย โดยเพลงนี้เป็นผลงานเพลงแรกของ TAEYANG ที่ติดชาร์ต Billboard Hot 100 ในอันดับ 76 และ Billboard Global Chart อันดับ 9 ความสามารถของ TAEYANG ไม่เพียงแต่เป็นที่ยอมรับในหมู่แฟนเพลง แต่นักวิจารณ์เพลงหลาย ๆ สำนักต่างยกย่องให้เขาเป็นศิลปิน All Rounder (คนที่มีความสามารถรอบด้าน) โดย The New York Times เคยกล่าวว่า TAEYANG เป็นสมาชิกที่โดดเด่นที่สุดของ BIGBANG “TAEYANG กินเวทีด้วยการแสดงแบบทุ่มสุดพลังของเขา” เช่นเดียวกับที่ The Straits Times ยกย่องให้ TAEYANG เป็น ‘Dancing King ของวงการ K-POP’

นอกจากความสามารถในวงการเพลงแล้ว TAEYANG ยังมีอิทธิพลในวงการแฟชั่น ทั้งเป็นหนึ่งในตัวหลักของ Calvin Klein ในแคมเปญฉลองครบรอบ 20 ปี ออกคอลเลคชั่นพิเศษ “Fendi for Taeyang” ร่วมกับแบรนด์ Fendi และเมื่อปีที่แล้ว TAEYANG ได้กลายเป็น Local & Global Ambassador ของแบรนด์ดัง GIVENCHY อีกด้วย

แฟน ๆ ห้ามพลาดกับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 7 ปีของ TAEYANG “TAEYANG 2025 TOUR [THE LIGHT YEAR] IN BANG-KOK” บัตรราคาเริ่มต้น 2,800 บาท ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง livenationtero.co.th และโซเชียลมีเดียของ Live Nation Tero

ล่องลอยไปกับดนตรีไร้พรมแดน ใน Yuki Kajiura LIVE vol.#20 "Asia Tour 20th Special SETLIST" คอนเสิร์ตที่เต็มอิ่มไปถึงจิตวิญญาณ

26 พ.ย. 2567, 17:00 น.

Yuki Kajiura LIVE vol.#20 "Asia Tour 20th Special SETLIST" ซึ่งจัดขึ้นในค่ำคืนวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ณ Union Hal

ที่สร้างสรรค์ผลงานเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ในแวดวงอนิเมะ เกม และภาพยนตร์ คอนเสิร์ตนี้เป็นเหมือนการเชื่อมโยงดนตรีไร้พรมแดน ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ผ่านเพลงที่เปรียบเสมือนการ “ปรุงอาหาร” อันประณีต ซึ่งเธอเรียกความลงตัวของเพลงว่าเป็น “ความอร่อย” ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเต็มอิ่มทั้งด้านอารมณ์และจิตวิญญาณ

บรรยากาศในงานอบอวลไปด้วยพลังของนักดนตรีสดและศิลปินที่ร่วมแสดง ถ่ายทอดบทเพลงที่ผสมผสานความเป็นเอเชียและสากลได้อย่างงดงาม ทำให้คอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการแสดงดนตรี แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่สะท้อนถึงความลึกซึ้งของวัฒนธรรมและอารมณ์ร่วมที่ไร้ขอบเขตทางภาษาและเชื้อชาติ

สำหรับ Yuki Kajiura LIVE vol.#20 "Asia Tour 20th Special SETLIST" เกิดขึ้นด้วยแนวคิดของ "Yuki Kajiura" ศิลปินเอกเจ้าของคอนเสิร์ต ที่ว่า “ดนตรีไม่มีพรมแดน” และ “ดนตรีคือความสนุก” จนเกิดเป็น Special SET LIS ที่รวบรวมเอาเพลงที่อยู่ในความทรงจำในวัยเยาว์ เพลงโปรดที่ปลุกปั้น “แรงบันดาลใจ” ของทุกคนเอาไว้ n

ไม่ว่าจะเป็นเพลงเปิดคอนเสิร์ตอย่าง the world ที่เปิดหูแฟนๆ ให้ฟินตัวลอยตั้งแต่เริ่ม ก่อนจะพาทุกคนล่องลอยไปกับบทเพลงที่พร้อมจะทำให้ทุกคนตกอยู่ในภวังค์ อาทิ in the land of twilight,under the moon, vanity, my long forgotten cloistered sleep, I swear, Fiction, I reach for the sun, in the garden of sinners, ARIA, Kimi no Gin no Niwa, ring your bell, to the beginning, Yasashii Yoake, obsession, Senya Ichiya, The main theme of L.O.R.D, absolute configuration, luminous sword, Soukyuu no Fanfare, the image theme of Xenosga II, nowhere และ into the world

ผ่านการแสดงโชว์จากเหล่าศิลปิน นักร้อง นักดนตรีมากความสามารถ นำโดยเสียง “เปียโน” เครื่องดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ของ "Yuki Kajiura" ที่บรรเลงร่วมไปกับเสียงไวโอลิน, ฟรุต, กีตาร์, เบส, กลอง, Percussion ของเหล่าทัพนักดนตรีคู่ใจได้อย่างลงตัว โดยมีสาวๆ Vocal มากความสามารถอย่าง KEIKO, YURIKO KAIDA, JOELLE, RITO และ LENO LEIA มาขับกล่อม ถ่ายทอดอารมณ์เพลงให้ดำดิ่งไปกับมวลความหนัก แน่น อ่อนไหว สนุกสนาน โชว์ไลน์ประสานเสียงที่เป็นหนึ่งเดียวกันจนน่าขนลุก และอีกหนึ่งแขกรับเชิญพิเศษ Hikaru ที่พลังเสียงของเธอทำให้ค่ำคืนนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ทั้ง “Yuki Kajiura” และทีมแห่งพรสวรรค์ของเธอ ทำให้แฟนเพลงต่างตกอยู่ในภวังค์ แฟนๆ ทุกคนล้วนตั้งใจฟังเพลงที่พวกเขาบรรเลงออกมาราวกับเสียงเพลงนั้นซึมลึกเข้าไปถึงจิตวิญญาณของพวกเขา มีเสียงปรบมือเกรียวกราวเป็นอารมณ์ร่วม รวมถึงการลุกขึ้นยืน ชูมือ ชูกำปั้นออกไปตามจังหวะเพลง เป็นการแสดงถึง “ความสนุก” “ความสุข” ที่ถึงใจสมกับการตั้งตารอคอย

ขณะเดียวกัน “Yuki Kajiura” ก็ได้ทักทาย พูดคุยกับแฟนเพลงของเธอเป็นภาษาไทยที่เตรียมตัวมาอย่างดี “สวัสดีค่ะ สุขสันต์วันลอยกระทงค่ะ วันนี้ได้เจอทุกคนดีใจมากค่ะ” รวมถึงนักดนตรี และสาวๆ โวคัล ต่างออกมาทักทายแฟนๆ ด้วยความกระตือรือร้น ทั้งการพูดภาษาไทย และชมอาหารไทยเมนูโปรดให้ทุกคนได้ฟัง โดยเฉพาะ “Yuki Kajiura” ที่ติดใจอาหารไทยขั้นสุด ยกให้ “น้ำจิ้มไก่” คือที่สุด! เอ่ยคำว่า “อร่อย” ชมไม่ขาดปาก ซึ่งหากเปรียบคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นอาหารก็คงจะ “อร่อย” ถูกปาก เต็มอิ่มสมใจทั้งผู้ชมและผู้เล่น และนอกจากจะชมอาหารไทย “Yuki Kajiura” ยังไม่ลืมที่จะชมแฟนเพลงชาวไทย ที่เธอยกให้เป็น Wonderful People เป็นผู้ชมที่ทำให้เธอประทับใจจนสัญญาว่าจะกลับมาเล่นที่นี่อีกครั้ง! งานนี้แฟนๆ ชาวไทย แม้จะไม่ได้ไปลอยกระทง แต่เชื่อว่าทุกคนได้ลอยละล่องไปกับมวลเพลงแห่งความสุขที่ “Yuki Kajiura” มอบให้เป็นที่เรียบร้อย

สำหรับ Yuki Kajiura LIVE vol.#20 "Asia Tour 20th Special SETLIST" ถือเป็นคอนเสิร์ตส่งท้ายปีจากผู้จัดมากคุณภาพอย่าง Avalon Live (อาวาลอน ไลฟ์) ที่ทำออกมาได้อย่างดีสมความคาดหมาย เป็นอีกหนึ่งงานคอนเสิร์ตดีๆ ที่สร้างความทรงจำอันมีค่าและน่าประทับใจให้แฟนเพลงได้มากมาย

กลับมาเล่นเทปแห่งความทรงจำ! JAY B เพื่อนรักอากาเซ่ พร้อมมอบความพิเศษ คอนเสิร์ต 2 รอบอิมแพคฯ 11-12 ม.ค. 68

26 พ.ย. 2567, 13:01 น.

“JAY B” ศิลปินมากความสามารถ ภายใต้สังกัด “MAUVE Company” ประกาศข่าวดีการกลับมาจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยอีกครั้ง แบบไม่ทำให้แฟนคลับช

ในงาน “2024-2025 JAY B CONCERT [TAPE: RE LOAD] IN BANGKOK” โดยทัวร์คอนเสิร์ตในครั้งนี้ รอบแรกจะถูกจัดขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ช่วงปลายปี 2567 นี้ และเพื่อนรักก็จะบินลัดฟ้ามาที่ประเทศไทยต่อในทันที ถือเป็นของขวัญและเซอร์ไพรส์ใหญ่ต้อนรับปีใหม่ 2568 ให้กับอากาเซ่ชาวไทยทุกคน! งานนี้ถือเป็นการการันตีได้เป็นอย่างดีว่า เจบีมีความผูกพันและมีความทรงจำที่ดีกับแฟน ๆ ชาวไทยอยู่เสมอ และประเทศไทยจะเต็มไปด้วย “ความพิเศษ” ในทุกครั้งที่ได้กลับมาบ้านหลังนี้

เจบีได้ออกอัลบั้มแรกหลังจากห่างหายไปนาน เนื่องจากต้องเข้ารับราชการทหารในประเทศเกาหลีใต้ โดยอัลบั้ม Archive 1: [Road Runner] มีสไตล์และอารมณ์ที่หลากหลาย เป็นสิ่งที่เจบีอยากจะบอกกับแฟนคลับ ตั้งแต่ความรักที่สดใหม่ พลังงานและความตื่นเต้นที่รู้สึกได้เมื่ออยู่บนเวที รวมไปถึงความอบอุ่นและการแสดงออกทางอารมณ์ในด้านต่าง ๆ แต่ละเพลงให้เสน่ห์ที่แตกต่างกัน ถ่ายทอดจากความทรงจำและประสบการณ์ทั้งหมดบนเส้นทางของเจบีที่ผ่านมา เทปที่เคยกดหยุดไปจะกลับมารันและมีชีวิตอีกครั้งผ่านอัลบั้มนี้

ซึ่งนอกจากเพลงใหม่ของเจบีที่แฟนชาวไทยจะได้ฟังกันสด ๆ แล้ว งานนี้ยังสามารถการันตีความพิเศษแบบคอมโบเซ็ทได้เลย เพราะได้ “BEX” บริษัทอีเว้นท์ออกาไนเซอร์ในเครือเวิร์คพอยท์กรุ๊ป ผู้จัดคู่บุญเจ้าเก่าเจ้าเดิมที่แฟน ๆ รู้จักกันเป็นอย่างดี ร่วมกับ YJ PARTNERS และ PROUD2 พาร์ทเนอร์ทีมคุณภาพมาร่วมกันสร้างสรรค์ โดยเจบีและทีมผู้จัดก็ได้จัดเตรียมเซอร์ไพรส์ใหญ่ไว้ให้แฟน ๆ ชาวไทยเพียบ! ทั้งคุณภาพงานโชว์ แสง สี เสียง Production สุดปังที่ไม่เคยทำให้แฟน ๆ ต้องผิดหวัง SETLIST โชว์จากอัลบั้มใหม่และสเตจเพลงที่ทุกคนคิดถึง รวมถึงเวทีคอนเสิร์ตสุดใกล้ชิดที่เตรียมไว้ให้แฟนไทยโดยเฉพาะอีกด้วย!

โดยงาน “2024-2025 JAY B CONCERT [TAPE: RE LOAD] IN BANGKOK” จะถูกจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 และ วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2568 เวลา 18:00 น. ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี บัตรราคา 6,500 / 6,300 (บัตรยืน) / 5,900 / 5,500 / 3,900 / 3,500 และ 2,900 บาท โดยแต่ละราคาจะได้รับสิทธิพิเศษ ดังนี้

บัตรราคา 6,500 และ 6,300 บาท จะได้รับสิทธิพิเศษ SOUND CHECK และ GOODBYE SESSION ทุกที่นั่ง / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้ถ่ายภาพร่วมกับศิลปิน PHOTO GROUP (1:10) จำนวน 25 คน / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับ SIGNED POLAROID จำนวน 25 คน / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับ SIGNED POSTER จำนวน 50 คน

บัตรราคา 5,900 บาท จะได้รับสิทธิพิเศษ SOUND CHECK ทุกที่นั่ง / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้ถ่ายภาพร่วมกับศิลปิน PHOTO GROUP (1:10) จำนวน 80 คน / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับ SIGNED POLAROID จำนวน 20 คน / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับ SIGNED POSTER จำนวน 25 คน

บัตรราคา 5,500 บาท จะได้รับสิทธิพิเศษ SOUND CHECK ทุกที่นั่ง / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้ถ่ายภาพร่วมกับศิลปิน PHOTO GROUP (1:10) จำนวน 80 คน / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับ SIGNED POLAROID จำนวน 15 คน / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับ SIGNED POSTER จำนวน 25 คน

บัตรราคา 3,900 บาท จะได้รับสิทธิพิเศษร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้ถ่ายภาพร่วมกับศิลปิน PHOTO GROUP (1:10) จำนวน 20 คน / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับ SIGNED POLAROID จำนวน 10 คน / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับ SIGNED POSTER จำนวน 20 คน

บัตรราคา 3,500 บาท ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้ถ่ายภาพร่วมกับศิลปิน PHOTO GROUP (1:10) จำนวน 20 คน / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับ SIGNED POLAROID จำนวน 5 คน / ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับ SIGNED POSTER จำนวน 20 คน

บัตรราคา 2,900 บาท จะได้รับสิทธิพิเศษร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับ SIGNED POSTER จำนวน 10 คน

และบัตรทุกที่นั่งจะได้รับบัตรแข็งที่ระลึก / EXCLUSIVE PHOTOCARD (1EA) และ OFFICIAL POSTER อีกด้วย

โดยเปิดจำหน่ายบัตรในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2567 เวลา 10:00 น. ทางออนไลน์ที่ www.thaiticketmajor.com และวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2567 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป บัตรจะเปิดจำหน่ายทุกช่องทาง แฟน ๆ ที่คิดถึงเพื่อนรักคนนี้ ก็อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาร่วมสร้างเทปความทรงจำม้วนใหม่ไปด้วยกันน้า โดยสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมและข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ X: @BEX_Concert

เก็บตกภาพความสุข “ฟรีน - เบ็คกี้” พาทุกคนอำลาตัวละคร “ปิ่นภักดิ์” ในงาน “The Loyal Pin Final Episode”

20 พ.ย. 2567, 10:55 น.

เดินทางมาจนถึงบทสรุปสุดท้ายของเรื่องแล้วกับเรื่องราวของความรักต่างฐานันดรในซีรีส์ GL แนวพีเรียดเรื่อง “ปิ่นภักดิ์” (The Loyal Pin

“เบ็คกี้ - รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง” ในบทบาท “ท่านหญิงอนิล” และ “ฟรีน - สโรชา จันทร์กิมฮะ” ในบทบาท “คุณปิ่น” ซึ่งในงานนี้แฟนๆ ได้นั่งดูตอนจบไปพร้อมกับเหล่านักแสดงในเรื่องและได้ชมโชว์สุดพิเศษมากมายบนเวทีกับงาน “The Loyal Pin Final Episode” จัดขึ้น ณ สยามภาวลัย รอยัลแกรนด์เธียเตอร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

งานเริ่มด้วยนั่งดูซีรีส์ปิ่นภักดิ์ตอนจบไปพร้อม ๆ กัน จากนั้นเหล่านักแสดงในเรื่องทยอยขึ้นเวทีเพื่อส่งมอบความสุขและรอยยิ้มในกับแฟนซีรีส์ โดยเริ่มที่คู่ขวัญของเรื่องอย่าง “ฟรีน-เบ็คกี้” กับเพลงประกอบซีรีส์ “Until That Day” เสียงหวานๆ ของทั้งคู่ทำเอาแฟนๆ ซึ้งและยิ้มตาม

จากนั้นพิธีกรขึ้นกล่าวทักทายและสัมภาษณ์ทั้งคู่บนเวที จากนั้นเป็นโชว์ร้องเดี่ยวของ “ฌาร์ม โอสถานนท์ ” ในเพลง “How do i live”, และเพลงฮิตอย่าง “sorry” จากสามเพื่อนสาวสุดซี้ “ฟรีน เบ็คกี้ ลูกน้ำ” ต่อด้วยการประมูลภาพบนเวทีจำนวน 2 ภาพรายได้จากการประมูลส่งมอบให้กับ มูลนิธิพิทักษ์สตรี(AAT) โดยไม่หักค่าใช้จ่าย ยอดรวมทั้งหมด 140,000.-บาท หลังจากที่ประมูลภาพเสร็จเป็นโชว์ของ 2 สาว “แพร เนลินญาน์” และ “สองเจ็ด สโรชินี” ในเพลงน่ารักๆ อย่าง “ผ้าเช็ดหน้า” โชว์สุดท้ายด้วยเพลงซีรีส์ “ชีวี” ที่เหล่านักแสดงออกมาร้องร่วมกัน ปิดท้ายด้วยการสัมภาษณ์นักแสดงทั้งหมดพร้อมกับการบอกลาตัวละครและส่งตัวละครกลับคืนสู่นิยาย และกิจกรรมปิดงาน Hi-Bye และ Mini Talk ถือเป็นการประกาศปิดจบซีรีส์ไปแบบอิ่มความสุขและประทับใจ