Mariah Carey Bio
Mariah Carey ศิลปินหญิงชาวอเมริกัน อีกหนึ่งตำนานดีว่าระดับโลก ผู้เป็นทั้ง นักร้อง นักแต่งเพลง นักแสดง และ มีเพลงฮิตมากมาย อาทิเช่น “Vision of Love”, “Hero” , “One Sweet Day”, “Always Be My Baby”,”My All” “We Belong Together” ,“Touch My Body” ล่าสุดกับ “#Beautiful” และ “Your Are Mind (Eternal)”
ด้วยผลงานสตูดิโอ กว่า 14 อัลบั้ม และ ยอดขายกว่า 200 ล้านอัลบั้มทั่วโลก รวมถึงรางวัลอีกมากมายที่เธอได้รับ ทั้ง Grammy Awards, Billboard Music Awards, American Music Awards และ BRIT Awards ทำให้เธอ Mariah Carey เป็นศิลปินหญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล อีกคนหนึ่งของประวัติศาสตร์วงการดนตรี และเธอคือศิลปินหญิงเดี่ยวที่มีผลงานซิงเกิ้ลเพลงฮิตอันดับ 1 มากที่สุดใน Billboard Chart (18 เพลง)
นอกจากนี้ Mariah Carey ยังได้ร่วมงานกับศิลปิลชั้นนำมาแล้วมากมาย อาทิเช่น Whitney Houston / Boyz II Men / Usher / Luther Vandross / Westlife / Jay –Z / Ne-Yo ทำให้งานเพลงของเธอมีความ หลากหลายมากขึ้นทั้งใน ลูกเล่น และ สไตล์ดนตรี โดยเฉพาะกับเพลง "One Sweet Day" ที่เธอร่วม Featuring กับ Boyz II Men ที่ครองสถิติอันดับ 1 ยาวนานที่สุด ใน Billboard Hot 100
Early Music Career
Mariah Carey หรือ Mariah Angela Carey เกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1970 ที่ Long Island, New York ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี1990 Mariah Carey เริ่มต้นอาชีพนักร้องของเธอ กับค่ายเพลง โคลัมเบีย เรคคอร์ด (Columbia Records)ภายใต้การชักนำของผู้บริหารค่ายเพลง ทอมมี มอตโตลา (Tommy Mottola) ซึ่งเป็นสามีคนแรกของเธอ
ภายใต้ผลงานชุดแรกของเธอ ที่มีชื่อว่า Mariah Carey ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม โดยมี 4 ซิลเกิ้ลฮิตอย่าง “Vision of Love," "Love Takes Time," "Some Day," และ"I Don't Wanna Cry." เป็นซิงเกิ้ลฮิตประจำอัลบั้ม และ ขึ้นไปติดอันดับหนึ่ง อย่างรวดเร็ว ทำให้เธอได้กลายเป็นศิลปินคนแรกที่มี 4 ซิงเกิ้ลแรก ติดชาร์ตอันดับ 1 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ซิงเกิ้ล (Billboard Hot 100 Singles ) และ ในปีต่อมา Mariah Carey ก็ได้รับรางวัล Grammy Awards ในสาขา ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (Best New Artist) และ ศิลปินป็อปฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม (Best Female Pop Vocal Performance) และนี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ความสามารถของเธอ บนเส้นทางดนตรี ในปี ค. ศ. 1991 Mariah Carey ได้ออกอัลบั้มที่ 2 ของตัวเองที่ชื่อว่า Emotions พร้อมเพลงฮิต ”Emotions” ที่ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 เป็นเพลงที่ 5 รวมทั้งเพลงฮิต "Can't Let Go" และ "Make it Happen."ก็ทำให้เธอเป็นที่รู้จักมากขึ้น หลังจากอัลบั้มที่ 2 ของเธอ ตั้งแต่ปี 1992 – ปี 2000 Mariah Carey ยังมีซิงเกิ้ลฮิตอันดับ 1ใน Billboard Hot 100 Singles อีกถึง10 เพลง “I’ll Be There (Unplugged) (1992)”, “Dream Lover (1993)”, “Hero (1993)”, “Fantasy” (1995), “One Sweet Day” (1995) Feat. Boyz II Men, “Always Be My Baby” (1995), “Honey” (1997), “My All”(1997) , “Heart Breaker” (1999) Feat. Jay -Z และ “Thank God I Found You” (1999).
ต่อมาในปี 2001 หลังจากออกจากค่ายโคลัมเบีย เรคคอร์ด (Columbia Records) Mariah Carey ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทางค่าย เวอร์จิน เรคคอร์ด (Virgin Records ) แต่ความนิยมของเธอได้ลดลงไป ส่วนหนึ่งมาจากกระแสวิจารณ์ด้านลบจากภาพยนตร์เรื่อง Glitter ที่เธอร่วมแสดงนำ จนกระทั่งในปี 2005 ที่เธอกลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ กับอัลบั้มThe Emancipation of Mimi (2005) กับซิลเกิ้ลฮิต อันดับหนึ่ง “We Belong Together” และ “Don’t Forget About Us” ส่วนในปี 2008 กับอัลบั้ม E=MC² (2008) ด้วยซิงเกิ้ลฮิตอันดับ 1 อย่าง “Touch My Body”,
ล่าสุดกับผลงาน ในปี 2014 กับอัลบั้ม Me. I Am Mariah... The Elusive Chanteuse กับงานเพลงที่มีกลิ่นอาย R & B อย่างเต็มตัว และได้ร่วมงานกับศิลปิน R & B ที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เช่น NAS, Wale และ Miguel ศิลปินเจ้าของรางวัล Grammy Awards 2013 ในสาขา Best R&B Song
Love Radio 104.5 ชวนคุณมาพบกับอีกหนึ่งปรากฏการณ์แห่งปีกับ กับดีว่านักร้องระดับโลกในตำนาน Mariah Carey ที่ครั้งนี้เธอจะกลับมา ให้แฟนเพลงชาวไทย ได้ประทับใจกันอีกครั้งกับคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่แห่งปี
‘’The Elusive Chanteuse Show Live in Bangkok“
แล้วพบกัน กับค่ำคืนสุดพิเศษ 30 ตุลาคม 2557
บัตรราคา 8,000 / 6,000/ 5,000/4,000/2,500/1,500 (Baht) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Thai Ticket Major CALL CENTER 02-262-3456
|