13 เมนูในโคนไอศกรีมสุดเก๋ อร่อยได้แบบไม่ซ้ำใคร
ใครว่าโคนไอศกรีมมีไว้ใส่ไอศกรีมอย่างเดียว รีบเปลี่ยนความคิดแล้วมาดูเมนูอาหารสุดสร้างสรรค์จากโคนวาฟเฟิล ที่เห็นแล้วไม่อยากลองกัดสักคำให้มันรู้กันไป
โคนวาฟเฟิลหรือโคนไอศกรีมทรงกรวยที่ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นกันตามร้านที่ขาย ไอศกรีมก็ย่อมมีหน้าที่เอาไว้ใส่ไอศกรีม แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะไม่รู้นั่นก็คือ โคนที่เอาไว้ใส่ไอศกรีมนี้เองสามารถนำมาดัดแปลงเป็นเมนูอาหารและขนมทั้ง คาว-หวานได้อย่างเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร และมาในแบบที่คุณอาจจะยังไม่เคยเห็นมาก่อน วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมเมนูโคนสุดเก๋มาฝากกัน บอกเลยว่าแต่ละเมนูเด็ดจริงจัง ถ้าได้กินแล้วจะต้องติดใจ
ภาพจาก Serious Eats
1. พิซซ่าโคน
เริ่มต้นกันกับเมนูโคนเก๋ ๆ ด้วยเมนูพิซซ่าโคน คนที่ชอบรับประทานพิซซ่าต้องชอบเมนูนี้กันอย่างแน่นอน เพราะแป้งพิซซ่าที่เคยเป็นแผ่นกลม ๆ ทำให้อาจจะรับประทานลำบาก จะแปลงร่างเป็นโคนที่สามารถรับประทานกันได้ไม่ต้องกลัวเปื้อนมือเลยล่ะ
ดูวิธีทำได้ที่ backforsecondsblog.com
2. บราวนี่โคน
สร้างสรรค์ขนมหวานฮอตฮิตจากบราวนี่แสนธรรมดาก็เปลี่ยนให้กลายเป็นเมนูสุดน่า รัก โดยการนำบราวนี่ที่อบร้อน ใส่ลงไปในโคนไอศกรีม แล้วบีบครีมสดที่ผสมสีหวาน ๆ ลงไปให้เหมือนไอศกรีม จากนั้นโรยเกล็ดน้ำตาลหลากสีอีกหน่อยก็เรียบร้อย
ภาพจาก metro.co.uk
3. มันบดและไส้กรอกโคน
ลืมมันบดในถ้วยกลม ๆ แบบเดิม ๆ ไปได้เลย นำมาทำเก๋ด้วยการนำมันบดและไส้กรอกมาใส่ในโคนไอศกรีม ราดด้วยน้ำเกรวี่ แล้วโรยด้วยถั่วลันเตา แบบนี้ก็สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องกลัวยุ่งยากเลยล่ะ
ดูวิธีทำได้ที่ ohbiteit.com
4. ชินนามอนโรลโคน
ชินนามอนโรล ขนมปังนุ่ม ๆ หอมกลิ่นอบเชยลงไปอยู่ในโคนไอศกรีมเห็นแล้วยิ่งหน้าหม่ำ แค่เพียงนำแป้งชินนามอนโรลใส่ลงในโคนแล้วนำไปอบจนสุก เสร็จแล้วนำออกจากเตามาราดด้วยซอสน้ำตาลไอซิ่งวานิลลา ก็ได้ชินนามอนโรลสุดกิ๊บเก๋ไว้กินแบบเท่ ๆ แล้ว
ภาพจาก seouleats.com
5. สปาเกตตีโคน
คราวนี้มาถึงคิวอาหารคาวกันบ้าง เริ่มกันด้วยอาหารอิตาเลี่ยนฮิต ๆ อย่างสปาเกตตีที่จับไปยัดใส่อยู่ในโคนวาฟเฟิล นอกจากจะอร่อยกว่าเดิมแล้ว ที่สำคัญยังกินสะดวกสุด ๆ ไม่ต้องใช้ส้อมให้ยุ่งยากอีกด้วย
ภาพจาก dudefoods.com
6. สลัดซีซาร์โคน
ถ้าอยากกินเมนูโคนแบบแคลอรีต่ำหน่อย ก็ต้องเมนูนี้เลย สลัดซีซาร์ในโคนวาฟเฟิลกรอบ ๆ ไม่ต้องใส่ขนมปังกรอบลงไป เพราะมีวาฟเฟิลกรอบ ให้เคี้ยวกรุบ ๆ พร้อมกันสลัดแล้ว
ดูวิธีทำได้ที่ pleasantestthing.com
7. มัฟฟินโคน
มัฟฟินแสนอร่อยที่เหมาะจะเป็นอาหารเช้า อาหารว่าง หหรือขนมกินเล่นเพลิน ๆ ลองมาเพิ่มความสะดวกในการกัดกินด้วยการทำเป็นมัฟฟินในโคนไอศกรีม ไม่ต้องเสียเวลากินมื้อเช้าหยิบไปไหนมาไหนด้วย สะดวกสุด ๆ
ดูวิธีทำได้ที่ pitch.com
8. อาหารเช้าในโคนเบคอน
โคนวาฟเฟิลธรรมดาก็ฟินจะแย่อยู่แล้ว เมนูโคนนี้ยังเอาเบคอนมาพันให้เป็นโคนทรงกรวย ใส่ไส้กรอก ไข่คน ราดน้ำเกรวี่ โรยชีสและปิดด้านบนด้วยบิสกิตแบบโฮมเมด นำไปอบจนเบคอนกรอบ ก็จะได้ของกินเล่น หรืออาหารเช้าที่ไม่เหมือนใครแล้วล่ะ
ภาพจาก dudefoods.com
9. โคนทาโก้แบบเม็กซิกัน
ปกติเราก็มักจะรับประทานทาโก้กันในแบบแป้งพับเป็นแผ่น ๆ ใช่ไหมละค่ะ ถ้าอย่างนั้นลองเปลี่ยนบรรยากาศมากินทาโก้ในรูปโคนกันบ้าง แค่เพียงนำแป้งข้าวโพดมาจี่ในสุกบนกระทะแบน แล้วค่อย ๆ พับแป้งให้เป็นรูปกรวย จากนั้นก็นำเครื่องทาโก้มาใส่ตามชอบ เท่านี้ก็จะได้ทาโก้โคนแป้งกรอบ ๆ เก๋ ๆ ไว้กินเพลิน ๆ แล้ว
ดูวิธีทำได้ที่ justataste.com
10. ซาซิมิปลาทูน่าในโคนแผ่นแป้งมิโซและงา
อาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่นที่น่ารักประทานถูกใจคอปลาดิบ กับซาซิมิปลาทูน่าที่อยู่ในโคนจากแผ่นแป้งซอสมิโซและงา โรยต้นหอมอีกนิด ก็ได้รสชาติสไตล์ญี่ปุ่น
ภาพจาก garden-larder.blogspot.com
11. พายฟักทองโคน
ปัญหาเรื่องทำแป้งพายสำหรับทำพายต่าง ๆ จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปเมื่อใช้โคนไอศกรีมเป็นแป้งพายแทน แค่นำส่วนผสมของเนื้อพายฟักทองใส่ลงในในโคนไอศกรีมแล้วนำเข้าไปอบให้สุก อร่อยไปอีกแบบล่ะบอกเลย
ภาพจาก foodbeast.com
12. ไก่ป๊อปในโคนวาฟเฟิล
ไก่ป๊อปที่เคยใส่ไว้ในกล่องกระดาษหยิบกินทีไรยากจะหักห้ามใจ กินแล้วก็ต้องทิ้งกล่อง ลองจับไก่ป๊อปไปใส่ไว้ในโคนวาฟเฟิล ราดด้วยน้ำเชื่อมเมเปิลหอม ๆ รสสัมผัสกรุบกรอบและรสชาติหวานมันจากนำเชื่อมเมเปิล ให้จะอดใจไหว
ดูวิธีทำได้ที่ seevanessacraft.com
13. โคนผลไม้รวม
ของหวานน่ารัก ๆ สีสันสดใสเหมาะสำหรับเด็ก ๆ อย่างโคนไอศกรีมชุบไวท์ช็อกโกแลต โรยด้วยเกล็ดน้ำตาลหลากสี และใส่ด้วยผลไม้สด ๆ อย่างสตรอว์เบอร์รีและบลูเบอร์รี แต่อย่าลืมใช้ถ้วยกระดาษคัพเค้กรองก่อนจะใส่ผลไม้ลงไปนะ ไม่อยากนั้นโคนไอศกรีมอาจจะนิ่มได้
เห็นแล้วก็ชวนน้ำลายสอทั้งนั้นเลยเนอะ ใครจะไปคิดว่าโคนวาฟเฟิล หรือโคนไอศกรีมจะกลายเป็นเมนูแสนอร่อยได้ ใครที่อยากลองความแปลกใหม่ก็ขอแนะนำให้ไปลองทำรับประทานกันอยู่นะ รับรองว่าทำออกมาแล้วคนกินต้องแปลกใจในความสร้างสรรค์อย่างแน่นอนเลยล่ะ
ที่มา :