เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2560 เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุม 127 ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และสมาคมนักข่าวและช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวก่อนเกมฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก “มีต เดอะ เพรส” นัดที่ 31 พร้อมกับเปิดตัวถ้วยรางวัลชนะเลิศของฟุตบอลไทยลีก 1 ถึง ไทยลีก 4 และถ้วยรางวัลชนะเลิศฟุตบอลช้างเอฟเอคัพ อย่างเป็นทางการ ซึ่งถ้วยรางวัลดังกล่าวจะมอบให้ทีมที่ชนะเลิศในแต่ละลีกหลังจบ ฤดูกาล 2017 ทันที

 

การแถลงข่าวครั้งนี้มี พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธาน พร้อมด้วยตัวแทนจากสโมสร และสื่อมวลชนที่เข้ามาทำข่าวอย่างคับคั่ง

 

โดย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้กล่าวถึงถ้วยรางวัลดังกล่าวว่า “ในปัจจุบันรูปแบบการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศไทย ได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงการเรียกขาน จากอดีตมีการแข่งขันฟุตบอลสมัครเล่น ถ้วยรางวัลที่ใช้จะเป็นถ้วยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระราชทานไว้ ปัจจุบันการแข่งขันฟุตบอลได้มีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งได้พัฒนามาเป็นฟุตบอลอาชีพ การที่นำถ้วยพระราชทาน ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ได้พระราชทานไว้สำหรับการแข่งขันฟุตบอลสมัครเล่นมาใช้ถือเป็นเรื่องไม่บังควร หรือผิดพระราชประสงค์ของพระองค์ท่าน”

 

“เพื่อให้ถ้วยรางวัลที่ใช้ในการแข่งขันเข้ากับกาลสมัย ที่เป็นการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ เพื่อความเหมาะสมและถูกต้อง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จึงเห็นว่าควรจะทำถ้วยสำหรับการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ อาทิ ไทยลีก 1 ถึง ไทยลีก 4 เพื่อความเหมาะสมและถูกต้องเข้ากับกาลสมัยฟุตบอลอาชีพ”

 

“สมาคมฯ เห็นว่าเพื่อเป็นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เข้ากับยุคสมัย รูปแบบของถ้วยรางวัลควรจะสอดคล้องกับการแข่งขันลีกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์และสีประจำการแข่งขันแต่ละลีก ถ้วยฟุตบอลเอฟเอคัพก็เช่นกัน”

 

“เราได้ว่าจ้างบริษัทผลิตถ้วยรางวัลจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกันที่ทำถ้วยฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทำให้มั่นใจว่ารูปแบบและมาตรฐานการผลิตจะอยู่ในระดับโลกเป็นที่ยอมรับแน่นอน ผมมั่นใจว่ารูปแบบถ้วยรางวัลไทยลีก 1 ถึง ไทยลีก 4 และถ้วยรางวัลฟุตบอลเอฟเอคัพ จะเป็นถ้วยที่เหมาะสมและจะใช้ในฟุตบอลอาชีพสืบไป”

 

“ตอนนี้ถ้วยรางวัลดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และพร้อมใช้ในฤดูกาล 2017 ผมต้องขอแสดงความยินดีกับสโมสรที่ได้แชมป์ไทยลีก 1 ถึง ไทยลีก 4 และฟุตบอลถ้วยช้างเอฟเอคัพ ในฤดูกาล 2017 เพราะสโมสรเหล่านั้นจะเป็นสโมสรแรกที่จะได้จารึกชื่อสโมสรตนเองไว้ที่ฐานของถ้วยรางวัลใหม่ครับ”

ที่มา : FA Thailand